กรุงไทยยันค่าเงินเฉลี่ยทั้งปี 34.50 บาทต่อดอลลาร์
กรุงไทยเผยทิศทางค่าเงินบาท ตลอดทั้งปี เฉลี่ย 34.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ช่วงไตรมาส4 นี้อ่อนปวกเปียก หลุด 37 บาท เหตุไม่เชื่อมั่นรัฐบาล ผุดดิจิทัล วอลเล็ต 1 หมื่นบาท วงเงิน 560,000 ล้านบาท หลังจากนั้น จะทยอยแข็งค่าในปี 67 ที่ระดับ 32.50-35.50
นายพชรพจน์ นันทรามาศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทย ประเมินทิศทางค่าเงินบาทในช่วงไตรมาส 4/66 ว่า ระดับค่าเงินบาทอยู่ในเกณฑ์อ่อนค่า คาดการณ์ว่าจะอยู่ในกรอบ 35.50-37.00 บาท/ดอลลาร์ โดยปัจจัยภายนอกที่มีผลต่อค่าเงินบาทในไตรมาสสุดท้าย ซึ่งได้เริ่มส่งผลต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายเดือนส.ค. มีดังนี้
1. ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จากเดิมที่คาดว่า การขึ้นดอกเบี้ยจะจบลงแล้ว แต่ข้อบ่งชี้ล่าสุดระบุว่า ยังขึ้นดอกเบี้ยได้ต่อ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่ได้เข้าสู่ภาวะถดถอย หรือชะลอมากอย่างที่คาดไว้ จึงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินทั่วโลก ไม่ได้เป็นปัจจัยเฉพาะเจาะจงแค่เงินบาท
2. ค่าเงินหยวนส่งผลต่อสกุลเงินในภูมิภาคอาเซียน รวมถึงค่าเงินบาทด้วย ซึ่งเศรษฐกิจจีนขณะนี้ ยังอยู่ในภาวะชะลอตัวนานกว่าที่นักลงทุนคาดไว้ โดยค่าเงินหยวนตั้งแต่ต้นปี (Year to Date: YTD) อ่อนค่าไปแล้วประมาณ 5%
3. ราคาทองคำที่ลดลงตั้งแต่ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งทุกครั้งที่ราคาทองคำพุ่งลง ก็จะมีโฟลว์เงินออกไปซื้อทองมาก
ส่วนปัจจัยภายในประเทศ คือ เรื่องความไม่ชัดเจน และความกังวลเรื่องนโยบายของรัฐบาลที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งต้องใช้เงินจำนวนมาก โดยเฉพาะนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนว่าจะใช้แหล่งเงินจากที่ใด รูปแบบเป็นอย่างไร และจะทำให้อุปทานของเงินเพิ่มขึ้นมากน้อยเท่าไร
“ประเด็นนี้ อาจทำให้นักลงทุนต่างชาติ มองว่า รัฐบาลอาจต้องกู้เงินจำนวนมาก และมีภาระทางการคลัง ขาดดุลการคลังมากขึ้น ทำให้นักลงทุนเลือกที่จะลดการถือครองเงินบาทไปก่อน เพื่อรอดูความชัดเจน” นายพชรพจน์ กล่าวและกล่าวว่า
นายพชรพจน์ คาดการณ์ระดับค่าเงินบาทเฉลี่ยทั้งปี2566 ว่าอยู่ที่ประมาณ 34.50 บาท/ดอลลาร์ โดยมองว่าในช่วงสิ้นปี เงินบาทอยู่ในระดับอ่อนค่า แต่ปี2567 เงินบาทน่าจะทยอยฟื้นตัวแข็งค่าขึ้นมาได้บ้าง จึงให้กรอบเงินบาทปีหน้า ไว้ที่ 32.50-35.50 บาท/ดอลลาร์ โดยเฉลี่ยทั้งปี2567 อยู่ที่ 33.75 บาท/ดอลลาร์ พร้อมมองปัจจัยที่จะมีผลต่อค่าเงินบาทในปี2567 คือ ประเทศไทยจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวมากขึ้น โดยช่วงต้นปี คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้าประเทศเดือนละประมาณ 3 ล้านคน ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาครึ่งปีแรก มากกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีนี้แล้ว ดังนั้น ทั้งปี2567 รายได้ที่มาจากเงินตราต่างประเทศจะมากกว่าปีนี้ จึงเป็นปัจจัยพื้นฐานที่ช่วยให้ดุลบัญชีเดินสะพัดมีทิศทางที่ดีขึ้น
“นอกจากนี้ ปีหน้า มองว่าการส่งออกโดยรวมของไทยจะเติบโตได้ประมาณ 3-4% จากปีนี้ที่ติดลบ 1.5-2.0% ซึ่งทั้งสองปัจจัยดังกล่าว ถือเป็นปัจจัยพื้นฐานที่ช่วยให้ค่าเงินบาทกลับมาประคองตัวได้”