นิคนฯบางชัน หนุน ประเพณีไทย”วันสงกรานต์”
สร้างความรักสามัคคีสู่ลูกหลานพร้อมแจ้งเตือนผู้ประกอบการจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังอัคคีภัยในหน้าร้อนนี้
นิคมฯบางชัน จัดกิจกรรมปีใหม่ไทย รดน้ำดำหัวผู้สูงอายุรอบนิคมฯ อนุรักษ์วัฒนธรรมอันดีงามของประเทศ สู่ลูกหลาน สร้างความรักสามัคคี ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน พร้อมร่วมมือวิทยาลัยพยาลาลบรมราชชนนี นพรัตน์วชิระ จัดทีมตรวจสุขภาพให้ผู้ร่วมงาน เสริมสร้างให้ความรู้ด้านสุขภาพเพื่อประชาชนรอบนิคมฯ สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยห่างไกลโรค สร้างความเข้าใจการมีสุขภาวะที่ดี และเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของชุมชนในสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งมีหนังสือแจ้งเวียนผู้ประกอบการในนิคมฯ ขอความร่วมมือจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง โดยเฉพาะโรงงานที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยสูงตามคู่มือด้านความปลอดภัยที่กระทรวงอุตสาหกรรมได้จัดทำไว้ โดยสามารถดาวน์โหลดเอกสารจาก https://www.diw.go.th
นางลัดดาวัลย์ อ่อนกำปัง ผู้อำนวยการสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมบางชัน และนายเกียรติชัย ภักดีรอด ผู้จัดการ บริษัท โกลบอล ยูทิลิตี้ เซอร์วิส จำกัด (หน่วยงานบางชัน) เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลวันสงกรานต์ ประจำปี 2566 ทางนิคมฯบางชัน ได้จัดโครงการทำบุญเลี้ยงพระในอาคารสำนักงาน และรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุชุมชนรอบนิคมฯ ขึ้น โดยกิจกรรมดังกล่าวนิคมฯบางชันได้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อส่งเสริมให้ชุมชนโดยรอบนิคมฯ ผู้ประกอบการ ชุมชน มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ สืบสานขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของประเทศไทยให้คงอยู่สืบไปเพื่อสืบสานวัฒนธรรมอันดีของไทย ให้คงอยู่ตลอดไป
นิคมฯบางชันนั้น เป็นนิคมอุตสาหกรรมแห่งแรกของประเทศไทย มีชุมชนโดยรอบนิคมฯ แห่งนี้ ทั้งชาวไทยพุทธ และชาวไทยมุสลิม ที่อยู่ร่วมกันมาอย่างยาวนาน มีความรักสมัครสมาน สามัคคี ช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันเป็นอย่างดี ดังนั้นเพื่อเป็นการรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีอันดี การสืบทอดวัฒนธรรมให้เยาวชนรุ่นหลังภูมิใจในความเป็นไทย และเพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างนิคมฯ ผู้ประกอบการ ชุมชนรอบนิคมฯ ทั้งยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ กนอ. ตามภารกิจของนิคมฯบางชัน ภายใต้โครงการ CSR ของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ซึ่งกิจกรรมที่จัดขึ้นในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมกว่า 60 คน และมีทีมอาจารย์จากวิทยาลัยพยาลาลบรมราชชนนี นพรัตน์วชิระ จัดทีมงานเพื่อการตรวจสุขภาพให้กับผู้ร่วมงานด้วย เพื่อเป็นการเสริมสร้างให้ความรู้ด้านสุขภาพเพื่อประชาชนที่อยู่รอบนิคมฯ สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยห่างไกลโรค สร้างความเข้าใจการมีสุขภาวะที่ดี และเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของชุมชนในสถานการณ์ปัจจุบัน
ขณะเดียวกัน กนอ. ได้มีหนังสือเวียนแจ้งผู้ประกอบการในนิคมฯ เพื่อขอความร่วมมือ เฝ้าระวังอัคคีภัย/อุบัติเหตุจากการประกอบกิจการโรงงาน เนื่องจากปัจจุบันนี้เป็นช่วงฤดูร้อนของประเทศไทย สภาพอากาศจะมีลักษณะแห้งแล้งและมีอุณหภูมิสูง อาจเป็นเหตุให้อุปกรณ์ไฟฟ้าและเครื่องจักรของโรงงานต้องทำงานหนัก พร้อมทั้งเป็นช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองปีใหม่ไทย มีวันหยุดยาวต่อเนื่องหลายวัน อาจก่อให้เกิดอัคคีภัย/อุบัติเหตุได้
“สำหรับนิคมฯบางชัน นั้น เราได้มีหนังสือแจ้งเวียนให้ผู้ประกอบการในนิคมฯ เพื่อขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการ ในการจัดเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานประจำเพื่อทำหน้าที่เฝ้าระวังทั้งในพื้นที่โรงงานและอาณาเขตโดยรอบตลอด 24 ชั่วโมง และให้ระมัดระวังการปฏิบัติงาน โดยเฉพาะโรงงานที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยสูงตามคู่มือด้านความปลอดภัยที่กระทรวงอุตสาหกรรมได้จัดทำไว้ โดยสามารถดาวน์โหลดเอกสารจาก https://www.diw.go.th รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบและปรับปรุงสภาพอุปกรณ์เครื่องจักรที่มีความเสี่ยงจะเกิดอุบัติเหตุ/อุบัติภัย เพื่อป้องกันเหตุมิให้เกิดผลกระทบด้านความปลอดภัยจึงขอให้ทุกโรงงานให้ความสำคัญต่อการ ซ่อมบำรุงใหญ่ (Shutdown/Turnaround) และดำเนินการตามมาตรการความปลอดภัยอย่างรอบคอบและรัดกุมต่อกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินหรือเหตุการณ์ที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ให้ปฏิบัติตามแผนตอบโต้ภาวะฉุกเฉินที่ได้มีการฝึกซ้อมรวมทั้งสื่อสารไปยังหน่วยระงับเหตุและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือประสานแจ้งสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมและท่าเรืออุตสาหกรรมที่โรงงานตั้งอยู่ หรือแจ้งศูนย์เฝ้าระวังคุณภาพสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย ผ่านช่องทางโทรศัพท์ 0 2257 0876 ในเวลาราชการ หรือโทรศัพท์มือถือ 08 3989 9565 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ฝ่ายสิ่งแวดล้อมความปลอดภัยและอาชีวอนามัย ศูนย์เฝ้าระวังคุณภาพสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย”