ปากีฯยิงเครื่องบินอินเดียตก 2 ลำ
รัฐบาลปากีสถานระบุว่า กองทัพอากาศของปากีฯ ได้ยิงเครื่องบิน 2 ลำของอินเดียตกในน่านฟ้าของปากีฯ เมื่อวันที่ 27 ก.พ. หลังจากกองทัพอากาศอินเดียล้ำเส้นเข้ามา ยิ่งทำให้พรมแดนระหว่างสองประเทศในพื้นที่พิพาทแคชเมียร์ยิ่งตึงเครียดขึ้น
หากข่าวนี้ได้รับการยืนยัน จะยิ่งเป็นการทำให้ความขัดแย้งของสองประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์อยู่ในกองทัพยกระดับความร้อนแรงขึ้นไปอีก
พลตรี อาซิฟ กาฟูร์ โฆษกของกองทัพปากีฯ ระบุในทวีตเมื่อวันที่ 27 ก.พ.ว่า เครื่องบินของ
อินเดียลำหนึ่งตกในเขตแคชเมียร์ที่ปากีสถานบริหาร ขณะที่อีกลำหนึ่งตกในเขตแคชเมียร์ที่อินเดียบริหาร และมีการจับกุมตัวนักบินอินเดียไว้หนึ่งนาย โดยต่อมา มีการโพสต์ในทวิตเตอร์ทางการของรัฐบาลปากีฯที่ยืนยันว่า ทางกองทัพอากาศได้ยิงเครื่องบินของอินเดียร่วงลงมา 2 ลำ หลังปากีฯเริ่มปฏิบัติการโจมตีทางทหาร
ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการจากกองทัพอากาศ หรือรัฐบาลอินเดีย และทางสื่อ CNN ยังไม่สามารถตรวจสอบการกล่าวอ้างของปากีสถานได้
ปฏิบัติการครั้งนี้มีขึ้นหนึ่งวันหลังจากอินเดียเปิดฉากโจมตีทางอากาศกับค่ายฝึกซ้อมที่อินเดียอ้างว่าเป็นการซ้อมรบของกลุ่มก่อการร้ายในอาณาเขตของปากีฯก่อน นับเป็นการบุกรุกครั้งแรกของกองทัพอากาศอินเดียที่พรมแดนระหว่างสองประเทศ นับตั้งแต่สงครามอินเดีย – ปากีสถานในปี 2514 เป็นต้นมา
นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดิของอินเดีย ซึ่งกำลังยุ่งกับการเลือกตั้ง ไม่ได้เอ่ยถึงการโจมตีโดยตรง แต่พูดถึงการปกป้องอินเดีย “ ผมอยากให้ประชาชนของผมมั่นใจว่า ประเทศมีความปลอดภัย”
นอกจากนี้ ในวันที่ 27 ก.พ.มีการระงับเที่ยวบินที่ท่าอากาศยานในอินเดียหลายเที่ยวบิน อ้างอิงจากข้อมูลบนทวิตเตอร์ของหลายสายการบินของอินเดีย โดย Jet Airways , Vistara , Indigo และ GoAir ระงับเที่ยวบินไปท่าอากาศยานที่รัฐ อมฤตสาร์, จัณฑีครห์, ศรีนคร , จัมมู และเลห์
รัฐบาลอินเดียกำลังชั่งใจถึงการตอบโต้การโจมตีครั้งก่อน ในเดือนก.พ.นี้ โดยเป็นการวางระเบิดคาร์บอมบ์กับกำลังรบกึ่งทหารของอินเดียในเขตแคชเมียร์ที่อินเดียบริหาร ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 40 ราย และบาดเจ็บจำนวนมาก และปากีฯปฏิเสธว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุร้าย แต่อินเดียกล่าวโทษ Jaish-e-Mohammed ซึ่งเป็นกลุ่มก่อการร้ายในปากีฯซึ่งกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯระบุว่าเป็นองค์กรก่อการร้ายต่างชาติ.