8 ที่เที่ยว “Green Season” ชุ่มฉ่ำ หน้าฝน ชมหมอก
“ฤดูฝน” แม้หลายคนจะต้องกลัวเปียก แต่สำหรับสายเที่ยวแล้ว หน้าฝนถือเป็นหนึ่งในของประสบการณ์ท่องเที่ยวที่งดงามแทบจะเป็นที่สุด เพราะความเขียวชอุ่ม สดชื่น สบายตา บรรยากาศเยี่ยม จนทำให้การท่องเที่ยวในฤดูนี้ ได้รับการขนานนามให้เป็น “Green Season”
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยในช่วง “Green Season” มีด้วยกันหลายแห่ง ซ่อนอยู่ในจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ วันนี้เราจพาไปเยี่ยมเยือนแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งที่มใครไปแล้ว รับรองได้พลังบวกกลับมาสู้โลกแห่งการเอาตัวรอดได้แน่นอน
หมู่บ้านผาตั้ง เชียงราย
เริ่มต้นกันบนจังหวัดเหนือสุดแห่งสยาม จังหวัดเชียงราย แนะนำไปเที่ยว “บ้านผาตั้ง” อยู่ห่างจากภูชี้ฟ้า 25 กิโลเมตร บริเวณหมู่บ้านแห่งนี้ เป็นจุดชมทัศนียภาพไทย-ลาว และทะเลหมอกได้ตลอดปี ที่สำคัญในช่วงหน้าฝนก็สวยงามไม่แพ้กัน เพราะสามารถชมวิวเขียว ๆ ของต้นไม้และทิวเขา และกลิ่นหอม ๆ ของธรรมชาติ สูดโอโซน กันได้เต็มปอด ที่สำคัญใครชอบถ่ายรุปที่นี่มีจุดถ่ายรูปวิวสวย ๆ ให้ถ่ายกันจนเต็มอิ่ม
นอกจากนี้ใครไปช่วงในเดือนธันวาคมเรื่อยไปถึงช่วงมกราคม ได้ชมดอกซากุระและดอกเสี้ยวบานสะพรั่ง เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวจีนฮ่อ ม้ง และเย้า ปัจจุบันประกอบอาชีพเกษตรกรรมปลูกพืชเมืองหนาว เช่น บ๊วย ท้อ แอปเปิ้ล และชา ดอยผาตั้งมีจุดชมวิวช่องผาบ่อง เป็นช่องหินขนาดใหญ่สามารถมองเห็นแม่น้ำโขงทอดตัวคดเคี้ยวในฝั่งลาว หากเดินเท้าต่อไปอีก 1 กิโลเมตร จะถึงจุดชมวิว 103 สภาพเส้นทางบางช่วงสูงชัน บนดอยผาตั้งมีที่พัก สถานที่กางเต็นท์ และร้านอาหารให้เลือกอีกมากมาย มาถึงเชียงรายแล้วไม่ควรพลาดต้องเดินทางไปเที่ยวให้ได้สักครั้ง
บ้านป่าปงเปียก เชียงใหม่
ใครชอบชมความเขียวอมเหลืองสบายตาของนาขั้นบันได พลาดไม่ได้ต้องไปชมกันที่ “บ้านป่าบงเปียง” อำเภอแม่แจ่ม ใกล้กับยอดดอยอินทนนท์ นาขั้นบันไดที่นี่ได้รับการการันตีว่า เป็นนาขั้นบันไดที่สุดแสนงดงามแห่งหนึ่งในประเทศไทย นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวแบบพาโนรามาของทุ่งนาไกลสุดลูกตา คดเคี้ยวสลับเป้นขั้น ๆ จากเนินเขาพร้อมด้วยวิวด้านหลังเป้นทิวเขาสลับซับซ้อนเหมือนหลุดไปอีกโลกแห่งความร่มรื่น และสดชื่นเมื่อไปเยือน
โดยนาขั้นบันไดที่นี่เป้นไปตามวิถีชีวิตของชาวบ้านบนที่สูง ที่ต้องปลูกข้าวบนเนินเขา ทำให้ต้องปรับหน้าดินเป็นขั้น ๆ เพื่อกักเก็บน้ำเอาไว้ ตอนปลูกลงกล้าไม่เท่าไหร่ แต่พอต้นข้าวน้อย ๆ โตขึ้นมาจนตั้งท้อยออกรวง ช่วงเวลานี้แหล่ะงามที่สุด โดยช่วงเวลาท่องเที่ยวอยู่ระหว่างเดือนกันยายน ถึงเดือนตุลาคม จะสวยที่สุด ในฤดูฝน หากนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวในช่วงเช้าตรู่จะได้พบกับทะเลหมอกและแสงแรกรับอรุณ เป็นภาพทิวทัศน์ที่สวยงามสุดๆ หากเดินทางมาในช่วงเย็นยามแสงอาทิตย์จะลับขอบฟ้า ก็จะเป็นบรรยากาศที่น่าประทับใจ
หมู่บ้านสะปัน น่าน
ลงมาทางเหนือตอนล่างอีกสักนิดไปต่อกันที่ “บ้านสะปัน” อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน ห่างจากบ่อเกลือภูเขาประมาณ 9 กิโลเมตร บ้านสะปัน เป็นชุมชนเล็กๆ แสนสงบ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของขุนเขา มีลำธารไหลผ่าน และในช่วงหน้าฝนฤดูทำนา ยังสามารถชมวิวทิวทัศน์ของนาข้าวเขียวขจีได้อีกด้วย เรียกได้ว่าหากแวะมาเที่ยวบ่อเกลือภูเขาขับรถเลยไปอีกเพียงไม่กี่นาทีก็จะถึงหมู่บ้านสะปัน หรือบางคนก็เลือกที่จะพักค้างคืนที่หมู่บ้าน เพราะสะปันเป็นที่ตั้งของ อุ่นไอมาง ณ สะปัน ที่พักชื่อดังริมธาร ในบรรยากาศแสนธรรมชาติ
ใครไปถึงบ้านสะปันแล้วขอให้เลยไปเที่ยว น้ำตกสะปัน เป็นน้ำตกที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติขุนน่าน เป็นน้ำตกที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติขุนน่าน เกิดจากลำน้ำสะปัน เป็นน้ำตกขนาดกลาง มี 3 ชั้นใหญ่ ความสูงของน้ำตกชั้นที่ 1, 2, และ 3 สูงประมาณ 3, 5, 6, เมตร ตามลำดับ มีน้ำไหลตกตลอดทั้งปี เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามตามธรรมชาติ สภาพป่าไม้บริเวณน้ำตกมีความร่มรื่น สมบูรณ์และสวยงามจับใจ
หมู่บ้านเนินมะปราง พิษณุโลก
เมืองสองแคว เมืองหน้าด่านสำคัญที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกับประเทศไทย ไม่ได้มีดีแค่สิ่งศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น แต่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าชมอีกหลายแห่ง เราขอแนะนำที่เที่ยวหนึ่งที่ควรไปในหน้าฝน นั่นคือ “เนินมะปราง” อำเภอเล็กๆน่ารักของพิษณุโลก มีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจอย่างภูเขาหินปูนอายุกว่า 360 ล้านปี เป็นภูเขาหินปูนรูปร่างแปลกตาเป็นแนวยาว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง บริเวณเชิงเขาก็จะเป็นไร่ข้าวโพดสลับกับนาข้าวสีเขียวขจี อากาศเย็นสบาย
ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางทุ่งนาและทุ่งข้าวโพดเขียวขจี ตัดกับฟ้าสีครามสดใส หากวันไหนที่มีฝนลงชุกทำให้เกิดความชื้นเกิดหมอกจาง ๆ ปกคลุมยอดเขา เรียกว่าสวยสะบัดช่อ ส่วนจุดไฮไลท์ของเนินมะปราง ควรไปจุดที่ชมวิวเขาหินปูนตั้งอยู่กลางหมู่บ้าน อยู่ที่บ้านมุง และในตอนเย็นจุดนี้จะได้รับความนิยมเป็นพิเศษเนื่องจากเป็นจุดชมวิวฝูงค้างคาวนับพันบินออกจากถ้ำหากินในยามเย็น
บ้านนาต้นจั่น สุโขทัย
บ้านนาต้นจั่นเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์มีวิถีชีวิตดั้งเดิม มีการทำเกษตรแบบผสมผสาน มีการทำผ้าหมักโคลนเป็นผ้าดีมีน้ำหนัก งดงามด้วยการหมักโคลนและการทอที่ซับซ้อน ชาวบ้านได้ปรับพื้นที่สำหรับกางเต็นท์ ยกแคร่ไม่ไผ่ทำเป็นที่นั่งกินข้าว ทำห้องน้ำ ส่วนที่เหลือยังคงสภาพป่าไว้ดังเดิม สันดอยแห่งนี้มีทัศนียภาพงดงาม สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้ในจุดเดียวกัน
ใครมาที่นี่มีกิจกรรมให้ทำมากมาย เช่น นอนโฮมสเตย์ ใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ ปั่นจักรยานชมหมู่บ้าน นั่งรถอีแต๊ก ลิ้มลองมะนาวน้ำผึ้ง อาหารพื้นบ้าน อาหารถิ่นขันโตก และข้าวเปิ๊บล้มยักษ์ ดูหมอกยามเช้าที่จุดชมวิวห้วยต้นไฮ ชมพระอาทิตย์ตก ถ่ายรูปกับสวนดอกไม้สวย ๆ ที่สะพานนา สะพานไม้ไผ่ ชมสาธิตการทอผ้า วิธีการทำผ้าหมักโคลน ตักบาตรตอนเช้า มีกิจกรรมปั่นจักรยานชมวิถีชมุชนในหมู่บ้าน ชมสวนผลไม้และท้องทุ่งพร้อมไกด์ชุมชนนำทาง ไปชมสวนผลไม้ของชาวบ้าน ใครไปต้องลองพักโฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่นที่มีให้เลือกจำกัดแบบเอ็กซ์ครูซีฟ
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นครราชสีมา
“อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่” แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่คนไทยแทบไม่มีใครไม่รู้จัก ใครมาเที่ยวที่นี่แต่ละฤดูกาลก็มีความสวยสดใสแตกต่างกัน โดยแฉพาะใครที่มาเที่ยวในช่วงฤดูฝน จะได้ชมกับความเขียวชอุ่มของป่าที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดในประเทศ และน้ำตกสวยอลังการ โดยอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีภูมิประเทศประกอบด้วยป่าดิบ ป่าโปร่ง น้ำตก สัตว์ป่าและไม้ป่านานาชนิด ยอดเขาที่สูงที่สุด คือยอดเขาแหลม มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,292 เมตร เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย และองค์กรยูเนสโก ประกาศให้เป็นมรดกโลกเมื่อวันที่ 14 ก.ค. 2548
สถานที่ท่องเที่ยวภายในอุทยานชื่อดัง คือ “น้ำตกเหวนรก” อยู่ทิศใต้ของอุทยานฯ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ 3 ชั้น ความสูง 150 เมตร ลักษณะการไหลของน้ำตกเป็นแบบ 90 องศา สู่แอ่งน้ำเบื้องล่างต้องระวังการเที่ยวชมในช่วงฤดูฝนเพราะน้ำไหลแรงมาก รวมทั้ง “น้ำตกผากล้วยไม้” เป็นน้ำตกขนาดกลาง ที่หน้าผาของน้ำตกมีกล้วยไม้หวายแดงขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก และ “น้ำตกเหวสุวัต” เกิดจากห้วยลำตะคองไหลตกจากหน้าผาสูง 25 เมตร ในฤดูฝนมีน้ำ ไหลเชี่ยว
เขื่อนกระเสียว สุพรรณบุรี
ใครชอบเที่ยวเขื่อนปักเต้นพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวงลองไป “เขื่อนกระเสียว” ตำบลด่านช้าง ในพื้นที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาห้วยกระเสียว ว่ากันว่าที่นี่เนจุดชมพระอาทิตย์ตกดินสวยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย โดยเขื่อนกระเสียว สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2523 จัดเป็นเขื่อนดินที่มีความยาวมากที่สุดในประเทศไทย สามารถกักเก็บน้ำได้สูงสุดถึง 240 ล้านลูกบาศก์เมตร และเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของจังหวัดสุพรรณบุรี รวมทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม
แม้ช่วงกลางวันอากาศจะร้อน หากแต่ในช่วงเย็นอากาศมักจะเย็นสบาย สำหรับจุดที่เหมาะแก่การชมพระอาทิตย์นั้น คือบริเวณสันเขื่อน สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการขึ้นไปชมทิวทัศน์ ต้องเดินขึ้นบันไดจากลานจอดรถด้านล่าง เมื่อขึ้นไปถึงจะมองเห็นทิวทัศน์กว้างไกลสุดสายตาถึงเขาพุเตย พรั่งพร้อมไปด้วยร้านอาหารบริการใกล้กับลานจอดรถ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการกางเต็นท์พักแรม สุดสโลว์ไลฟ์แน่นอน
บ้านอีต่อง กาญจนบุรี
หมู่บ้านเล็กๆ ในหุบเขาแห่ง ตำบลปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ติดกับชายแดนไทย-เมียนมา เมืองแห่งเหมืองแร่ที่เคยรุ่งเรืองในอดีต หลังจากตำนานอันรุ่งโรจน์ได้ปิดตัวลง คงไว้ซึ่งหมู่บ้านท่องเที่ยวยอดฮิต ที่เต็มไปด้วยความงดงามของธรรมชาติ เหมือนมีมนต์สะกดให้นักท่องเที่ยวผู้โหยหาธรรมชาติ เดินทางเข้ามาสัมผัสอากาศอันบริสุทธิ์ ยิ่งในช่วงฤดูฝนจะได้พบกับภาพไอหมอกปกคลุมทั้งหมู่บ้าน กลายเป็นภาพที่โรแมนติกงดงามมาก
อากาศของที่นี่เรียบว่าอากาศดีตลอดทั้งปี ยิ่งในหน้าฝนก็ได้ชมหมอกกันทั้งเช้าทั้งเย็นเลย แถมมีกิจกรรมให้ทำด้วยนะ เช่น แขวนชื่อบนสะพานไม้ ใส่บาตรตอนเช้า ชมความงามของวิวหมู่บ้านท่ามกลางหมอก พร้อมจิบกาแฟ อาหารเช้า นักท่องเที่ยวสามารถเดินเยี่ยมชมหมู่บ้าน เรียนรู้วิถีชีวิตท้องถิ่น ไหว้พระวัดปิล็อก และเดินทางไปท่องเที่ยวยังสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง เช่น เขาช้างเผือก เนินช้างศึก อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ และน้ำตกจ๊อกกระดิ่น ได้ด้วย
ขอบคุณภาพจาก : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา