EXIM BANK ชี้! โควิดฯฉุดเศรษฐกิจโลก สวนทางค้าออนไลน์โตแรง
EXIM BANK ชี้! โควิด-19 ทำให้ทั้งจีดีพีและการค้าโลกหดตัว สวนทางการค้าออนไลน์โตก้าวกระโดด คาดตลาดอีคอมเมิร์ซทั่วโลกปีนี้ โตพรวดถึง 4.9 ล.ล.เหรียญสหรัฐฯ แนะผู้ส่งออก SMEs ต้องพร้อมด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ความรู้ เงินทุน และเครื่องมือบริหารความเสี่ยง
ดร.ดามพ์ สุคนธทรัพย์ ปธ.กก.บห. ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) กล่าวตอนหนึ่งระหว่างเปิดงาน สัมมนาออนไลน์ “Digital พลิกโฉมการค้าโลก” จัดโดย EXIM BANK ร่วมกับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME D Bank) ว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภค ตลอดจนสภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจ เปลี่ยนแปลงไปจากวิถีปกติ และเชื่อมโยงการใช้ชีวิตกับเทคโนโลยีดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้การค้าออนไลน์ทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด
ผู้ประกอบการไทยที่ปรับตัวได้ทัน จึงเข้าถึงโอกาสนี้ได้เร็ว และมีส่วนทำให้เศรษฐกิจไทยก้าวเข้าสู่การเป็นเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างชัดเจนมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ ภาครัฐและภาคเอกชนจึงต้องเร่งบูรณาการความร่วมมือกันเพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs สามารถใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้าถึงและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ค้าขายอย่างไร้พรมแดนบนแพลตฟอร์มออนไลน์ได้อย่างคล่องตัวและมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นอย่างมั่นใจ ด้วยความพร้อมด้านข้อมูลข่าวสาร เงินทุน และเครื่องมือบริหารความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศ
ด้าน ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กก.ผจก EXIM BANK ระบุว่า ในปี 2563 เศรษฐกิจโลกและการค้าโลกต้องเผชิญวิกฤตโควิด-19 จนทำให้ GDP โลกหดตัว 3.2% ขณะที่การค้าสินค้าและบริการของโลกหดตัว 9% และ 15% ตามลำดับ แต่การค้าออนไลน์ (E-Commerce) ของโลกกลับขยายตัวกว่า 20% จาก 3.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2562 เป็น 4.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2563 และคาดว่าจะมีมูลค่า 4.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2564 และเพิ่มขึ้นเป็น 7.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2568 นั่นหมายถึง เทคโนโลยีดิจิทัลได้มีส่วนช่วยพยุงหรือรองรับเศรษฐกิจในช่วงขาลง
ขณะเดียวกัน ในช่วงขาขึ้นก็เป็นเสมือนสปริงบอร์ด เร่งให้ธุรกิจเติบโตได้แบบก้าวกระโดด โดยปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคได้เปลี่ยนแปลงไป มากกว่า 50% ของผู้บริโภคมีแนวโน้มใช้จ่ายออนไลน์บ่อยกว่าที่ผ่านมา และมากกว่า 40% ของผู้บริโภคมีแนวโน้มรับชมสื่อบันเทิงออนไลน์บ่อยกว่าเดิม เพราะคุ้นเคยกับเทคโนโลยีดิจิทัลแล้ว สำหรับสินค้าและบริการดิจิทัลที่มีแนวโน้มขยายตัวดีในปัจจุบัน อาทิ อุตสาหกรรมเกม สื่อบันเทิงบนแพลตฟอร์มออนไลน์ อาทิ Netflix สินค้าเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ เป็นต้น
กก.ผจก. EXIM BANK กล่าวอีกว่า ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs ต้องเตรียมพร้อมที่จะเข้าถึงโอกาสทางธุรกิจในโลกการค้ายุคใหม่ โดยขจัด “ความกลัว” หรือ “ความไม่กล้าเสี่ยง” ออกไป แต่ต้องมั่นใจที่จะใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและสถาบันการเงิน อาทิ EXIM BANK ให้เป็นประโยชน์ เพื่อเสริมธุรกิจให้แข็งแรง ทั้งด้านเทคโนโลยี ความรู้ เงินทุน และเครื่องมือบริหารความเสี่ยง ที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถก้าวข้ามอุปสรรคต่าง ๆ ไปสู่โอกาสใหม่ ๆ ได้อย่างประสบความสำเร็จ ทั้งนี้ EXIM BANK มีบริการสนับสนุนทั้งด้านเงินทุน ประกันการส่งออก และระบบดิจิทัล อาทิ ระบบบริหารจัดการความรู้และประเมินความพร้อมด้านการส่งออก (Thailand Export Readiness Assessment and Knowledge Management : TERAK) และ Thailand E-commerce Pavilion
“ธุรกิจ SMEs มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจไทยสูงมาก โดยมีสัดส่วนต่อ GDP รวมทั้งประเทศกว่า 30% ทำให้เกิดการจ้างงานจำนวนมากกว่า 12 ล้านคน ดังนั้น การสนับสนุนให้ SMEs สามารถขับเคลื่อนธุรกิจต่อไปได้แม้ในภาวะวิกฤต รวมถึงขยายธุรกิจให้เติบโตได้ท่ามกลางโอกาสที่เกิดขึ้นในโลกวิถีใหม่ (New Normal) จึงเป็นประเด็นสำคัญที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการฟื้นเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันและเป็นรากฐานการพัฒนาธุรกิจ SMEs อย่างยั่งยืนในระยะยาว โดยตอบสนองต่อเทรนด์ความนิยมของผู้บริโภคยุคใหม่และเมกะเทรนด์ที่ส่งผลกระทบต่อโลกเป็นวงกว้างในอนาคตข้างหน้า” ดร.รักษ์ ระบุ