ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 2-3 ส.ค. 2566
โรดแมปรัฐบาล พรรคเพื่อไทย
เรื่องที่ 2,620 โรดแมปรัฐบาล พรรคเพื่อไทย ที่ไม่มีพรรคก้าวไกล คือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันอันเป็นต้นเหตุของความยากลำบากในการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ และก่อให้เกิดวิกฤตการณ์ต่างๆ ของประเทศ โดยกำหนดเป็นวาระแห่งชาติ โดยเริ่มจากมติ ครม.ในการประชุมครั้งแรก ให้มีการทำประชามติ และจัดตั้ง สสร. ให้เกิดกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างแท้จริงในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ รัฐบาลจะคืนอำนาจให้ประชาชนได้เลือกตั้งใหม่ภายใต้กรอบกติกาของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
ส่วนนโยบายที่พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมได้นำเสนอต่อประชาชน ซึ่งมีความคิดเห็นสอดคล้องกัน อาทิ กฎหมายสมรสเท่าเทียม กฎหมายสุราก้าวหน้า การปฏิรูประบบราชการ ตำรวจ กองทัพ และกระบวนการยุติธรรม เปลี่ยนการเกณฑ์ทหารแบบบังคับเป็นระบบสมัครใจ ฯลฯ ผลักดันการกระจายอำนาจทั้งในแง่ภารกิจและงบประมาณ ยกเลิกการผูกขาดและส่งเสริมการแข่งขันทางการค้าที่เป็นธรรมในทุกอุตสาหกรรม เป็นต้น ในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาลพรรคเพื่อไทย พร้อมที่จะผลักดันร่วมกับพรรคร่วมเพื่อให้นโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนดำเนินการได้ประสบความสำเร็จ
ถ้าเอาตามนี้ คาดว่ารัฐบาลของพรรคเพื่อไทย จะอยู่ไม่เกิน 2 ปี แล้วจัดมีการเลือกตั้งใหม่ นับว่าเป็นการเดิมพันที่สูงทีเดียวของพรรคเพื่อไทย เพราะเวลาเพียง 2 ปี ไม่อาจจะสร้างผลงานได้เป็นกอบเป็นกำ
เรื่องที่ 2,621 เวลานี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือกฟผ. ซึ่งนำทีมโดยพี่สิงห์ “บุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร” ผู้ว่าการ กฟผ. คนปัจจุบันยกทัพผู้บริหาร และสื่อมวลชนตะลุยออสเตรเลีย เพื่อศึกษาดูงานแหล่งผลิตเชื้อเพลิงไฮโดรเจน Latrobe Valley Hydrogen Facility โครงการระบบกักเก็บพลังงานจากแบตเตอรี่ Victorian Big Battery และนวัตกรรมพลังงานจากองค์การวิจัยวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรมแห่งเครือจักรภพ (CSIRO)
พร้อมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับหน่วยงานภาครัฐ และหน่วยงานพันธมิตรด้านพลังงาน โดยเป็นไปตามแผนที่กระทรวงพลังงานมียุทธศาสตร์มุ่งสู่พลังงานสะอาดเพื่อตอบโจทย์สังคมไร้คาร์บอนอย่างยั่งยืนตามนโยบาย 4D1E (Decarbonization, Decentralization, Digitalization, De-regulation, Electrification)
งานนี้น่าจะเป็นการทิ้งทวนการทำงานให้กับพี่สิงห์ ในฐานะผู้ว่าการ กฟผ. แล้ว เพราะพี่สิงห์เองกำลังจะหมดวาระลงในวันที่ 21 สิงหาคม 2566 นี้แล้ว อย่างไรก็ดี งานนี้มีว่าที่ผู้ว่า กฟผ. คนใหม่ที่ถูกสกัดดาวรุ่งอยู่ร่วมทีมไปด้วย ไม่รู้ว่านี่จะเป็นการศึกษางานของ “เทพรัตน์ เทพพิทักษ์” เพื่อเตรียมตัวด้วยหรือไม่ เพราะเรื่องของเทพรัตน์ เหลือแค่เพียงคณะรัฐมนตรี หรือ ครม.อนุมัติเท่านั้น
แต่มองอีกมุม เทพรัตน์ เองก็เป็นทีมผู้บริหาร กฟผ. อยู่แล้ว บก.ชวนคุยเพียงแค่เห็นภาพแล้วทำให้อดคิดไปถึงการไปเตรียมพร้อมสู่ตำแหน่งใหม่เท่านั้นเองล่ะ เพราะเทพรัตน์คือคนที่มาตามขั้นตอน และคุณสมบัติครบ ยังไงก็ขอเอาใจช่วยนะขอรับเจ้านาย
เรื่องที่ 2,622 “ปิติ ดิษยทัต” ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธปท. แถลงว่า กนง.ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก 2% เป็น 2.25% พร้อมบุว่า ตั้งแต่ ส.ค.65 กนง.ทยอยถอนคันเร่งการขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปมาระยะหนึ่งแล้ว และขณะนี้อัตราดอกเบี้ยได้เริ่มเข้าใกล้จุด Neutral rate มากขึ้น (จุดที่อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงไม่ติดลบ) ซึ่งเข้าใกล้จุด “ถอนคันเร่งเกือบหมด” มากขึ้นแล้ว
“เมื่อมองไปข้างหน้า การขึ้นดอกเบี้ยจะไปหยุดตรงที่ไหนนั้น เห็นว่าเศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นเข้าสู่ระดับที่มีศักยภาพ ไม่ได้เกินศักยภาพหรือเป็นเศรษฐกิจที่ร้อนแรงเหมือนสหรัฐ ขณะที่เงินเฟ้อเริ่มเข้าสู่กรอบเป้าหมาย”
“ทั้งนี้ การดำเนินนโยบายการเงินในช่วงที่เข้าใกล้จุดเปลี่ยนเป็นปกติที่จะต้องดูข้อมูลให้มากขึ้น และใช้วิจารณญาณมากขึ้น ยังไม่ได้ปักหมุดว่ารอบหน้า (ประชุม กนง.) จะเป็นอย่างไร” นายปิติ ระบุ
ฟันธง กนง.ไม่ขึ้นดอกเบี้ยอีกแล้ว!!
เรื่องที่ 2,623 สถานทูตจีนประจำประเทศไทย เผยแพร่การตอบคำถามของโฆษกสถานทูตจีนประจำประเทศไทยบนหน้าเพจเฟซบุ๊ก เมื่อวันอังคาร (1 ส.ค.) โดยชี้ว่ามีกลุ่มผู้ไม่หวังดีภายนอกใช้กองกำลังไซเบอร์ใส่ร้ายจีนและทำลายความร่วมมือระหว่างไทย-จีน
เมื่อถูกสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวออนไลน์ในไทยที่ระบุว่า มีนักธุรกิจและมัคคุเทศก์ชาวจีนเข้ามาทำงานในไทยและเกิดการแย่งงานคนไทย จนชาวเน็ตไทยบางส่วนจึงขอให้รัฐบาลไทยดำเนินการตรวจสอบและปิดร้านค้าจีนที่ผิดกฎหมาย โฆษกสถานทูตจีนระบุว่า “ควรมองปัญหาเฉพาะบางกรณี ที่เกิดขึ้นจากชาวจีนบางคนด้วยท่าทีที่เป็นกลางอย่างมีเหตุผล ไม่ควรนำพฤติกรรมของคนบางคนมาตัดสินชาวจีนและบริษัทจีนทั้งหมดที่อยู่ในไทย”
อย่างไรก็ตาม โฆษกสถานทูตจีนประจำประเทศไทยเตือนว่า สิ่งที่ต้องระมัดระวังคือ มีบางกลุ่มภายนอกที่มีเจตนาไม่ดีแอบแฝงพยายามใช้กองกำลังไซเบอร์ยุยงปลุกปั่น สร้างกระแสข่าวมาโดยตลอด เพื่อใส่ร้ายป้ายสีประเทศจีน ทำลายภาพลักษณ์ของจีนและทำลายความร่วมมือระหว่างจีน-ไทย ซึ่งฝ่ายจีนจะคัดค้านอย่างเด็ดขาด และจะทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนของประเทศไทยเพื่อรักษาแนวโน้มการพัฒนาที่ดีของความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ
สรุปข่าวต่างประเทศ
เรื่องที่ 2,624 “ลี เซียนลุง” นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ กล่าวว่า นายเอส อิสวารัน รมว.คมนาคม ถูกสั่งห้ามปฏิบัติหน้าที่ จนกว่าจะมีประกาศการเปลี่ยนแปลง โดยนายอิสวารันกำลังถูกสืบสวนโดยสำนักสืบสวนการกระทำการทุจริต (CPIB)
นายลีกล่าวว่า “นายอิสวารันถูกหักเงินเดือนลง 8,500 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อเดือน และเมื่อการสืบสวนเสร็จสิ้นลงแล้ว ทาง CPIB จะส่งผลการสืบสวนไปยังสำนักงานอัยการสูงสูด ซึ่งจะตัดสินว่าจะทำอย่างไรต่อไป”
“กรณีของนายอิสวารันนั้นไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยนัก และพรรคกิจประชาชน (PAP) มีนโยบายไม่ยอมรับการทุจริตคอร์รัปชันในทุกรูปแบบ” นายลีกล่าว และปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเพิ่มเติม เนื่องจากการสืบสวนยังคงดำเนินอยู่
เรื่องที่ 2,625 สำนักข่าวเอพีรายงานว่า กรุงปักกิ่งเมืองหลวงของจีนเผชิญเหตุฝนตกหนักที่สุดในรอบอย่างน้อย 140 ปีตลอดช่วงหลายวันที่ผ่านมา โดยกรมอุตุนิยมวิทยาจีนเปิดเผยเมื่อวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า ฝนตกในกรุงปักกิ่งวัดปริมาณได้ 744.8 มิลลิเมตร หรือ 29.3 นิ้วระหว่างวันเสาร์ที่ 29 ก.ค. ถึงช่วงเช้าวันนี้
ทั้งนี้ กรุงปักกิ่งเผชิญฝนตกหนักจากผลพวงของพายุไต้ฝุ่นทกซูรี (Doksuri) ที่เคลื่อนตัวไปทางภาคเหนือของประเทศจีน หลังเพิ่งถล่มมณฑลต่าง ๆ ทางภาคใต้ของประเทศ
สื่อยังรายงานต่อว่า ปัจจุบันยังไม่ทราบแน่ชัดว่ามีเหยื่อผู้ประสบภัยติดอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมในเขตจัวโจวและหมู่บ้านใกล้เคียงมากน้อยเพียงใด เจ้าหน้าที่จีนเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า เหตุฝนตกหนักรอบกรุงปักกิ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 20 ราย และสูญหายอีก 27 ราย
กรมอุตุนิยมวิทยาปักกิ่งเปิดเผยผ่านทางเวยป๋อในวันนี้ว่า เหตุฝนตกครั้งใหญ่เป็นประวัติการณ์ครั้งก่อนเกิดขึ้นในปี 2534 โดยเวลานั้นกรุงปักกิ่งวัดปริมาณน้ำฝนได้ 609 มิลลิเมตร หรือ 24 นิ้ว
เรื่องที่ 2,626 สำนักข่าวเอ็นเอชเครายงานว่า พายุไต้ฝุ่นกำลังรุนแรงลูกใหญ่กำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่จังหวัดโอกินาว่าทางภาคใต้ของประเทศญี่ปุ่นและขณะนี้ใกล้บุกขึ้นฝั่งจังหวัดโอกินาว่าแล้ว โดยเกาะมิยาโกะจิมะอยู่ในเขตพายุเช่นเดียวกัน โดยเจ้าหน้าที่ได้ออกมาเตือนกระแสลมแรง คลื่นพายุซัดฝั่ง และคลื่นสูง
กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นระบุว่า ณ เวลา 7.00 น.ของวันนี้ (2 ส.ค.) ตามเวลาในไทย พายุไต้ฝุ่น “ขนุน” อยู่ห่างจากเกาะคุเมจิมะไปทางใต้ประมาณ 70 กิโลเมตรและเคลื่อนตัวไปทางตะวันออกเฉียงเหนือที่ความเร็วลม 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นคาดการณ์ว่า ความเร็วลมสูงสุดของพายุไต้ฝุ่นขนุนในวันนี้จะอยู่ที่ 162 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในจังหวัดโอกินาว่าและ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในหมู่เกาะอามามิค่อนไปทางตอนเหนือ นอกจากนี้ ความเร็วลมสูงสุดอาจแตะ 234 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเกาะโอกินาว่า ซึ่งรุนแรงเพียงพอที่จะทำให้อาคารพังถล่ม สำนักข่าวเอ็นเอชเครายงานว่า มีผู้เสียชีวิตจากผลพวงของพายุลูกดังกล่าวแล้ว 1 ราย
เรื่องที่ 2,627 “โอเลห์ คีเปอร์” ผู้ว่าการแคว้นโอเดสทางตอนใต้ของยูเครน เปิดเผยผ่านทางเทเลแกรมว่า รัสเซียส่งโดรนโจมตีท่าเรือและโกดังเก็บธัญพืชในแคว้นโอเดสซาของยูเครนในช่วงเช้าตรู่ของวัน 2 ส.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้โกดังบางส่วนเกิดเพลิงไหม้ แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตในขณะนี้
ทั้งนี้ รัสเซียยกระดับความรุนแรงในการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานทางเกษตรกรรมและท่าเรือของยูเครน หลังจากปฏิเสธที่จะต่อสัญญาข้อตกลงเปิดเส้นทางส่งออกธัญพืชของยูเครนผ่านทางทะเลดำ
สื่อยูเครนรายงานว่า โดรนของรัสเซียได้เดินทางมาถึงทะเลดำ ก่อนจะเคลื่อนที่ไปทางตะวันตกตามแนวแม่น้ำดานูบและมุ่งหน้าไปยังท่าเรืออิซมาอิล ซึ่งเป็นท่าเรือสำคัญที่นำธัญพืชยูเครนไปยังท่าเรือคอนสแตนตาในทะเลดำฝั่งโรมาเนียเพื่อขนส่งต่อไป
โดยนพวัชร์