กฟผ.ซื้อก๊าซธรรมชาติ 53,000 ล้านบาท
ปตท. – กฟผ. ลงนามสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติสำหรับโรงไฟฟ้าน้ำพอง สร้างความมั่นคงทางพลังงาน เสริมรากฐานการพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ
เมื่อเร็วๆนี้ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) และ นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมลงนามสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติสำหรับโรงไฟฟ้าน้ำพองฉบับใหม่ ระยะเวลา 10 ปี (2564 – 2574) มูลค่ากว่า 53,000 ล้านบาท เสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงาน เพิ่มขีดความสามารถการพัฒนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ
นายบุญญนิตย์ กล่าวว่า ซึ่งสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติสำหรับโรงไฟฟ้าน้ำพอง ระหว่าง ปตท. และ กฟผ. ฉบับใหม่นี้ จะสอดรับกับสัญญาเดิมที่กำลังจะสิ้นสุดลงในวันที่ 30 กันยายน 2564 เพื่อรองรับการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าน้ำพอง ชุดที่ 1 และ 2 ในปัจจุบัน และโครงการโรงไฟฟ้าน้ำพองทดแทน จ.ขอนแก่น กำลังผลิต 650 เมกะวัตต์ ที่มีกำหนดเริ่มจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ในปี 2568 ตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561 – 2580 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 (PDP2018 Revision 1) เพื่อรักษาความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และใช้ทรัพยากรก๊าซธรรมชาติของประเทศจากแหล่งสินภูฮ่อมให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ด้านนายอรรถพล บอก ว่า โรงไฟฟ้าน้ำพอง เป็นโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่สุดและถือเป็นแหล่งผลิตพลังงานไฟฟ้าหลักของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สอดคล้องกับพันธกิจของ ปตท. และ กฟผ. ในการสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้แก่ประเทศ
นอกจากนี้ โรงไฟฟ้าน้ำพองจะเป็นรากฐานสำคัญที่จะรองรับการเพิ่มขีดความสามารถในการพัฒนาจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ อาทิ โครงการพัฒนาท่าเรือบก (Dry Port) โครงการสมาร์ทซิตี้ จ.ขอนแก่น โครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงกับพื้นที่เศรษฐกิจหลักภาคกลางและพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC)