สรรพสามิตรีดภาษี 6 ด.ทะลุเป้า 2.89 แสน ล.
กรมสรรพสามิต แจงผลงานจัดเก็บภาษีสรรพสามิตในรอบ 6 เดือนแรก ทะลุเป้า ยอดจัดเก็บได้พุ่งกว่า 2.89 แสนล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 20,501.03 ล้านบาท เผยน้ำมันทำรายได้ภาษีสูงสุด
นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต แถลงผลการจัดเก็บรายได้ภาษีสรรพสามิตช่วง 6 เดือนแรกปี 2562 (ต.ค.61 – มี.ค.62) ว่า จัดเก็บได้รวม 289,638.94 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 20,501.03 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.62 โดย 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.ภาษีน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน จัดเก็บได้สูงสุด 97,044.20 ล้านบาท 2.ภาษีรถยนต์ 70,811.50 ล้านบาท 3.ภาษีเบียร์ 36,753.51 ล้านบาท 4.ภาษียาสูบ 34,553.58 ล้านบาท และ5.ภาษีสุรา 33,988.22 ล้านบาท
สำหรับความคืบหน้ามาตรการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบที่ได้รับผลกระทบจากการลดปริมาณการรับซื้อใบยาสูบ เฉพาะฤดูกาลผลิต 2561/2562 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรผู้เพาะปลูกยาสูบนั้น อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า ปัจจุบัน ธกส. ดำเนินการโอนเงินเข้าบัญชีผู้ได้รับสิทธิ จำนวน 3 ครั้ง เมื่อวันที่ 8, 11 และ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา จำนวน 12,658 ราย เป็นเงิน 112.38 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตาม ยสท. ยังเร่งตรวจสอบสิทธิกลุ่มเกษตรกรในส่วนที่เหลือ ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถจ่ายเงินเยียวยาทั้งหมดวันที่ 2 เม.ย.62 ส่วนมาตรการในระยะยาว คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้กระทรวงการคลัง และ ยสท. ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการพิจารณาแนวทางการส่งเสริมเกษตรกรให้เพาะปลูกพืชชนิดอื่นแทนการปลูกยาสูบ หรือสนับสนุนให้เกษตรกรผู้ปลูกยาสูบที่มีความพร้อมปรับเปลี่ยนไปประกอบอาชีพอื่นที่เหมาะสม โดยให้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนที่จะเริ่มฤดูการผลิตในปี 2562/2563 เพื่อให้เกษตรกรที่จะได้รับผลกระทบมีเวลาเพียงพอในการปรับแผนการผลิต และเพื่อให้มีรายได้ทดแทนจากการจำหน่ายใบยาสูบที่ลดลง
ขณะที่แนวทางการพัฒนาการตรวจวิเคราะห์คุณภาพสุรานั้น เขาย้ำว่า คณะรัฐมนตรีอนุมัติในหลักการให้กรมสรรพสามิตเป็นผู้ตรวจสอบและวิเคราะห์คุณภาพสุราให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งสุราที่ผลิตในประเทศและสุรานำเข้าจากต่างประเทศ เพื่อสุขภาพอนามัยของประชาชนและสอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติอย่างเท่าเทียมและตามหลักสากล ทั้งนี้ กรมสรรพสามิตจึงได้เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อปรับปรุงแก้ไขกฎกระทรวงการอนุญาตนำสุราเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2560
โดยขอแก้ไขข้อ 5 (2) จากเดิม “ส่งตัวอย่างสุราที่จะนำเข้ามาในราชอาณาจักรต่ออธิบดีเพื่อตรวจวิเคราะห์คุณภาพก่อนยื่นคำขอใบอนุญาต หรือส่งหนังสือรับรองผลการวิเคราะห์ตัวอย่างสุราดังกล่าว ว่ามีคุณสมบัติเป็นไปตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม …” เป็น “ส่งตัวอย่างสุราที่จะนำเข้ามาในราชอาณาจักรต่ออธิบดีเพื่อตรวจวิเคราะห์คุณภาพก่อนยื่นคำขอใบอนุญาต หรือส่งหนังสือรับรองผลการวิเคราะห์ตัวอย่างสุราดังกล่าวว่ามีคุณสมบัติเป็นไปตามมาตรฐานที่อธิบดีประกาศกำหนด …” ซึ่งจะได้ออกประกาศกรมสรรพสามิต เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์การตรวจวิเคราะห์คุณภาพสุราสำหรับสุราที่ผลิตในประเทศและสุรานำเข้าใหม่ตามแนวทางที่คณะทำงานฯ ได้ให้ความเห็นชอบ โดยแบ่งมาตรฐานในการตรวจวิเคราะห์คุณภาพสุราเป็น 4 มาตรฐาน ได้แก่ มาตรฐานไวน์ มาตรฐานสุราแช่อื่น มาตรฐานสุรากลั่น และมาตรฐานเบียร์ ต่อไป
ด้านมาตรการภาษีเพื่อลดปริมาณฝุ่น PM 2.5 และมลพิษต่างๆ ที่ปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศ กรมสรรพสามิตนำปัจจัยเรื่องการปล่อยมลพิษฝุ่น PM มาเป็นหลักการในการกำหนดอัตราภาษีควบคู่ไปกับหลักการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) โดยปรับลดอัตราภาษีรถยนต์กระบะ และรถยนต์กระบะ 4 ประตู (Double Cab) หากมีค่าฝุ่น PM ไม่เกิน 0.005 กรัมต่อกิโลเมตร หรือรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลที่ใช้เชื้อเพลิงประเภทไบโอดีเซล ไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 เป็นส่วนผสมกับน้ำมันเชื้อเพลิงได้ (บี 20) เพื่อยกระดับมาตรฐานการปล่อยมลพิษจากท่อไอเสียของรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลจากมาตรฐาน ยูโร 4 (PM ไม่เกิน 0.025) ในปัจจุบัน เป็นมาตรฐาน ยูโร 5 (PM ไม่เกิน 0.005) ให้เร็วยิ่งขึ้น ประกอบกับมาตรการปรับลดอัตราภาษีรถยนต์แบบพลังงานไฟฟ้า (Electronic Powered Vehicle) ภายใต้หลักเกณฑ์และเงื่อนไขของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) จากปัจจุบันอัตราภาษีร้อยละ 2 ให้ลดลงเหลืออัตราร้อยละ 0 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.63 จนถึง 31 ธ.ค.65
ด้านผลการตรวจค้นและจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 โดยผลการปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตทั่วประเทศ ในรอบ 6 เดือนแรก พบว่ามีการกระทำผิด 17,217 คดี คิดเป็นเงินค่าปรับ 264.62 ล้านบาท แยกเป็นคดีสุรา 10,054 คดี ค่าปรับ 93.98 ล้านบาท, คดียาสูบ 4,701 คดี ค่าปรับ 101.79 ล้านบาท, คดีไพ่ 477 คดี ค่าปรับ 4.25 ล้านบาท, คดีน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน 766 คดี ค่าปรับ 27.94 ล้านบาท, คดีน้ำหอม 60 คดี ค่าปรับ 1.32 ล้านบาท, คดีรถจักรยานยนต์ 875 คดี ค่าปรับ 17.30 ล้านบาท และสินค้าอื่นๆ อีก 284 คดี รวมเป็นเงินค่าปรับ 18.05 ล้านบาท โดยมีของกลางแยกเป็นน้ำสุรา 187,272.107 ลิตร, ยาสูบ 242,127 ซอง, ไพ่ 19,835 สำรับ, น้ำหอม 25,509 ขวด, น้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน 580,365.170 ลิตร และรถจักรยานยนต์ 865 คัน
“หากประชาชนท่านใดทราบเบาะแสการกระทำความผิดเกี่ยวกับสินค้าที่ต้องเสียภาษีสรรพสามิตสามารถแจ้งโดยตรงได้ที่กรมสรรพสามิต หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ทุกแห่งทั่วประเทศ หรือ Call center 1713 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือที่ www.excise.go.th หรือแจ้งที่ตู้ ป.ณ.10 เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300 ซึ่งกรมสรรพสามิตจะปกปิดข้อมูลของผู้แจ้งเบาะแสเป็นความลับ และจะมอบสินบนนำจับให้ ภายหลังจากคดีเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว” อธิบดีกรมสรรพสามิตย้ำ.