ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 26-27 ม.ค.2565
มติคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (บอร์ด ป.ป.ส.) เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข การระบุชื่อยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 พ.ศ. … (ยส.5) โดยถอนรายชื่อกัญชาและกัญชง ออกจากบัญชี ยส.5 จะมีผลบังคับใช้ใน 120 วัน หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เรื่องที่ 739 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ชงร่าง พ.ร.บ.กัญชง กัญชา เข้าเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรทันที เพื่อกำหนดแนวทางการปลูก การใช้ประโยชน์ของประชาชนต่อไป โดยจะมีแนวทางการปลูกที่ต้องขออนุญาต การสกัดที่ต้องขออนุญาต เป็นต้น
แต่แปลกที่ “อนุทิน” ชงกฎหมายนี้เข้าสภาในนามของพรรคภูมิใจไทย ไม่ใช่ของรัฐบาล หรือคณะรัฐมนตรี(ครม.) ทั้งที่นโยบายกัญชาเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แถลงต่อรัฐสภา
นั่นทำให้มองได้ว่ารัฐบาลนี้ตัวใครตัวมัน นโยบายของพรรคใครก็พรรคมัน ไม่เกี่ยวข้องกับภาพรวมของรัฐบาล
แต่การเสนอในนามของพรรคก็ดีไปอย่าง เพราะเมื่อทุกอย่างเรียบร้อย จะได้ไม่มีปัญหาภายหลังว่าใครกันแน่เป็นเจ้าของผลงาน เหมือนกันตอนนี้ที่พรรคพลังประชารัฐ และพรรคประชาธิปัตย์ แย่งกันใหญ่ว่าการปลดล็อกพืชกระท่อมนั้น เป็นผลงานของพรรคตนเอง
เรื่องที่ 740 เรียกว่างานเข้าครบทั้ง 2 กระทรวง ทั้งอุตสาหกรรม และพลังงานเมื่อเกิดเหตุน้ำมันดิบจากท่อใต้ทะเลบริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึก หรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล (SPM) ซึ่งเป็นของบริษัท สตาร์ปิโตรเลี่ยม รีไฟน์นิ่ง จำกัด(มหาชน) ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมืองระยอง รั่วไหลลงทะเลจำนวน 400,000 ลิตร โดยผู้ที่รับบทหนักของกระทรวงอุตสาหกรรมคงหนีไม่พ้น “อาจารย์หน่อง” วีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ที่เร่งลงพื้นที่ตากแดดลงเรือตรวจสอบสาเหตุ พร้อมสั่งเตรียมรับมือกรณีฉุกเฉิน หรือลมเปลี่ยนทิศ และเตรียมดึงผู้เชี่ยวชาญมาวางแผนดูแลป้องกันเกิดเหตุซ้ำในอนาคต ช่วงนี้คงเป็นช่วงชีพจรลงเท้าของอาจารย์หน่อง วิ่งรอกตั้งแต่สระแก้ว กลับมาทำงานที่กรุงเทพฯ วันนี้จรลีไประยองอีก สมกับฉายาคนเก่งคนขยันที่ บก.ชวนคุยเพิ่งชื่นชมไปจริงๆขอรับเจ้านาย
เรื่องที่ 741 ขณะที่ทางฝั่งของกระทรวงพลังงานซึ่งแม้ว่า “พี่ต๊ะ” สมภพ พัฒนอริยางกูล โฆษกกระทรวงพลังงาน จะไม่ได้ลงพื้นที่จังหวัดระยอง แต่ก็ทำงานหนักไม่แพ้กัน สั่งการให้กรมธุรกิจพลังงาน ติดตามสถานการณ์และตรวจสอบปริมาณน้ำมันสำรอง ห่วงจะกระทบต่อการจัดหาน้ำมันเพื่อรองรับการใช้งานในประเทศ รวดเร็วฉับไวตามพันธะกิจขององค์กร พวกเราคงหายห่วงได้ เพราะมีผู้ปฏิบัติงานที่ขยันขันแข็ง และถือว่ามีการวางแผนเตรียมความพร้อมที่ดี เมื่อมีเหตุฉุกเฉินก็ไม่กระทบต่อประชาชน แบบคงต้องขอปรบมือรัวๆดังๆยาวๆให้ทั้ง 2 กระทรวงเลยขอรับกระผม
โดย นพวัชร์