“อาคม” รับรายได้ไทยหด 2 ลล. จึงกู้หนัก! จ่อ 4 ช่องหาเงินเข้ารัฐ
อาคม’ ยอมรับพิษโควิดฯทำรายได้ไทยหด 2 ล้านล้าน จำต้องออก กม.กู้เงิน 1.5 ล้านล้านพยุงเศรษฐกิจ เผย! 4 ช่องทางหารายได้อุดรูรั่ว
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวตอนหนึ่งระหว่างปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “นโยบายเศรษฐกิจจาก Pandemic สู่ Endemic” ในงานครบรอบ 60 ปีของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)เมื่อช่วงสายวันที่ 18 ต.ค.2564 โดยยอมรับว่า ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากปัญหาโควิด-19 ทำรายได้จากธุรกิจบริการโดยเฉพาะด้านท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่หยุดชะงักไป 12% ของจีดีพี รวมถึงการจัดเก็บรายได้ภาษีหายไปราว 2 ล้านล้านบาท ทำให้รัฐบาลจำต้องออก พ.ร.ก.กู้เงินฯรวม 2 ฉบับ 1.5 ล้านล้านบาท เพื่อพยุงเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ได้ทำให้หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น จึงต้องขยับกรอบเพดานหนี้ เปิดช่องในการกู้เงินป้องกันและระงับการแพร่ระบาดและฟื้นฟูเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ในทุกวิกฤต รัฐบาลจะต้องสร้างภูมิคุ้มกัน แยกออกเป็น 3 ระดับ คือ ภูระดับมหภาค ระดับหน่วยธุรกิจ และระดับประชาชน สอดรับนโยบายการเงินการคลังที่เน้นเรื่องการออมเพื่อให้ทุกคนมีความมั่นใจว่าครอบครัวมีความมั่นคงหากมีวิกฤตเกิดขึ้น
ทั้งนี้ ภูมิคุ้มกันทั้ง 3 ระดับ จะเชื่อมโยงมาถึงการใช้จ่ายของรัฐบาล ทำให้ต้องคิดว่าต่อไปว่าแล้วจะหารายได้จะมาจากส่วนใด เท่าที่เห็นมี 4 ด้าน คือ 1.การปฏิรูปโครงสร้างการจัดเก็บรายได้ หาวิธีการเพื่อให้ระดับรายได้มีความมั่นคง 2.การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ต้องมีการนำเทคโนโลยี และการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 3.รองรับการปรับโครงสร้างประชากร เนื่องจากกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ฉะนั้น การลงทุนทางด้านการแพทย์ สาธารณะสุข และ 4.การสร้างการเติบโตของเครื่องยนต์อันใหม่ อาทิ การพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ซึ่งจะเป็นเครื่องยนต์ที่สำคัญทำให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนเข้าไปได้
นายอาคม ย้ำว่า การที่จะทำให้เราอยู่รอดปลอดภัยจาก Pandemic สู่ Endemic คือการสร้างภูมิคุ้มกันในทุกระดับ เพื่อให้มีความมั่นใจว่า จะมีความมั่นคงเพียงพอรองรับวิกฤตการณ์ ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตโควิดฯ วิกฤตการเงิน หรือวิกฤตภัยธรรมชาติใดๆ ก็ตาม.