สินค้าไทย ตกค้างเพียบ หลังอินเดียห้ามนำเข้า
สมอ. เตรียมเจรจา อินโดนีเซีย หลังลดนำเข้าเครื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า พร้อม เร่งหาแนวทางแก้ปัญหากรณี อินเดีย ประกาศห้ามนำเข้าเครื่องปรับอากาศที่บรรจุสารทำความเย็น ส่งผลให้สินค้าตกค้างเป็นจำนวนมาก
นายจุลพงษ์ ทวีศรี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการว่าด้วยอุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า ว่า ประเทศอินโดนีเซีย ได้กำหนดมาตรการลดการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายให้เหลือเพียงร้อยละ 35 ภายในปี 2565 ซึ่งได้เริ่มนำมาตรการลดการนำเข้ามาใช้ โดยเพิ่มขั้นตอนและกำหนดโควตาการนำเข้าสินค้า
รวมถึงให้หน่วยงานภายในประเทศที่ให้บริการออกใบรับรองสินค้าตามมาตรฐาน SNI (Indonesian National Standard) ระงับการตรวจประเมินโรงงานผลิตสินค้าในต่างประเทศ ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ของไทย โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศ ตนจึงได้กำชับให้ สมอ. ติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการไทย และบรรเทาผลกระทบจากมาตรการดังกล่าว
ด้าน นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) บอกว่า กรณีดังกล่าวถือว่าอินโดนีเซียมิได้ปฏิบัติตามกฎกติกาสากลที่ WTO กำหนดไว้ โดยการกระทำดังกล่าวถือเป็นการกีดกันทางการค้าที่มิใช่ภาษี (Non-Tariff Barriers: NTBs) ทำให้ผู้ประกอบการไทยเสียโอกาสในการส่งออกสินค้า จึงขอให้อินโดนีเซียพิจารณามาตรการเพื่อลดอุปสรรคทางการค้าให้แก่ผู้ประกอบการของไทย ตามพันธกรณีความตกลงที่ประเทศสมาชิกต้องถือปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน
และหากอินโดนีเซียยังไม่ยกเลิกมาตรการดังกล่าว สมอ. จะหยิบยกเรื่องดังกล่าวเป็นประเด็นหารือในเวทีการประชุม Committee on TBT ครั้งที่ 85 ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-12 พฤศจิกายน 2564 ที่นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส
และนอกจากมาตรการของประเทศอินโดนีเซียแล้ว ยังมีมาตรการของประเทศฟิลิปปินส์และอินเดีย ที่ต้องจับตามองซึ่งกำลังจะออกมาส่งผลกระทบต่อผู้ส่งออกไทย เช่น ฟิลิปปินส์กำหนดให้ต้องปิดฉลากประหยัดพลังงานเพื่อแสดงประสิทธิภาพพลังงานที่ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์ และหลอดไฟ ตามกฎระเบียบที่ฟิลิปปินส์กำหนด ซึ่งได้เน้นย้ำให้ผู้ประกอบการศึกษารายละเอียดก่อนที่จะดำเนินการส่งออกสินค้า เพื่อให้สามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบมาตรการของประเทศนั้นๆ ได้อย่างถูกต้อง
สำหรับอินเดียได้ประกาศห้ามนำเข้าเครื่องปรับอากาศที่บรรจุสารทำความเย็นแล้ว ส่งผลให้ผู้ประกอบการที่ผลิตสินค้าเรียบร้อยแล้วไม่สามารถส่งออกได้ ทำให้มีปริมาณสินค้าตกค้างอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งในเรื่องนี้ สมอ. และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยจะได้หารือกับอินเดีย แล้วหาทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวในระยะยาวต่อไป