สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ยังไม่ลดราวาศอก
สหรัฐฯกล่าวหาจีนยังกีดกันการค้าอย่างต่อเนื่อง รวมถึงจำกัดศักยภาพการดำเนินธุรกิจในจีน ทั้งยังไม่พยายามเพียงพอปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา ส่งผลให้สงครามการค้าระหว่างมหาอำนาจอันดับ 1 และ 2 ของโลกยังไม่เห็นท่าทีลดราวาศอก
รายงานประจำปีของสหรัฐฯว่าด้วยเรื่องการค้า เผยแพร่เมื่อวันพุธ 16 ก.พ. กล่าวหารัฐบาลจีนยังเป็น “ภัยสำคัญ” ต่อนโยบายการค้าการลงทุนของบริษัททั่วโลก รวมถึงสหรัฐฯที่ต้องการเข้าไปทำธุรกิจในจีน ซึ่งขัดต่อข้อตกลงทางการค้าในฐานะชาติสมาชิกองค์กรการค้าโลก (WTO)
รายงานชิ้นนี้ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แต่งตั้ง “แคเธอรีน ไต้” ขึ้นนั่งเก้าอี้ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ เพื่อเจรจาการค้าให้สหรัฐฯ ท่ามกลางนโยบายตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน
ปัญหาการค้าที่สหรัฐฯไม่พอใจจีน จนนำไปสู่การรายงานถึงองค์การการค้าโลก อาทิ การสนับสนุนอุตสาหกรรมในประเทศเพื่อจำกัดหรือลดการแข่งขันจากต่างประเทศ ความพยายามลดศักยภาพการทำธุรกิจของต่างชาติในจีน รวมถึงขาดการปกป้องคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งล้วนขัดข้อตกลงสมาชิกองค์กรการค้าโลก
ฝ่ายจีนอ้างว่า กำลังสร้าง “ตลาดเศรษฐกิจสังคมนิยม” ซึ่งภาครัฐจะมีบทบาทมากขึ้นในแทบทุกเรื่อง รวมถึงด้านทรัพยากรการผลิตสินค้า
อย่างไรก็ตาม แม้สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน ในฐานะชาติมหาอำนาจยักษ์ใหญ่อันดับ 1 และ 2 ของโลก ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่สมัยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังไม่มีท่าทีทุเลาหรือลดราวาศอกต่อกันอย่างเป็นรูปธรรมมากนัก รวมถึงเรื่องอัตราภาษีศุกลากร แต่มูลค่าการค้าระหว่าง 2 ประเทศ ยังเติบโตต่อเนื่องเมื่อปีที่แล้ว 2021 อยู่ที่ 657.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงจากช่วงปี 2018 เพียง 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งๆที่โลกอยู่ท่ามกลางภัยระบาดโควิด-19
บทสรุปของสหรัฐฯ คือต้องการให้จีนเพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯอีกมูลค่ามากกว่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพราะจีนซื้อสินค้าจากสหรัฐฯน้อยลงเรื่อยๆตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมา.