นักลงทุนไทยผงาดในเวียดนาม
นักลงทุนแห่ลงทุนเวียดนาม ขึ้นเป็นอันดับที่ 11 ของนักลงทุนต่างชาติ รวมทั้งหมด 428 โครงการ มูลค่า 7,880 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ด้านอุตสาหกรรมค้าปลีกของเวียดนาม หวั่นไทยยึดหัวหาด หลัง “เจริญ สิริวัฒนภักดี” ซื้อหุ้น “บิ๊กซี”
เว็บไซต์หนังสือพิมพ์เตื่อย แจ๋ นิวส์ของเวียดนาม รายงานเมื่อวันที่ 14มี.ค.ว่า สำนักงานการลงทุนของต่างชาติของเวียดนาม (เอฟไอเอ) แถลงว่า ปัจจุบัน ประเทศไทยถือเป็นผู้ลงทุนต่างชาติรายใหญ่ลำดับที่ 11 ของเวียดนาม โดยส่วนใหญ่ลงทุนในภาคโรงงานการผลิตและอุตสาหกรรมแปรรูป และตามข้อมูลของเอฟไอเอที่เปิดเผยออกมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ยังพบด้วยว่า ณ ช่วงระยะสิ้นสุดเดือนที่แล้ว นักลงทุนไทยได้เข้าไปลงทุนใน 428 โครงการทั่วเวียดนาม คิดเป็นมูลค่าลงทุนรวมราว 7,880ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 275,000 ล้านบาท (35บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการลงทุนด้านโรงงานและอุตสาหกรรมแปรรูปดังที่กล่าวมา ตามด้วยลงทุนด้านเกษตร-ป่าไม้ อาหารทะเลและค้าปลีก และการก่อสร้าง ตามลำดับ
สำหรับโครงการลงทุนของไทย คิดเป็นมูลค่าลงทุนเฉลี่ย 18.4 ล้านดอลลาร์ ส่วนมูลค่าเฉลี่ยเงินลงทุนของต่างชาติอื่นๆในเวียดนาม อยู่ที่ 14 ล้านดอลลาร์ โดยจังหวัดบาเรีย-วุงเต่า ทางภาคใต้ของเวียดนาม คือพื้นที่ที่คนไทยเข้าไปลงทุนประกอบธุรกิจมากที่สุดในเวียดนาม ตามด้วยจังหวัดวินห์ พุค ทางตอนเหนือและจังหวัดบินห์ ดวง ทางตอนใต้
ขณะที่นครโฮจิมินห์ ซิตี้ ถือว่ามีโครงการลงทุนของไทยอยู่หนาแน่นที่สุดเมื่อเทียบกับการลงทุนของคนท้องถิ่น นั่นคือมีจำนวน 162 โครงการหรือคิดเป็น38%ของโครงการลงทุนทั้งหมดในโฮจิมินห์ ซิตี้
นอกจากนี้ นักลงทุนไทยยังเข้าไปลงทุนในอุตสาหกรรมภาคการค้าปลีกของเวียดนามเพิ่มมากขึ้นด้วยรวมทั้งการทุ่มเงินเข้าซื้อช่วงงานการบริหารจัดการกลุ่มบริษัทค้าปลีกสัญชาติเยอรมนี เมโทร แคช แอนด์ แคร์รี ต่อจากกลุ่มทุนท้องถิ่นเวียดนามเมื่อต้นปีนี้ เป็นมูลค่า 712.14ล้านดอลลาร์ ทำให้กลุ่มคนวงในอุตสาหกรรมได้ออกมาเตือนว่าเวียดนาม มีความเสี่ยงสูงมากที่จะสูญเสียตลาดค้าปลีกทั้งหมดให้กับเพื่อนบ้านอาเซียนอย่างไทย หลังจากที่นายเจริญ สิริวัฒนภักดี มหาเศรษฐีของไทยจากธุรกิจน้ำเมา เข้าซื้อบิ๊กซี ซึ่งถือเป็นการขยายอิทธิพลอีกครั้งของนายเจริญ ที่ซื้อหุ้นบริษัทยักษ์ใหญ่ในสิงคโปร์เพื่อดำเนินธุรกิจเครื่องดื่มครบวงจร
ขณะเดียวกัน สินค้าไทยประเภทต่างๆ ไล่ตั้งแต่ขนมหวานไปจนถึงสินค้าหรูหราฟุ่มเฟือย ยังกำลังบุกเข้าตีตลาดเวียดนามอย่างขนานใหญ่อีกด้วย.