ทรัมป์เยี่ยมเหยื่อเหตุกราดยิงที่รพ.ฟลอริดา
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ และสตรีหมายเลขหนึ่ง เมลาเนีย ทรัมป์ เดินทางลงพื้นที่ไปเยือนโรงพยาบาลฟลอริดาเมื่อวันที่ 16 ก.พ.เพื่อปลอบขวัญและให้กำลังใจกับเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุกราดยิงที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 17 รายในโรงเรียนมัธยม
ผู้นำสหรัฐฯ และภริยาไปเยือนโรงพยาบาล Broward Health north ที่ซึ่งทางทำเนียบขาวระบุว่า พวกเขาได้กล่าวขอบคุณคณะแพทย์สำหรับความช่วยเหลือในการช่วยชีวิตเหยื่อ โดยคาดการณ์ว่าทั้งคู่จะไปเยือนนายอำเภอที่เขตเพื่อให้กำลังใจและกล่าวยกย่องชื่นชมเจ้าหน้าที่ซึ่งมีความกล้าหาญที่จะช่วยชีวิตผู้คน
ทั้งนี้ กำหนดการเยือนโรงพยาบาลของประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ได้มีการประกาศออกมาล่วงหน้า
“ นี่เป็นโรงพยาบาลที่ยอดเยี่ยม และพวกเขาทำหน้าที่กันได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ” ทรัมป์กล่าว “ แพทย์ที่นี่น่าทึ่งมาก เราเห็นคนเจ็บจำนวนมากและมีการฟื้นตัวขึ้นได้อย่างน่าเหลือเชื่อ”
“ และการรับมือกับสถานการณ์ของทุกคน งานที่พวกเขาทำนั้นน่าเหลือเชื่อมาก และผมต้องขอยกย่องพวกคุณที่ทำหน้าที่ได้ดีจริงๆ”
เขาเสริมว่า “เป็นเรื่องน่าเศร้าที่เกิดเรื่องเช่นนี้ แต่ทุกคนทำหน้าที่ได้ดี ทั้งแพทย์ พยาบาล โรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ที่รับมือกับเหตุร้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทุกคนทำได้ดีอย่างดีจริงๆ”
“ ความรวดเร็วที่พวกเขานำตัวเหยื่อมาที่โรงพยาบาลภายใน 20 นาที ในอีกกรณีหนึ่ง 19 นาทีหลังจากถูกยิง เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อจริงๆ”
โดยผู้นำสหรัฐฯใช้เวลาช่วงวันหยุดประธานาธิบดีสุดสัปดาห์นี้ที่รีสอร์ท Mar-a-Lago ของเขา ซึ่งใช้เวลาเดินทางจากเมืองพาร์คแลนด์ที่เกิดเหตุสะเทือนขวัญประมาณ 45 นาที
นิโคลาส ครูซ อดีตนักเรียนมีปัญหาวัย 19 ปี รับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุกราดยิงจนทำให้มีผู้เสียชีวิต 17 รายที่โรงเรียนมัธยม Majory Stoneman Douglas เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ซึ่งเป็นเหตุกราดยิงในโรงเรียนที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เหตุร้ายที่โรงเรียน Sandy Hook เมื่อ 6 ปีก่อน
จากการตื่นตัวเรื่องเหตุกราดยิงครั้งนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ให้คำมั่นว่าจะแก้ปัญหาเรื่องสุขภาพจิตและความปลอดภัยในโรงเรียน แต่ไม่ได้เอ่ยถึงประเด็นการควบคุมการใช้อาวุธปืน
ขณะที่เหตุรุนแรงครั้งนี้ก่อให้เกิดคำถามเกี่ยวกับกฎหมายการครอบครองอาวุธปืน โดยประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งเป็นประธานาธิบดีคนแรกที่เข้าข้างการล็อบบี้ของสมาคมปืนไรเฟิลแห่งสหรัฐฯ ที่คัดค้านไม่ให้มีการแก้ไขการควบคุมเพิ่มเติม
ในการแถลงทางโทรทัศน์เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ทรัมป์ชี้ว่าสาเหตุของการกราดยิงที่ทำให้ชาวอเมริกันทั้งประเทศสะเทือนใจเป็นวิกฤตสุขภาพจิต ซึ่งเป็นข้อโต้แย้งที่ทำให้ฝ่ายต่อต้านการครอบครองอาวุธปืนไม่พอใจ
ตั้งแต่เดือน ม.ค.ปี 2556 เป็นต้นมา มีโรงเรียนทั่วประเทศอย่างน้อย 291 แห่งที่เกิดเหตุกราดยิงในโรงเรียน ซึ่งมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 1 ครั้งต่อสัปดาห์ อ้างอิงจากข้อมูลขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Everytown for Gun Safety
หลังเหตุกราดยิง ประธานาธิบดีทรัมป์ต้องเผชิญกับการขอร้องทั้งน้ำตาของญาติผู้เสียชีวิต รวมทั้ง Lori Alhadeff ซึ่งเพิ่งสูญเสียลูกสาว Alyssa วัย 14 ปีของเธอไป
“ เราต้องการให้คุณลงมือทำอะไรสักอย่าง ทำเลย ทำเลย ” Alhadeff ให้สัมภาษณ์กับสื่อ CNN โดยกล่าวว่าทรัมป์เองก็เป็นพ่อของลูกชายวัย 11 ปีเหมือนกัน
“ ช่วยปกป้อง Barron และช่วยปกป้องเด็กคนอื่นๆในพาร์คแลนด์ด้วย ทั้งในฟลอริดา และทุกคน ทุกหนทุกแห่ง”.