ศก.สหรัฐฯหนุนจ้างงานโตเดือนม.ค.
เศรษฐกิจสหรัฐฯหนุนให้มีการจ้างงานแข็งแกร่งเกินคาดการณ์ถึง 304,000 อัตราในเดือนม.ค. อ้างอิงจากตัวเลขทางการ
โดยตัวเลขสูงเกินกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้คือ 165,000 อัตรา
อย่างไรก็ตาม มีการปรับแก้ตัวเลขการเติบโตของการจ้างงานในเดือนธ.ค.61 ลงเหลือ 222,000 อัตรา ลดลงจากการประเมินครั้งแรกคือ 312,000 อัตรา
ในเดือนม.ค.มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นในด้านการพักผ่อนและโรงแรม การก่อสร้าง การแพทย์ คมนาคม และคลังสินค้า อ้างอิงจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ โดยตัวเลขที่เพิ่มขึ้นช่วยหนุนให้เป็นการเติบโตของการจ้างงานต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่ 100 แล้ว
การจ้างงานเป็นเหมือนตัวชี้วัดถึงความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ แม้จะมีความกังวลเพิ่มขึ้นในหลายปัจจัย เช่น การเติบโตที่ชะลอตัวทั่วโลก ความตึงเครียดทางการค้า และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดต่ำลง
“ นี่เป็นรายงานที่ชัดเจน ชี้แจงให้เห็นถึงความกังวลของประชาชนบางส่วน ” Gus Faucher หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ที่ธนาคาร PNC ให้ความเห็น
อัตราการว่างงานในเดือนม.ค.เพิ่มขึ้นจาก 3.9% เป็น 4% ซึ่งเป็นตัวเลขที่กระทรวงแรงงานระบุว่า เป็นผลกระทบจากการชัทดาวน์บางส่วนของรัฐบาลกลาง โดยการชัทดาวน์ยังส่งผลถึงแรงงานพาร์ทไทม์ในเดือนม.ค. ด้วย กระทรวงแรงงานระบุ
อย่างไรก็ตาม ในภาพรวม การสร้างงานในสหรัฐฯยังคงอยู่ในภาวะที่ดี และอยู่สูงกว่าตัวเลขเฉลี่ย 100,000 อัตราต่อเดือนเพื่อรักษาระดับการเติบโตคู่ไปกับจำนวนประชากรวัยทำงานที่เติบโตขึ้น
โดยนายจ้างสหรัฐฯเพิ่มจำนวนการจ้างงานเฉลี่ย 223,000 อัตราต่อเดือนในปี 2561 ขณะที่ผลสำรวจที่แยกออกมายังพบว่ามีงานที่เปิดรับมากกว่าการว่างงาน
“ หลายธุรกิจรู้สึกว่าพวกเขาจำเป็นต้องหาแรงงาน และพวกเขารู้สึกเช่นนั้นมาหลายเดือน ” Faucher กล่าว “ เรามีการใช้จ่ายของผู้บริโภค เรามีการลงทุนทางธุรกิจ ดังนั้น จึงมีดีมานด์แน่นอน”
ตลาดแรงงานที่ตึงตัวเริ่มจะแปรเปลี่ยนไปเป็นค่าจ้างที่สูงขึ้น โดยค่าจ้างเฉลี่ยรายชั่วโมงสำหรับแรงงานภาคเอกชนอยู่ที่ 27.56 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ปรับเพิ่มขึ้น 3.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน
ซึ่งเป็นตัวเลขที่ชะลอตัวลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับการเติบโต 3.3% ในเดือนธ.ค. แต่ยังเป็นหนึ่งในเดือนที่มีการเติบโตเพิ่มขึ้น หลังจากเกิดวิกฤตการเงินทั่วโลก.