แฉชาติร่ำรวยทุ่มแย่งแรงงานพยาบาล
สถานการณ์โควิด-19 ระบาดทั่วโลก ผลักดันกลุ่มชาติร่ำรวยทุ่มแย่งแรงงานพยาบาลไปจากกลุ่มชาติยากจน ยิ่งทำให้บุคลากรการแพทย์ในกลุ่มชาติยากจนขาดแคลนมากขึ้น
สภาการพยาบาลนานาชาติ – International Council of Nurses (ICN) เปิดเผยรายงานระบุสถานการณ์โควิด-19 ยังระบาดทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการพบเจอไวรัสสายพันธุ์ใหม่ “โอมิครอน” ยิ่งผลักดันกลุ่มชาติร่ำรวยเพิ่มความต้องการว่าจ้างแรงงานพยาบาลจากต่างประเทศเข้าไปทำงานมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะแรงงานพยาบาลจากกลุ่มชาติรายได้ปานกลางลงไปจนถึงกลุ่มชาติรายได้น้อย ทำให้พยาบาลในกลุ่มชาติเหล่านั้นยิ่งเผชิญสถานการณ์ขาดแคลนมากขึ้น
สภาการพยาบาลนานาชาติ สำนักงานใหญ่อยู่ที่นครเจนิวา สวิตเซอร์แลนด์ มีสมาชิกประมาณ 27 ล้านคน อยู่ในองค์กร 130 ประเทศ เปิดเผยอีกว่า สถานการณ์ขาดแคลนแรงงานพยาบาลทั่วโลกเฉลี่ยอยู่ที่ 6 ล้านคน สถานการณ์ขาดแคลนแรงงานพยาบาลมากประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ คือกลุ่มชาติรายได้ต่ำและรายได้ปานกลาง โดยเฉพาะกลุ่มชาติแถบทวีปแอฟริกา รวมถึงไนจีเรียและกลุ่มชาติแถบทะเลแคริบเบี้ยน ซึ่งแรงงานพยาบาลจากกลุ่มชาติเหล่านั้น ถูกแรงจูงใจด้านรายได้ที่สูงกว่าและสวัสดิการทำงานที่ดีกว่า ให้ไปทำงานในกลุ่มชาติร่ำรวย
แนวทางแก้ปัญหานี้ระยะยาว คือ รัฐบาลทั่วโลกต้องเพิ่มการลงทุนสร้างบุคลากรพยาบาลให้มากขึ้นตลอดช่วง 10 ปีข้างหน้า ส่วนข้อมูลกลุ่มชาติร่ำรวยที่ว่าจ้างแรงงานพยาบาลด้วยค่าตัวสูงที่สุดของโลก 10 อันดับ คือ ลักเซมเบิร์ก ค่าแรงเฉลี่ยปีละกว่า 91,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ตามด้วยเดนมาร์ก – แคนาดา – เวอร์จิน ไอแลนด์ – ออสเตรเลีย – สวิตเซอร์แลนด์ – นอร์เวย์ – ไอร์แลนด์ – อิตาลี และนครรัฐดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์.