ฮาลาลไทยตีตลาดโลกทะลุ 2.7 หมื่นล้านบาท
สินค้าอาหารฮาลาลไทยตีตลาดโลก กรมเจรจาเผย 8 เดือนส่งออกไป 2.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อันดับ 8 ของโลก และอันดับ 3 ของอาเซียน โดยสินค้าที่ส่งออกสำคัญคือ น้ำตาลทราย ข้าว ผลไม้ ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง เป็นต้น
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เผย สินค้าอาหารฮาลาลไทยสุดปัง 8 เดือนปี 66 ส่งออกไปตลาดกลุ่มประเทศ OIC มูลค่า 4,125.69 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลาดอินโดนีเซีย มาเลเซีย อิรัก UAE และซาอุดีอาระเบีย มาแรง สินค้าน้ำตาลทราย ข้าว เนื้อไก่ โตต่อเนื่อง ชวนใช้ FTA ขยายส่งออกไปตลาดคู่ค้า พร้อมเร่งปิดดีล FTA กับ UAE และฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ซาอุดีอาระเบีย เปิดประตูการค้าไทยสู่กลุ่มประเทศ GCC
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์การส่งออกสินค้ากลุ่มฮาลาล พบว่า ปัจจุบันไทยเป็นผู้ส่งออกสินค้ากลุ่มฮาลาล เป็นอันดับ 3 ในอาเซียน รองจากอินโดนีเซียและมาเลเซีย และอันดับ 8 ของโลก โดยในช่วง 8 เดือน (ม.ค.-ส.ค. 2566) ไทยส่งออกสินค้ากลุ่ม อาหารฮาลาลไปตลาดโลก มูลค่า 27,559.18 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 1.13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
โดยส่งออกไปตลาดกลุ่มประเทศองค์การความร่วมมืออิสลาม (Organisation of Islamic Cooperation: OIC) มูลค่า 4,125.69 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 1.79% ประเทศคู่ค้าสำคัญ 5 อันดับแรกคือ อินโดนีเซีย มาเลเซีย อิรัก สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) และซาอุดีอาระเบีย สินค้าส่งออกหลัก อาทิ น้ำตาลทราย มูลค่า 1,136.30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 8.42% ข้าว มูลค่า 1,032.37 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 41.93% และเนื้อไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง มูลค่า 142.11 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 33.86%
นางอรมน กล่าวว่า สำหรับในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 ไทยใช้สิทธิประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (FTA) ส่งออกไปยังประเทศคู่ค้าที่อยู่ในกลุ่มประเทศ OIC มูลค่า 2,364.44 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัด ส่วน 70.38% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ น้ำตาล มูลค่า 933.90 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 10.94% ผลไม้สด มูลค่า 390.64 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัว 9.97% กลุ่มสินค้าฝรั่ง มะม่วง มังคุด มูลค่า 286.91 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 43.53% และเนื้อไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง มูลค่า 203.84 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 60.37%
“ปัจจุบันไทยมี FTA 14 ฉบับ กับ 18 ประเทศ ซึ่งเป็นแต้มต่อที่ช่วยลดอุปสรรคทางด้านภาษี เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยสามารถขยายการส่งออกสินค้าไปตลาดการค้าเสรี” นางอรมน กล่าวและกล่าวว่า
กรมยังเร่งเดินหน้าเพื่อสรุปผลการเจรจาจัดทำ FTA กับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) และฟื้นฟูความ สัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบีย ซึ่งจะเป็นการเปิดประตูการค้าของไทยสู่กลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ (Gulf Cooperation Council: GCC) คาดว่าจะมีมูลค่าทางการค้าถึง 12,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2568 นางอรมน เสริม
ทั้งนี้ ตลาดกลุ่มประเทศ OIC ประกอบด้วย 57 ประเทศ ซึ่งอยู่ในทวีปเอเชีย แอฟริกา อเมริกาใต้ และยุโรป ถือเป็นตลาดที่มีกลุ่มผู้บริโภคขนาดใหญ่ มีประชากรกว่า 2 พันล้านคน คิดเป็นสัดส่วน 24% ของประชากรโลก และมีความต้องการบริโภคสินค้ากลุ่มอาหารฮาลาลจากไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่มีความได้เปรียบด้านวัตถุดิบต้นน้ำ โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและอาหาร สามารถขยายการส่งออกโดยใช้ประโยชน์จาก FTA ไปกลุ่มประเทศ OIC ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และบรูไนดารุสซาลาม รวมทั้งประเทศที่มีความต้องการกลุ่มอาหารฮาลาลจากไทยสูง ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น กัมพูชา อินเดีย และเกาหลีใต้