ไฟไหม้ทรัมป์ทาวเวอร์ในนิวยอร์ก
มีรายงานผู้เสียชีวิตเป็นชายหนึ่งรายและเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 6 นายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากเหตุเพลิงไหม้บนอพาร์ทเมนต์ชั้นที่ 50 ของตึกทรัมป์ทาวเวอร์ในนครนิวยอร์กเมื่อวันที่ 7 เม.ย. แต่มีการควบคุมเพลิงไหม้ไว้ได้อย่างรวดเร็ว
โดยเหยื่อชื่อนายทอดด์ บราสเนอร์ วัย 67 ปี ถูกพบในสภาพร่างกายไม่ตอบสนองและหมดสติอยู่บนอพาร์ทเมนต์ชั้นที่ 50 เขาเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจรายงาน
ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในคืนวันที่ 7 เม.ย. โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมีสำนักงานและที่พักส่วนตัวในตัวอาคารกลางย่านแมนฮัตตันแห่งนี้ ไม่ได้อยู่ในตึกในเวลาที่เกิดเหตุ
“ไฟไหม้ที่ทรัมป์ทาวเวอร์ดับหมดแล้ว ควบคุมได้ดีมาก เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำงานได้ดีมาก ขอบคุณ” ทรัมป์ทวีตบนทวิตเตอร์ก่อนมีรายงานผู้เสียชีวิต
ขณะที่เอริก ทรัมป์ บุตรชายของเขาทวีตแสดงความยินดีกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงก่อนที่จะมีรายงานข่าวผู้เสียชีวิตเช่นกัน โดยเขาทวีตว่า “@FDNY และ @NYPD เป็นกลุ่มคนที่น่าเหลือเชื่อที่สุด”
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระบุว่า ไม่มีสมาชิกในครอบครัวของประธานาธิบดีทรัมป์อยู่ในตึกในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ
“นี่เป็นเพลิงไหม้ที่ควบคุมยาก อย่างที่คุณเห็น อพาร์ทเมนต์มีขนาดใหญ่มาก เราต้องขึ้นไปถึงชั้นที่ 50 ชั้นที่เหลืออื่นๆในตึกก็มีแต่ควัน” แดเนียล นิโกร คณะกรรมการฝ่ายดับเพลิงทวีตบนทวิตเตอร์
มีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงประมาณ 200 นายที่เข้าร่วมปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ โดยฝ่ายดับเพลิงระบุว่า เป็นไฟไหม้ระดับ 4
ภาพวีดีโอบนโซเชียลมีเดียแสดงให้เห็นถึงเปลวไฟที่ลามออกมานอกหน้าต่างไม่กี่บานและควันดำพวยพุ่งขึ้นสูง
เมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 รายในเหตุไฟไหม้เครื่องทำความเย็นที่ตั้งอยู่บนยอดตึกทรัมป์ทาวเวอร์ โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงหนึ่งนายถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ขณะที่อีกสองคนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และได้รับการรักษาในที่เกิดเหตุ ฝ่ายดับเพลิงของนครนิวยอร์กรายงาน
นอกจากชั้นที่ 66 ที่เป็นห้องพักกว้างขวางแบบเพนธ์เฮาส์ของประธานาธิบดีทรัมป์แล้ว ตึกทรัมป์ทาวเวอร์ยังเป็นสำนักงานใหญ่ของเครือข่ายธุรกิจของประธานาธิบดีทรัมป์ รวมถึงเป็นที่ตั้งของผู้อยู่อาศัยคนอื่นๆ สำนักงาน และร้านค้าด้วย.