VIVO เคาะแล้วราคา V15 + V15 Plus
เปิดตัว VIVO V15 และ VIVO V15 Plus พร้อมเคาะราคาโดนใจคนไทยที่ 10,999 บาท และ 14,999 บาท ลั่น พร้อมดึงเทคโนโลยีสุดล้ำเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ ในราคาที่จับต้องได้ เผยจ่อเปิดตัวซีรีส์ Y อีก 6-8 รุ่นย่อย สนนราคา 4,000 – 10,000 บาทต้นๆ มั่นใจ ครองแชมป์ยอดขายในไทย ตั้งเป้ายอดขายรวมทุกรุ่น 3 ล้านบาท ก่อนใช้ “ไทยโมเดล” รุกตลาดเอเชีย
ที่สุด! ค่าย VIVO ก็เคาะราคาสุดท้ายของเจ้า VIVO V15 และ VIVO V15 Plus สมาร์ทโฟนที่ว่ากันว่า “ดีที่สุด!” เมื่อเทียบคุณภาพกับราคาแบบ “ปอนด์ต่อปอนด์” กับทุกแบรนด์ที่มีในท้องตลาดเมืองไทยยามนี้
ในงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ท่ามกลางผู้บริหารระดับสูงทั้งจากฝั่งจีนและไทย รวมถึงแขกเหรื่อและกองทัพสื่อมวลชนมากมาย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา เป็นนายบุญชัย วัฒนนิมิตพร ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ บริษัท วีโว่ ประเทศไทย จำกัด ที่ออกมาโชว์ศักยภาพและจุดแข็งของ VIVO V15 และ VIVO V15 Plus ก็อย่างที่มีการข่าวหลุดก่อนหน้านี้ กับจุดขายใหม่ คือ POP UP หรือกล้องหน้าแบบเลื่อนอัตโนมัติที่มากับความละเอียดสูงสุด 32 ล้านพิกเซล พ่วงมากับ 3 กล้องหลัง ซึ่งในตัว VIVOV15 Plus มีกล้อง 1 ตัวที่ให้ความคมชัดสูงถึง 48 ล้านพิกเซก
ไม่เพียงแค่นั้น หน้าจอที่ให้ความกว้าง 6.39” ยังกว้างเต็มจอ เพราะไม่มีรอยยักใดๆ มารบกวนสายตา ทำให้มองเห็นภาพได้กว้างแบบไร้ขีดจำกัด รวมถึงจุดเด่นอื่นๆ อีกมามายที่บรรจุเอาไว้ในซีรีส์นี้ เพื่อสร้างความแตกต่างอย่างโดดเด่นเมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาด ทั้งนี้ สนนราคาที่เปิดกันไว้สำหรับ VIVO V15 อยู่ที่ 10,999 บาท และ VIVOV15 Plus อยู่ที่ 14,999 บาท โดยพวกเขาคาดว่ายอดขายของแบรนด์ VIVO ในไทย รวมทุกรุ่น ทุกซีรีส์ ในปี 2562 นี้ จะมีไม่ต่ำกว่า 3 ล้านเครื่อง
ด้านนายเถียน ไค่ หัวหน้าฝ่ายการตลาดฯ ที่เพิ่งย้ายมาจากอินเดียเพื่อเข้ารับตำแหน่งในไทย กล่าวว่า ในโลกแบรนด์ VIVO อยู่ในอันดับที่ 6 แต่ที่จีนอยู่ในอันดับที่ 3 และมีเป้าหมายจะขึ้นชั้นเป็นเบอร์ 1 ที่มียอดจำหน่ายสูงในไทยในไม่ช้านี้ โดยเตรียมจะเปิดตัวซีรีส์ Y ซึ่งมีราคาต่ำกว่าซีรีส์ V ที่ได้เปิดตัวในครั้งนี้ โดยในส่วนของ ซีรีส์ V มี 2 รุ่นคือ VIVO V15 และ VIVO V15 Plus แต่กับ ซีรีส์ Y น่าจะมีรุ่นย่อราว 6-8 รุ่น และราคาไต่ระดับตั้งแต่ 4,000 บาทปลายๆ ขึ้นไปจนถึง 10,000 บาทต้นๆ เพื่อตอบสนองทุกความต้องการและรายได้ของลูกค้าทุกกลุ่ม ทั้งนี้ บริษัทฯทุ่มเงินจำนวนมากเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้มากที่สุด ทั้งในเรื่องของเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย รูปลักษณ์และสีสันที่สวยงาม การใช้งานที่ง่าย สะดวก แต่ทนทาน พร้อมกับบริการหลักการขายที่ดีเยี่ยม
“เทคโนโลยีที่เราใส่มาใน VIVO V15 และ VIVO V15 Plus ถือว่าล้ำสมัยมาก และมาพร้อมกับความสวยงาม ทั้งเฉดสีแดงและน้ำเงินของตัวเครื่องที่สวยสะดุดตา ในราคาที่จับต้องได้ง่ายๆ โดยเฉพาะเทคโนโลยี POP UP ที่ให้ความละเอียดถึง 32 ล้านพิกเซล เมื่อถ่ายเซลฟี ถือว่ามากที่สุดของสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน”
อย่างไรก็ตาม นายเถียนยอมรับว่า แม้ตอนนี้ VIVO จะขึ้นชั้นสมาร์ทโฟนที่มีอนาคตสดใสในตลาดเมืองไทย เพราะให้มากกว่าคู่แข่ง แต่วิวัฒนาการของเทคโนโลยีก็พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ไม่แน่ว่าอาจมีคู่แข่งเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ในลักษณะใกล้เคียงกัน แต่ตั้งราคาขายที่ถูกกว่า กระนั้น VIVO ก็จะไม่ลงมาสู้ใน “สงครามการตัดราคาขาย” และไม่ให้ความสำคัญกับคู่แข่งทางธุรกิจมากนัก เนื่องจากจะพุ่งเป้าไปยังการตอบสนองความต้องการที่ดีที่สุดของลูกค้า
“ผมอยากฝากไปถึงลูกค้าชาวไทย ขอให้มั่นใจว่า VIVO จะเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ ด้วยเทคโนโลยีที่ดีและทันสมัยที่สุด เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าคนไทยให้มากที่สุด เพราะความพึงพอใจของลูกค้าคนไทย จะเป็นเครื่องชี้วัดความสำเร็จของ VIVO และทำให้เรามั่นใจถึงการทำตลาดในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยไทยเป็นฐานที่มั่นทางธุรกิจ ไม่เพียงแค่นั้น ตอนนี้ VIVO ก็ได้ขยายตลาดไปไกลทั้งในกลุ่มเอเชียใต้และเอเชียตะวันตก (ตะวันออกกลาง) รวมถึงอีกหลายประเทศในเอเชียและในโลกอีกด้วย” นายเถียน สรุป.