นาโอมิ โอซากะ โค่นเซเรนา วิลเลียมส์ในยูเอสโอเพ่น
เมื่อวันที่ 9 ก.ย. ประเทศญี่ปุ่นร่วมเชิดชูนาโอมิ โอซากะ ที่สามารถโค่นเซเรนา วิเลเลียมส์ ผู้เป็นตำนาน ในการแข่งขันเทนนิสยูเอสโอเพ่นลงได้ทำให้ประเทศที่ถูกภัยพิบัติโจมตีในตอนนี้ได้รับข่าวดีท่ามกลางหายนะ
นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ เป็นผู้นำในการแสดงความยินดีต่อนักเทนนิสสาว โดยได้ทวีตข้อความหลังจากที่นาโอมิ โอซากะ เอาชนะเซเรนา ไปด้วยคะแนน 6-2,6-4 ในการแข่งขันที่นครนิวยอร์ก
ทวีตของนายกอาเบะระบุว่า “ขอแสดงความยินดีกับชัยชนะของคุณในการแข่งขันยูเอสโอเพ่น นักกีฬาชาวญี่ปุ่นคนแรกที่ชนะรายการแกรนด์สแลม ขอขอบคุณที่มอบพลังและแรงบันดาลใจให้กับชาวญี่ปุ่นทั้งประเทศ”
นายกอาเบะอยู่ระหว่างทางเพื่อเดินทางไปยังเกาะฮอกไกโด ทางเหนือของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ถูกแผ่นดินไหวขนาดใหญ่โจมตีจนเกิดดินถล่มทับบ้านหลายหลังคาเรือนในบริเวณชนบท ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 35 ราย และบาดเจ็บหลายร้อยราย
สถานีโทรทัศน์สาธารณะ NHK ได้พักการรายงานข่าวเกี่ยวกับภัยพิบัติตลอดเวลาชั่วขณะ ก่อนจะแสดงความยินดีและเผยให้ทราบเรื่องราวชัยชนะในครั้งนี้ซึ่งเป็นข่าวที่ดีกว่า
พาดหัวข่าวชัยชนะในครั้งนี้ระบุว่า “โอซากะคว้าแชมป์ยูเอสโอเพ่นหญิง ญี่ปุ่นคนแรกที่ชนะแกรนด์สแลม”
ด้านหนังสือพิมพ์ Nippon ระบุว่า โอซากะได้รับชัยชนะโดยสมบูรณ์ โดยสามารถโค่นเซเรนา วิลเลียมส์ ที่ไม่พอใจและทำลายแร็กเก็ตเทนนิสของเธอทิ้ง
ด้านสำนักข่าว Asahi Shimbun ทวีตว่า จะมีการตีพิมพ์หนังสือพิมพ์ฉบับพิเศษโดยเฉพาะ และจะจำหน่ายในโตเกียวเพื่อการนี้
การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในครั้งนี้ อาจกลายเป็นที่จดจำ ไม่เพราะชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์ของนักกีฬาสาววัย 20 ปีชาวญี่ปุ่นเท่านั้น
แต่เป็นวันที่เซเรนา วิลเลียมส์ แสดงอาการความไม่พอใจอย่างรุนแรง และเรียกผู้ตัดสินว่า “หัวขโมย”
ท่าทีหัวเสียของเซเรนา ได้บดบังความสามารถอันโดดเด่นของโอซากะ ผู้ซึ่งสร้างชื่อในวงการเทนนิสของเธอเป็นครั้งที่ 2 ด้วยการคว้าแชมป์ Grand Slam หลังจากที่เพิ่งคว้าความสำเร็จครั้งแรกเมื่อเดือน มี.ค. จากรายการ Indian Wells
โอซากะ ผู้ถือสัญชาติ ญี่ปุ่น-อเมริกัน มักตอบคำถามจากสื่อทางญี่ปุ่นเป็นภาษาอังกฤษ ทั้งยังขอโทษที่เธอไม่ทราบคำศัพท์ที่เหมาะสมเมื่อเธอพูดภาษาญี่ปุ่น แต่แฟนคลับชาวญี่ปุ่นต่างยินดีที่จะต้อนรับเธอเป็นส่วนหนึ่งของประเทศญี่ปุ่นในวันที่เธอได้รับชัยชนะยิ่งใหญ่ที่สุด
แฟนคลับรายหนึ่งบนทวิตเตอร์ระบุว่า “บทสัมภาษณ์ของเธอแสดงให้เห็นว่าเธอเป็นชาวญี่ปุ่นแน่นอน ไม่เกี่ยวว่าเธอจะเกิดที่ไหน จะเติบโตขึ้นที่ไหน แม้แต่สีผิว และภาษาที่เธอพูด คุณคือความภูมิใจของญี่ปุ่น”.