ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 10-11 พ.ย.2565
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 40 และ 41 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ณ กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา ระหว่างวันที่ 10-13 พ.ย. 2565
เรื่องที่ 1,549 การประชุมครั้งนี้ถือเป็นบทสรุปของการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนของกัมพูชาในปี 2565 ภายใต้แนวคิดหลัก “อาเซียน เอ.ซี.ที : รับมือความท้าทายร่วมกัน” (ASEAN A.C.T.: Addressing Challenges Together) ทั้งนี้ กัมพูชาจะทำหน้าที่ประธานอาเซียนต่อไปจนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2565
โดยประเด็นสำคัญที่จะมีการหยิบยกขึ้นมาและไทยมุ่งผลักดัน อาทิ การเสริมสร้างประชาคมอาเซียนเพื่อรับมือกับความท้าทายร่วมกัน เช่น ด้านสาธารณสุข และด้านเศรษฐกิจ เป็นต้น การสร้างโอกาสสำหรับอนาคตที่ยั่งยืน และการรักษาสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค โดยมี key message ในการประชุมสุดยอดฯ ครั้งนี้ คือ “สร้างปัจจุบันให้เข้มแข็ง – ร่วมแรงสู่อนาคต – เคารพวิถีอาเซียน”
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีและผู้นำอาเซียน ได้เข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี ณ พระบรมราชวัง ราชอาณาจักรกัมพูชาด้วย
เรื่องที่ 1,550 ทำดีก็ทำได้นี่นา เชื่อว่าหน่วยงานทุกหน่วยงานตั้งใจจะทำอะไรก็ทำได้แหละเนอะ ที่เกริ่นมาแบบนี้ก็เพราะล่าสุดทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) โดย “คมกฤช ตันตระวาณิชย์” เลขาธิการ สำนักงาน กกพ.ในฐานะโฆษก กกพ.ระบุว่า ได้มีการทบทวนการกำหนดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาไฟฟ้าตามมาตรา 97 (4) จากเดิมโดยเรียกเก็บจากผู้รับใบอนุญาตจำหน่ายไฟฟ้าในอัตรา 0.5 สตางค์ต่อหน่วย เป็นโดยเรียกเก็บจากผู้รับใบอนุญาตจำหน่ายไฟฟ้าในอัตราไม่เกิน 0.5 สตางค์ต่อหน่วย
การดำเนินการดังกล่าวนี้ คาดว่าจากมาตรการงดเว้นการจัดเก็บเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาไฟฟ้าเป็นการชั่วคราว จะสามารถลดภาระค่าไฟฟ้าให้กับประชาชนโดยเฉพาะในปี 2566 ที่แนวโน้มค่าไฟยังคงมีแนวโน้มสูงและแพงต่อเนื่องได้รวม 1,534.92 ล้านบาท โดยจะลดภาระค่าไฟฟ้าให้กับประชาชนลงเป็นจำนวน 0.0063 บาทต่อหน่วย ซึ่งคาดว่าจะเริ่มมีผลตั้งแต่ม.ค. 2566 เป็นต้นไป ได้เห็นแบบนี้ก็ดีใจแทนประชาชนที่ต้องจ่ายค่าไฟด้วย เพราะก่อนหน้านี้ “พี่เต้ย คมกฤช” ก็บอกแล้วว่าค่าไฟคงจะอยู่ระดับเดิมไม่ได้ เพราะต้นทุนสูงขึ้น แต่ถ้าพอมีแนวทางช่วยกันได้แบบนี้ก็รีบทำเถอะขอรับเจ้านาย
เรื่องที่ 1,551 เป็นความยิ่งใหญ่ เหนือความยิ่งใหญ่อีกครั้งของการตัดสินใจส่งผู้แทนกระทรวงการคลังนั่งประธานบอร์ดธนาคารออมสิน แทน “ประภาส คงเอียด” อธิบดีกรมธนารักษ์ ที่เกษียณไปก่อนหน้านี้ “ขุนคลัง” (อาคม เติมพิทยาไพสิฐ) ส่ง “พี่ตุ้ย ธีรัชย์ อัตนวานิช” รองปลัดกระทรวงการคลัง ขึ้นกุมบังเหียน ประธานธนาคารออมสิน งานนี้ ”พี่ตุ้ย ธีรัชย์” ได้ลาออกจาก บสย.ก่อนหน้านี้เป็นที่เรียบร้อย ส่งผู้ตรวจใหม่ชื่อ “เอด วิบูลย์เจริญ” ไปนั่งประธานแทน
ทั้งหมดนี้ต้องจับตามองแนวทางการบริหารธนาคารเฉพาะกิจของรัฐจะเป็นอย่างไรต่อไปในเมื่อ ”ขุนคลัง” ส่งคนที่ไว้ใจที่สุดเข้าไปดูแลธนาคารออมสิน
เรื่องที่ 1,552 พรุ่งนี้แล้วสินะ( 11พ.ย. 65) วันสุดท้ายของการเปิดรับสมัครชิงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ธ.ก.ส. สรุปสุดท้ายจะมีใครลงชิงตำแหน่งนี้บ้าง แต่ได้ยินแว่วๆ เสียงกระซิบจากแดนไกล คนใน ธ.ก.ส. ตั้งรับสู้ศึกครั้งนี้อย่างเหนียวแน่นแม้ภาษีคนนอกแบงก์จะเหนือกว่า เพราะได้รับแรงหนุนจากกระทรวงการคลังล้านเปอร์เซ็นต์ ขณะที่ภายในแรงเชียร์ส่งเสียงดัง อยากได้ลูกม้อนั่งบริหารเหมือนอดีตที่ผ่านมา ซึ่งสุดท้ายจะออกหัวหรือก้อย ธ.ก.ส. ยังเป็นธนาคารเฉพาะกิจของรัฐที่ทำหน้าที่ดูแลและพัฒนาชีวิตเกษตรกรให้ดีขึ้น
โดยนพวัชร์