“มาครง”เยือนอินเดีย
เมื่อวันที่ 10 มี.ค.ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงแห่งฝรั่งเศสกล่าวว่า เขาต้องการให้ประเทศฝรั่งเศสเป็นหุ้นส่วนที่ดีที่สุดของอินเดียในยุโรปในระหว่างทริปการเยือนอินเดียเป็นเวลา 3 วัน เพื่อกระชับความมั่นคงและความสัมพันธ์ด้านพลังงาน
โดยประธานาธิบดีมาครง ซึ่งได้รับการต้อนรับจากนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดิด้วยการสวมกอดอย่างอบอุ่นในวันที่ 9 มี.ค.ที่เขาเดินทางถึงอินเดียยังได้กล่าวว่าความมั่นคงจะเป็นประเด็นสำคัญที่สุดในระหว่างการพูดคุยในวันที่ 10 มี.ค.
“ ฝรั่งเศสเป็นจุดเริ่มต้นเข้าสู่ยุโรป เราต้องการเป็นประเทศหุ้นส่วนที่ดีที่สุดของอินเดียในยุโรป ” ผู้นำฝรั่งเศสกล่าวหลังจากพิธีการต้อนรับที่ทำเนียบประธานาธิบดีอินเดียในกรุงนิวเดลี
“ จุดประสงค์แรกของการเยือนอินเดียของผมคือการกระชับความมั่นคงให้แข็งแกร่งในภูมิภาคระหว่างประเทศที่เป็นประชาธิปไตยทั้งสองของเรา ” ทั้งสองประเทศจะลงนามในข้อตกลงที่จะยกระดับความร่วมมือทางการทหารในมหาสมุทรอินเดีย
คณะทำงานของประธานาธิบดีฝรั่งเศสระบุในแถลงการณ์ในเวลาต่อมาว่า บริษัทของฝรั่งเศสและอินเดียได้มีการลงนามในสัญญามูลค่า 13,000 ล้านยูโร หรือราว 508,560 ล้านบาท ในวันแรกของการเยือนอินเดียของประธานาธิบดีมาครง
โดยดีลธุรกิจมีทั้งสัญญาที่ Safran ของฝรั่งเศสจัดหาเครื่องยนต์ให้สายการบิน Spice Jet, ระบบประปาสมัยใหม่จาก Suez ในเมือง Davangere ทางใต้ และสัญญาระหว่างบริษัทอุตสาหกรรมก๊าซ Air Liquide และ Sterlite
นอกจากนี้ยังมีการลงนามใน ‘ข้อตกลงอุตสาหกรรมก้าวหน้า’ ระหว่าง EDF ของฝรั่งเศสกับ NPCIL ของอินเดียในการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในเมือง Jaitapur ขณะที่การเจรจาเกี่ยวกับการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในอินเดียรุ่นต่อไปยังคงลากยาวออกไป
เมื่อวันที่ 10 มี.ค. ประธานาธิบดีมาครงยังได้พูดเกี่ยวกับความมีไมตรีจิตส่วนตัวกับนายกฯ โมดิที่เกิดขึ้นหลังจากการประชุมในกรุงปารีสของทั้งสองคนในปี 2560
“ ผมคิดว่า เรามีเคมีที่ดีต่อกัน ประชาธิปไตยที่ยิ่งใหญ่ทั้งสองมีความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์ ” ประธานาธิบดีมาครงกล่าว
ทั้งนี้ นายกฯ โมดิไปต้อนรับผู้นำฝรั่งเศสที่สนามบินเมื่อวันที่ 9 มี.ค. โดยทั้งสองคนต่างสวมกอดกันอย่างอบอุ่น และจับมือกันอย่างแข็งแรง
“ ยินดีต้อนรับสู่อินเดีย ประธานาธิบดี@EmmanuelMacron! การเยือนของคุณจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับการเป็นหุ้นส่วนที่มีกลยุทธ์ระหว่างอินเดียและฝรั่งเศส ” นายกฯโมดิทวีตบนทวิตเตอร์เมื่อวันที่ 9 มี.ค.
ในวันที่ 11 มี.ค. ประธานาธิบดีมาครงจะเข้าร่วมประชุมเรื่องการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ที่ออกแบบมาเพื่อแสดงให้เห็นถึงการต่อสู้กับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งผู้นำทั้งสองให้ความสำคัญเป็นลำดับแรก
และหลังจากนั้นในวันเดียวกัน เขาจะไปเยือนอนุสาวรีย์แห่งความรักที่โด่งดังในระดับโลกอย่างทัชมาฮาลกับภรรยา ซึ่งขับรถออกจากเมืองหลวงของอินเดียไปไม่กี่ชั่วโมง
การมาเยือนอินเดียของประธานาธิบดีมาครงมีขึ้นหลังจากการเยือนอินเดียของนายกรัฐมนตรีแคนาดา – จัสติน ทรูโด โดยผู้นำทั้งสองมักถูกเปรียบเทียบกันอยู่เสมอในระดับนานาชาติ เพราะพวกเขามีความเห็นทางการเมืองที่เหมือนกัน รวมทั้งยังเป็นคนหนุ่มอายุน้อยและหน้าตาดีเหมือนกัน
แต่การเยือนอินเดียของนายกฯทรูโดล้วนแต่ทำให้เกิดอาการกระอักกระอ่วนและเขาได้รับการต้อนรับอย่างเฉยชาจากผู้นำอินเดีย
โดยนายกฯทรูโดถูกประจานและล้อเลียนบนโซเชียลมีเดียและในสื่อของแคนาดาอย่างหนัก เนื่องจากเขาสวมชุดอินเดียดั้งเดิมในทุกโอกาสในระหว่างทริปเยือนอินเดีย และยิ่งสร้างความไม่พอใจยิ่งขึ้นเมื่ออดีตกลุ่มติดอาวุธชาวซิกข์ได้รับคำเชิญให้ร่วมรับประทานอาหารมื้อค่ำกับเขาในนครมุมไบ
ขณะที่ประธานาธิบดีมาครงดูสุขุมและเอาจริงเอาจังในชุดที่ผู้คนสามารถคาดเดาได้คือ ชุดสูทสีเข้มที่ดูดี.