ราคาบ้านในฮ่องกงแพงสุดในโลก
ฮ่องกงเป็นเมืองที่มีราคาแพงที่สุดในโลกสำหรับผู้ที่กำลังจะหาซื้อบ้าน อ้างอิงจากผลวิจัยล่าสุด
โดยรายงาน Global Living ประจำปีครั้งที่ 5 ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ CBRE ซึ่งตีพิมพ์เมื่อวันที่ 11 เม.ย.เป็นการวิเคราะห์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ทั่ว 35 เมืองใหญ่ทั่วโลก
เมืองในเอเชียติดอันดับเข้ามาเป็นส่วนใหญ่ในรายชื่อตลาดอสังหาฯที่มีราคาแพงที่สุดในโลก โดยฮ่องกงถูกจัดให้เป็นอันดับ 1 เป็นเมืองที่มีราคาแพงที่สุดเป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน ขณะที่สิงคโปร์อยู่ในอันดับ 2 และนครเซี่ยงไฮ้ตามมาในอันดับ 3
อ้างอิงจากรายงาน ราคาบ้านโดยเฉลี่ยในฮ่องกงปี 62 มีราคาสูงกว่า 1.2 ล้านดอลาร์สหรัฐฯ ( 38.28 ล้านบาท ) โดยดีมานด์สูง แต่ซัพพลายต่ำทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ในฮ่องกงพุ่งขึ้นไปอยู่ในระดับที่ “จ่ายไม่ไหว” ในช่วงหลายปีมานี้ โดยทางฮ่องกงมีแผนจะสร้างเกาะเทียมมูลค่า 80,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( 2.55 ล้านล้านบาท ) เพื่อช่วยแก้วิกฤตด้านพื้นที่
นครเซินเจิ้นและปักกิ่งของจีน ติดอยู่ใน 10 อันดับแรกของเมืองที่มีราคาแพงที่สุดสำหรับผู้ซื้อบ้าน โดยอยู่ในอันดับ 5 และ 9 ตามลำดับ
เมืองแวนคูเวอร์ในแคนาดา ซึ่งมีราคาบ้านเฉลี่ยอยู่ที่ 815,322 ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นเมืองที่มีอสังหาฯราคาแพงที่สุดในอเมริกาเหนือ และอยู่ในอันดับ 4 ของเมืองที่มีราคาแพงที่สุดในโลกในการซื้อบ้าน อ้างอิงจากข้อมูล ขณะที่นครลอสแองเจลิสและนิวยอร์กในสหรัฐฯ ก็ติดอยู่ใน 10 อันดับแรกเช่นกัน
โดยกรุงลอนดอน ซึ่งติดอยู่ในอันดับ 8 ของเมืองที่มีราคาแพงที่สุดในการซื้อบ้าน เป็นเมืองที่มีอันดับสูงที่สุดในยุโรป อ้างอิงจาก CBRE โดยผู้ซื้อที่มีศักยภาพในกรุงลอนดอนกำลังหาซื้อบ้านที่มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 646,973 ดอลลาร์สหรัฐฯในปีนี้
ราคาเมืองที่มีอสังหาฯถูกที่สุดคืออิสตันบุล โฮจิมินห์ และกรุงเทพฯ ขณะเดียวกัน บาร์เซโลนา ดับลิน และเซี่ยงไฮ้ถูกจัดให้เป็นเมืองที่ราคาบ้านเติบโตเร็วที่สุด CBRE ระบุ
เมื่อคิดในแง่ของราคาเช่า เมืองที่มีราคาบ้านเช่าแพงที่สุดคือนครนิวยอร์ก ในสหรัฐฯ ซึ่งราคาค่าเช่าเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 2,844 ดอลลาร์สหรัฐฯ ( 90,894 บาท ) โดยอาบูดาบี และฮ่องกงเป็นเมืองที่มีราคาค่าเช่าแพงรองลงมาคือมีราคาค่าเช่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2,700 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 86,130 บาท
เมื่อเทียบกับปีก่อน ราคาค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นสูงที่สุดคือกรุงลิสบอนในโปรตุเกส ซึ่งอัตราค่าเช่าเติบโตขึ้นกว่า 20% โดยเมืองที่มีค่าเช่าถูกที่สุดคือกรุงเทพฯ อิสตันบุล และมอนทรีอัล
“ โดยทั่วไป เราเห็นว่าอัตราการเติบโตของราคาบ้านชะลอตัวลงในหลายเมือง เนื่องจากเราใกล้จะหมดช่วงวงรอบอสังหาฯที่ยาวนาน” Jennet Siebrits หัวหน้าฝ่ายวิจัยที่อยู่อาศัยที่ CBRE สหราชอาณาจักร ระบุในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 11 เม.ย. “ เราคาดการณ์ว่าดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลกระทบกับหลายเมืองในสหรัฐฯ และมาตรการหลากหลายเพื่อลดความร้อนแรงของตลาดที่ส่งผลกระทบกับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก”.