ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 23-24 ก.พ.2566
“บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มาพร้อมสโลแกนใหม่ ที่คาดว่าจะใช้หาเสียงเลือกตั้ง ปี 2566 นี้ คือ “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ” เป็นเสมือนการตอบคำถามประชาชนว่า ตลอด 8 ปี ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ นั้น ได้มีผลงาน และทำเรื่องใดให้กับประเทศบ้าง
เรื่องที่ 1,835 จึงได้ตอบว่า “ทำแล้ว ทำอยู่” และกำลังจะ “ทำต่อ”
คำว่า “ทำต่อ”นี้ มีนัยอยู่ตรงที่การขอโอกาส ขอเวลาเพื่อที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะได้สะสาง เรื่องที่ค้างคาให้แล้วเสร็จ โดยจะใช้เวลาอย่างน้อยก็ 2 ปี ประจบเหมาะกับช่วงเวลาที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะยังนั่งเป็นนายกฯได้
ก่อนหน้านี้ มีการคาดการณ์กันว่า “บิ๊กตู่” น่าจะใช้สโลแกนหาเสียงว่า “ประเทศไทยต้องไปต่อ” ซึ่งเป็นคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ใช้ในการปราศรัยครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 ม.ค. ในการเปิดตัวเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ และเป็นสโลแกนที่คล้ายกับของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่ใช้หาเสียงเลือกตั้งผู้ว่า กทม.
แต่แล้วก็มีการเปลี่ยนมาใช้สโลแกนใหม่ “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ”
ก็ไม่รู้ว่าถ้าใช้สโลแกน “ประเทศไทยต้องไปต่อ” ที่คล้ายกับของ พล.ต.อ.อัศวิน แล้วกลัวจะสอบตกเหมือน พล.ต.อ.อัศวิน หรือเปล่า
เรื่องที่ 1,836 ไม่รู้ว่ากระทรวงพลังงานช่วงนี้จะวุ่นวายขนาดไหน เพราะดูเหมือนจะทำงานกันแบบที่เรียกว่าไม่อยู่กับร่องกับรอยเลย หากจำกันได้ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน หรือ กบง.มีมติเห็นชอบค่าการตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงที่เหมาะสม โดยปรับค่าการตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงกลับสู่สภาวะปกติตามปี 2563 ทั้งกลุ่มน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว รวมถึงกลุ่มน้ำมันเบนซิน และน้ำมันแก๊สโซฮอล์เฉลี่ยอยู่ที่ 2 บาทต่อลิตร ซึ่งจะส่งผลให้กองทุนน้ำมันมีรายรับในส่วนของน้ำมันดีเซลลดลงเป็นประมาณ 37.23 ล้านบาทต่อวัน หรือประมาณ 1,117 ล้านบาทต่อเดือน
จากการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้ราคาขายปลีกกลุ่มน้ำมันเบนซินปรับลดลงสูงสุดได้ถึง 1.20 บาทต่อลิตรดังกล่าว ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ. 2566 เป็นต้นมาแล้ว แต่จนแล้วจนรอดราคาน้ำมันเบนซินก็ไม่เห็นลดได้ตามที่ กบง. คุยโว แต่ยังมีการปรับขึ้นราคาด้วยซ้ำเมื่อครั้งล่าสุดอีก 30 สตางค์ต่อลิตรของเช้าวันนี้ (23 ก.พ.66) หนำซ้ำจู่ๆก็มาบอกว่า วันที่ 15 ก.พ. 2566 ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง หรือกบน. มีมติเพิ่มค่าการตลาดสำหรับกลุ่มน้ำมันดีเซลขึ้นอีก 0.40 บาทต่อลิตร จากเดิมได้ขอความร่วมมือเรื่องค่าการตลาดน้ำมันดีเซลไว้อยู่ที่ 1.40 บาทต่อลิตร
โดยปรับเป็น 1.80 บาทต่อลิตร เพื่อให้ค่าการตลาดทุกผลิตภัณฑ์น้ำมันอยู่ในกรอบ 2.00 บาทต่อลิตร และให้สอดคล้องกับมติ กบง. ในเรื่องมาตรการบริหารจัดการด้านน้ำมันเชื้อเพลิง เห็นแล้วก็ไม่รู้จะต้องพูดอย่างไร เมื่อพวกท่านปรับตค่าการตลาดเหมาะสมให้มีผล 15 ก.พ. แต่ในวันเดียวกันพวกเจ้านายก็ขึ้นค่าการตลาดีเซล สรุปแล้วว่าพวกท่านทำนโยบายเพื่อประชาชน หรือเพื่อผู้ค้าน้ำมันกันแน่ขอรับเจ้านายยยยยยยยยยยยยยย
เรื่องที่ 1,837 เป็นอะไรที่ยากมากๆ ถ้ามีข้าราชการในกรม 2 หมื่นเกือบ 3 หมื่นคน แถมยังเป็นกรมภาษีที่จัดเก็บรายได้สูงที่สุดของในประเทศไทย ก็คือ กรมสรรพากร แต่ข้าราชการตำแหน่งซี 9 ที่กำลังขึ้นแท่น จากระดับ 6 7 8 หรือ “วิชาการ” เป็นระดับอำนวยการนั้น ยากยิ่งกว่า กรมไหนๆ ของประเทศไทย เพราะซี 9 ปีนี้ มีตำแหน่งว่างเพียง 30 ตำแหน่ง แห่สมัครรวมทั้งหมด 600 คน ส่วนคนที่คุณสมบัติผ่านนั้น ย้ำ!! คุณสมบัติผ่าน และพร้อมสอบขึ้นซี 9 มีประมาณ 1 พันคน (ขนาดไม่มาสอบทุกคน)
ผู้บริหารระดับสูงของกรมใช้เวลาข้ามสัปดาห์ ในการสอบสัมภาษณ์!! นี่คือความจริง ไม่มีดราม่า
ดังนั้น ใครที่อยากเป็นข้าราชการ หรือเป็นอยู่แล้ว แนะให้ไปบรรจุกรมเล็กๆ ข้าราชการน้อยๆ อย่าง สศค.มี 400-500 คน ในจำนวนนี้ ลูกจ้างเกือบครึ่ง รับรอบได้เป็นผู้ใหญ่เร็ววันอย่างแน่นอน
โดยนพวัชร์