ว่างงานเกาหลีใต้สูงสุดในรอบ 9 ปี
อัตราการว่างงานของเกาหลีใต้พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 9 ปีในเดือนม.ค.ปีนี้ คนเกี่ยงงานเงินเดือนน้อยเนื่องจากมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ กดดันเศรษฐกิจมากขึ้นและส่งผลกระทบต่อนโยบายของประธานาธิบดีมุนแจอิน
โดยตัวเลขการว่างงงานพุ่งขึ้นมาอยู่ที่ 4.4% ในเดือนม.ค.สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2553 ที่เคยสูงถึง 4.7%
งานส่วนใหญ่ที่หายไปอยู่ในส่วนการผลิตและการก่อสร้าง อ้างอิงจากข้อมูลของสำนักงานสถิติเกาหลีที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา
อัตรางานที่หายไปส่งผลกระทบกับเกาหลีใต้ที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 4 ของเอเชียในช่วงเวลาที่มีความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน (ซึ่งเป็นสองประเทศคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ ) เป็นภัยคุกคามต่อประเทศ ซึ่งเป็นผู้ส่งออกอันดับ 6 ของโลก
ยอดส่งออกลดลงในเดือนม.ค.เนื่องจากยอดขายไปจีนหดตัวลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน ส่งผลกระทบมากขึ้นกับงานในภาคการผลิตและบริการของเกาหลีใต้
โดยในเดือนธ.ค.2561 อัตราการว่างงานอยู่ที่ 3.8%
ทั้งนี้ การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในระดับประเทศโดยรวม 29% ทำให้งานที่มีค่าจ้างต่ำหายไปในส่วนผู้ค้าปลีก การก่อสร้าง และภาคค้าปลีกจากเศรษฐกิจที่ยอดส่งออกชะลอตัว
มีผลตั้งแต่เดือนม.ค.ปีนี้ ที่ค่าแรงขั้นต่ำปรับขึ้น 10.9% จากปี 2561 มาอยู่ที่ 8,350 วอน หรือราว 234 บาทต่อชั่วโมงหลังจากมีการปรับขึ้นค่าแรงไปแล้วถึง 16% ในปี 2561
แรงงานในภาคการผลิตได้รับผลกระทบมากที่สุดในเดือนม.ค. โดยมีงานหายไปถึง 170,000 อัตราเมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่ภาคก่อสร้างและค้าปลีกมีงานหายไป 19,000 อัตรา และ 67,000 อัตราตามลำดับ
จำนวนการว่างงานที่เพิ่มขึ้นส่งผลด้านลบกับนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีมุน และเป็นความท้าทายทางการค้าครั้งใหญ่สำหรับผู้นำเกาหลีใต้ ซึ่งขณะนี้คะแนนความนิยมดิ่งร่วงลงในช่วงหลายเดือนมานี้
หลังจากมีการเผยแพร่ข้อมูลเมื่อวันที่ 13 ก.พ.ได้ไม่นาน ฮงนัมกิ รมว.กระทรวงการคลังระบุในการประชุมนโยบายว่า “ รัฐบาลจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการสร้างงานถึง 150,000 อัตรา” ปีนี้
นักเศรษฐศาสตร์ระบุว่า ปัจจัยลบทั้งการส่งออกที่ทรุดตัวลง เศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวและตลาดแรงงานที่อ่อนแรงจะยิ่งทำให้เกิดความเสี่ยงมากขึ้นกับเกาหลีใต้ในปีนี้
ปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นที่กระทบการเติบโตทำให้ธนาคารกลางเกาหลีใต้มีความระมัดระวังมากขึ้นในการออกนโยบาย ในเดือนม.ค. ธนาคารกลางเกาหลีใต้ยังคงอัตราดอกเบี้ยเดิมไว้ที่ 1.75% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงขณะที่หั่นตัวเลขคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจลง.