สรุปข่าวประจำ วันที่ 12 กันยายน 2564
หุ้นไทยสัปดาห์หน้า : บล.กสิกรไทย คาดดัชนีหุ้นไทยช่วง 13-17 ก.ย.มีแนวรับที่ 1,620 และ 1,610 จุด แนวต้านที่ 1,645 และ 1,655 จุด โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามคือสถานการณ์โควิดทั้งในและต่างประเทศ ประเด็นการเมืองภายในประเทศ ตลอดจนทิศทางเงินลงทุนจากต่างประเทศ
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค ยอดค้าปลีก ผลผลิตอุตสาหกรรม มูลค่านำเข้าและส่งออกเดือนส.ค. ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนส.ค. ของญี่ปุ่น ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนส.ค. และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค. ของยูโรโซนตลอดจนข้อมูลเศรษฐกิจเดือนส.ค. ของจีน อาทิ ยอดค้าปลีก การลงทุนในสินทรัพย์ถาวร
ค่าบาทสัปดาห์หน้า : แบงก์กสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทช่วง สัปดาห์หน้า (13-17 ก.ย.) มีกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 32.50-33.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน โดยมีปัจจัยที่ต้องติดตาม เช่นเดียวกับข้อมูลหุ้นสัปดาห์หน้าด้านบน
ทองโลกปรับลดลง : ราคาขายทองคำ Spot ดอลลาร์สหรัฐ ที่ปิดตลาดช่วงเช้า 12 ก.ย.ของไทย ปรับตัวลดลง -6.97 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (-0.39%%) ปิดที่ 1,787.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ ราคาทองไทยในไทย สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทองคำเมื่อ 11 ก.ย. เพียงครั้งเดียว ปรับลดลงจากราคาปิดวันก่อน -50 บาท กำหนดราคาซื้อทองคำแท่ง บาทละ 27,700 บาท ขาย 27,800 บาท ขณะที่ราคาซื้อทองคำรูปพรรณ 27,197.04 บาท และขาย 28,300 บาท
น้ำมันดิบขึ้นต่อ : ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้ายังอยู่ในโหมดทะยานตัวต่อเนื่อง โดยสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์ก ส่งมอบเดือน ต.ค.เช้านี้ (12 ก.ย.) ปิดตลาด +1.55 ดอลลาร์/บาร์เรล (+2.27%) ปิดที่ 69.69 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาซื้อข่ายล่วงหน้าของน้ำมันเบรนท์ ส่งมอบเดือน พ.ย. ปิดตลาด +1.43 ดอลลาร์/บาร์เรล (+2.00%) ก็ปิดที่ 72.88 ดอลลาร์/บาร์เรล ทั้งนี้ แนวโน้มที่ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน ขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลก เพิ่มขึ้นหลังจากผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มโควิดฯ จึงมีแนวโน้มที่ราคาขายปลีกน้ำมันสำเร็จในรูปในไทยจะปรับขึ้นตามมาในระยะใกล้.
……………………
แผนฉีดวัคซีน : อธิบดีกรมควบคุมโรคแจงที่ศบค.เห็นชอบแผนฉีดวัคซีนโควิดฯเดือนต.ค. ตั้งเป้าหมายฉีดให้กับประชาชนอย่างน้อย 50% ของทุกจังหวัด นอกจากนี้ ยังมีแผนจะฉีดวัคซีนฯเข็ม 2 โดยจะฉีดให้ครอบคลุมมากที่สุด รวมถึงเด็กอายุ 12 ปี ที่จะเร่งฉีดวัคซีนไฟเซอร์ เพื่อเตรียมความพร้อมรับการเปิดภาคเรียน โดยกระทรวงสาธารณสุขจะร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ ในการดำเนินการ ส่วนคนที่ฉีดซิโนแวคไปแล้ว 2 เข็ม มีการเห็นชอบฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในเดือนต.ค. หากมีความพร้อมอาจจะเริ่มได้ก่อน.
ป่วยแล้วหายภูมิสูง : ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยาจาก ไบโอเทค โพสต์เฟซบุ๊กระบุงานวิจัยของ Harvard ตอนหนึ่งว่า งานวิจัยฯมีจุดโดดเด่นที่สุด คือ กลุ่มที่หายป่วยแล้วไปรับวัคซีนเพิ่มเข้ามา พบว่าภูมิโดดสูงกว่าการติดเชื้อจากธรรมชาติแบบไม่ได้วัคซีนเกือบ 100 เท่า และดูเหมือนจะลดลงช้ากว่ากรณีของคนที่ไม่เคยป่วยมาก่อน และ ระดับที่ลดลงเหมือนจะไม่เป็นปัญหา เพราะ ยังสามารถยับยั้งเดลต้าได้อย่างสบายๆ แม้จะผ่านไปเกือบ 200 วันหลังเข็มสองแล้ว
ภูเก็ตคุมเข้มโควิด : ผู้ว่าฯภูเก็ต ระบุเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดและควบคุมสถานการณ์การระบาดให้อยู่ในวงจำกัด โดยความเห็นชอบของ คกก.โรคติดต่อจังหวัดฯ จึงลงนามคำสั่งจังหวัดภูเก็ตปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรคติดเชื้อฯ 3 เรื่อง คือ 1.ให้ปิดห้างซุปเปอร์ชีป 7 วัน 2.ตรวจหาเชื้อฯเชิงรุกแรงงานไทยและต่างด้าวผ่าน ATK และ 3.แยกกักแรงงานต่างด้าวที่ตรวจพบเชื้อฯในแคมป์ที่พัก ทั้งจะเร่งฉีดวัคซีนฯเข็ม 3 ให้เร็วที่สุด
ลุยปากน้ำ : นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการลงพื้นที่ตรวจราชการ ที่ จ.สมุทรปราการ 12 ก.ย.นี้ โดย เวลา 13.00 น. จะเดินทางไปตรวจความพร้อมแผนป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่เจ้าพระยาตอนล่าง ที่สะพานน้ำยกระดับ สถานีสูบน้ำสุวรรณภูมิ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชลหารพิจิตร จากนั้น จะเดินทางไปตรวจเยี่ยมสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ คณะแพทยศาสตร์รพ.รามาธิบดี อ.บางพลี โดยเยี่ยมชมโถงเฉลิมพระเกียรติ และตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่บริเวณจุดบริการฉีดวัคชีนโควิด 19
ส.ส.ใต้ขอเก้าอี้รมต. : นายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.เมืองคอนฯ อ้างคำพูด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หน.พปชร ว่า จะไม่มีอะไร ในพรรคไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทุกอย่างยังเหมือนเดิม โดยวันที่ 15 นี้ จะมีการประชุมพรรคที่รัฐสภา หน.พรรคอาจจะไปประชุมด้วย ยืนยันจะไม่ปรับทั้งพรรคและครม. ขอทุกคนอย่างหวั่นไหว ทั้งนี้ กลุ่ม ส.ส.ภาคใต้ที่มีมากถึง 14 คน เรียกร้องเก้าอี้ รมต. โดยระบุพวกคนมีความชอบธรรมที่จะได้เก้าอี้เพิ่ม พร้อมแบ่งเก้าอี้กับกลุ่มสามมิตร
พายุโกนเซิน : กรมอุตุฯออกประกาศเรื่อง พายุโซนร้อนกำลังแรง “โกนเซิน” ระบุยังอยู่ในบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเมืองดานัง 12 ก.ย. จากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน และหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงตามลำดับ ในขณะที่มีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลักษณะเช่นนี้จึงส่งผลทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ ล่าสุด “โกนเซิน” อ่อนกำลังแล้ว เชื่อกระทบไทยบางพื้นที่ไม่หนักมากนัก