ข่าวเด่น ข่าวดัง ประจำวันที่ 6-7 ก.ย.2564
“เข้าสู่โมทการเมืองเข้มข้นในเดือน ก.ย. 2564 หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจใจจบลงในวันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา ถัดไปวันศุกร์ที่ 10 ก.ย.นี้ จะมีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา อันหมายถึง ส.ส.และ ส.ว. เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ บัตรเลือกตั้ง 2 ใบในวาระ 3 แม้วาระ 1 และ วาระ 2 จะผ่านไปได้แบบฉลุย แต่วาระ 3 ก็ยังต้องลุ้นว่า จะผ่านไปได้หรือไม่ เพราะปัจจัยทางการเมืองนั้นเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา”
เรื่องที่ 189 เดิมรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คาดหวังว่า จะเดินตามเกมของ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” รมช.เกษตรฯ และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ที่เชื่อว่า บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ จะช่วยให้พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้ ส.ส.อย่างเป็นกอบเป็นกำ จึงยอมให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเปลี่ยนจากบัตรเลือกตั้ง 1 ใบในรัฐธรรมนูญ 2560 เป็นบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ คล้ายรัฐธรรมนูญปี 2540
แต่ ณ วันนี้ บอกก่อนเลยว่า การเมืองกำลังเปลี่ยนไป เหมือนว่า “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม หมดความไว้วางใจในตัว ร.อ.ธรรมนัส แล้ว เพราะเจอกับศึกหนักในเกมแซะเก้าอี้ระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบจังๆ ชนิดตั้งตัวไม่ทัน ด้วยเหตุนี้แล้ว การจะให้ พล.อ.ประยุทธ์ ไว้ใจสูตรบัตรเลือกตั้ง 2 ใบที่ ร.อ.ธรรมนัส เตรียมการไว้คงไม่ใช่เรื่องง่าย
แต่ครั้น จะกลับลำล้มการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ก็เป็นเรื่องที่ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องคิดหนัก เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นนโยบายเร่งด้วยของรัฐบาล และเป็นความต้องการของพรรคร่วมรัฐบาลด้วย หากไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ อาจมีผลสะเทือนขั้นรุนแรงก็เป็นได้
มาอ่านข่าวดีๆ กันบ้าง เรื่องที่ 190 ของแสดงความยินดีกับ ธ.ก.ส. ยุคของ “ธนารัตน์ งามวลัยรัตน์” ที่ล่าสุด พาสาขาทั่วไทยกว่า 160 สาขา คว้ารางวัล GECC หรือ มาตรฐานการให้บริการของศูนย์ราชการสะดวก ประจำปี2564 แยกเป็น 22 สาขาในระดับก้าวหน้า และระดับพื้นฐานอีก 142 สาขา พิสูจน์ว่า ลูกค้าที่ผ่านเข้ามาใช้บริการของ ธ.ก.ส. ไม่ว่าจะเป็นสาขาใด ก็จะได้ทั้งความสะดวก สบาย ความทันสมัย และบริการครบวงจร จากวันนี้ไป หากเกษตรกรไทย จะยกระดับตัวเองเป็น Smart Farmer ที่มีคุณภาพชีวิตสูง ถือสินค้าคุณภาพในมือ มีกระบวนการผลิตที่ล้ำสมัย และมีช่องทางการขายที่ก้าวล้ำ มีตลาดไม่เฉพาะแค่ในเมืองไทยหรือในอาเซียน แต่หว่านขายผ่านโลกออนไลน์ไปได้ทั่วโลก ส่วนหนึ่งของโอกาสดีๆ เช่นนี้ น่าจะมาจาก ธ.ก.ส.นั่นแหละ
แต่ขอกระแซะนิดเถอะ ไม่ทราบว่า สาขาน้ำโสม ที่ก่อเหตุด่าลูกค้า หรือพูดเสียงดัง ได้รับรางวัลร่วมกับเพื่อนๆ หรือไม่ ขอคำตอบด้วยครับ เพราะเรื่องนี้ ยังเป็นภาพติดลบ ไม่ต่างกับลูกค้าเกษตรกรยากจน เดินเข้าธนาคารยังต้องถอดเกือกไว้ที่หน้าแบงก์ วันนี้ อยากทราบว่า มีอยู่อีกหรือเปล่าครับ “ก.จ.”
เรื่องที่ 191 เห็นเงียบๆ ในช่วงโควิดฯ ระบาด! แต่มองข้ามไม่ได้เลย สำหรับ สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (สพพ.) หรือ NEDA อ่านว่า “เนด้า” ถึงจะถูกต้อง ภายใต้การนำของ “พีรเมศร์ วุฒิธรเนติรักษ์” หรือ “โป้ง” ศิษย์เก่ากระทรวงการ คลัง มีคุณแม่ชื่อ “มณีมัย วุฒิธรเนติรักษ์” จำกันได้เปล่า สายโหดของแท้เรียกว่า ครบเครื่องทั้งเก่งและเข้มข้น ใครไม่แน่จริงต้องยืนรออยู่หน้าห้องพวกโม้เก่ง และสอพอ เกิดยากครับ
ล่าสุด “เนด้า” เพิ่งจับมือกับ EXIM BANK ซึ่งได้คนหนุ่มรุ่นใหม่ อย่าง “รักษ์ วรกิจโภคาทร” มาถือเข็มทิศนำทาง ทั้ง 2 องค์กรร่วมกัน จัดอบรมสัมมนาออนไลน์ในแบบ “ติวเข้ม” ให้กับผู้ประกอบการไทยในเซ็กเม้นท์ “อุตฯก่อสร้างและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง” เนื่องจากอนาคตโครงการที่เกี่ยวข้องกับ “อินฟาสตรั๊กเจอร์” ในประเทศเพื่อนบ้านของไทย โดยเฉพาะกลุ่ม CLMV (กัมพูชา ลาว เมียน และเวียดนาม) ช่างสดใส ตั้งเป้าหมาย ส่งเสริมธุรกิจไทย บุกตะลุยเข้าไปลงทุน และ/หรือ รับงานจากโครงการลงทุนขนาดใหญ่ ถึงได้บอก มองข้ามเนด้าไม่ได้เลย
ไหนๆ ก็พาดพิง EXIM BANK ที่มีเป้าหมายจะเป็น “แบงก์เพื่อการพัฒนาแห่งเมืองไทย” แล้ว ขออีกสักประเด็น เรื่องที่ 192 ล่าสุด “รักษ์ วรกิจโภคาทร” ก็เพิ่งจะเป็นตัวแทนองค์กรและของเมืองไทย เข้าร่วมประชุมออนไลน์ร่วมกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าในเอเชีย (Asian EXIM Banks Forum) ที่มีรวมกัน 10 ประเภทศ เพื่อหารือแลกเปลี่ยนความคิด เห็นหัวข้อ “RCEP : มิติใหม่เพื่อการบูรณาการในภูมิภาค” นำสู่แนวทางความร่วมมือในภูมิภาค ภายใต้ความตกลง RCEP ตั้งเป้าสู่การพัฒนาภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกอย่างยั่งยืน งานนี้ ได้ China EXIM เป็นเจ้าภาพ ก็ได้แต่หวังว่า ยักษ์ใหญ่จะไม่ไล่บีบ ไล่กินยักษ์เล็ก! เพราะทุกยักษ์ ต่างก็มีสถานะเป็น “รัฐเอกราช” เหมือนๆ กัน ยิ่งหากชาติใหญ่ เปิดโอกาสให้ชาติเล็กๆ ได้ส่งสินค้าไปขายในบ้านตัวเองมากเท่าใด ยิ่งเป็นเรื่องดีครับ
เรื่องที่ 193 อนาคตกำลังรออยู่…หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย พื้นที่ลงทุนของภาคอุตสาหกรรมที่น่าจะบูมสุด น่าจะไม่มีที่ไหนน่าลงทุนมากที่สุดเท่า พื้นที่ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี เพราะขนาด บริษัทเคอรี่ โลจิสติคส์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ ที่เราๆ ท่านๆ รู้จักในนามว่า “เคอรี่” ยังเตรียมขยายพื้นที่คลังสินค้า เพื่อรองรับการเติบโตของกลุ่มลูกค้าในเขตพื้นที่อีอีซี จากปัจจุบันบริษัทมีคลังสินค้าในเขตพื้นที่อีอีซี ที่ให้บริการทั้งสิ้น 8 คลังสินค้า ในจังหวัดชลบุรี และระยอง มากกว่า 80,000 ตารางเมตร
ล่าสุด “พงศ์ศิริ ศิริธร” ผู้จัดการเคอรี่ โลจิสติคส์ ประเทศไทย ย้ำว่า เมื่อสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ภาคอุตสาหกรรมทั่วโลก รวมทั้งภาคการผลิตในเขตพื้นที่อีอีซี จะพลิกฟื้นกลับมาเติบโตแบบก้าวกระโดด รวมถึงการเพิ่มขึ้นของนักลงทุนต่างชาติ ที่ยังคงเชื่อมั่นในฐานการผลิตและบริการในเขตพื้นที่อีอีซี ขอบอกอีกนิดอุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมภาคการผลิต อุตสาหกรรมเทคโนโลยี อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ อุตสาหกรรมเวชภัณฑ์ และเครื่องมือแพทย์ รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภค ล้วนเป็นลูกค้าเคอรี่ทั้งนั้น
…มองกาลไกล ลงทุนก่อนก็ได้เปรียบก่อน เช่นนี้แล…
เรื่องที่ 194 โควิดจะมากี่ระลอก บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEAMG ก็ไม่สะเทือน เดินหน้าประมูลงานใหม่ต่อเนื่อง ล่าสุด คว้าคุมงานก่อสร้างอุโมงค์ส่งน้ำ การประปานครหลวง เพื่อเชื่อมโยงระบบส่งน้ำฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก แก้ปัญหาการผลิตน้ำประปาในฝั่งตะวันออกจากปัญหาลิ่มความเค็มรุกล้ำแม่น้ำเจ้าพระยา หรืออีกนัยหนึ่งคือ สถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูงในแม่น้ำเจ้าพระยาส่งผลให้รสชาติน้ำประปากร่อยเป็นบางช่วง เวลาในบางพื้นที่นั่นเอง หากไม่มีอะไรตลาดเคลื่อน 3 ปี กว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จถึงเวลานั้น รสชาติน้ำประปากร่อย คงจะหมดไปแน่นอน
เรื่องสุดท้าย ยังไม่มีหมายเลขเรื่อง เพราะล่าสุด การแต่งตั้งและโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของกระทรวงการคลัง สายข่าววงในยืนยันแล้ว ยังไม่เข้า ครม.วันที่ 7 ก.ย.นี้ แต่ก็ไม่แน่อีกแหละครับ เพราะรอบนี้ บอกตรงๆ ว่า “ขลุกขลิก” จะน้ำก็ไม่น้ำ จะแห้งก็มีเปียกๆ ชื่นๆ อย่างนี้ เค้าเรียกว่า “ท่านปลัด” เหนื่อย น่าเห็นจริงๆ แม้หลายคนมองว่า ตำแหน่งหนึ่งเดียวของกระทรวงการคลังที่วางลงคือ อธิบดีกรมธนารักษ์ อาจจะไม่ใช่กรมใหญ่ หรือหน่วยงานจัดเก็บภาษี แต่กรมนี้ก็มีศักดิ์ศรีไม่แพ้ 3 กรมจัดเก็บรายได้ เพราะดูแลทรัพย์สินของประเทศ ไล่ไปตั้งแต่บนบกจนถึงในน้ำ (อากาศด้วยหรือเปล่า)
ล่าสุดฝันของท่านปลัดคลังพังทลาย “อุ๋ย” กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) อาจจะอยู่ที่เดิม “โป๊ะ” พรชัย ฐิระเวช รองปลัดกระทรวงการคลังถูกกระทบชิงไปด้วย ก็ขยับขึ้นไม่ได้อีก ในฐานะรองปลัดคนใหม่ล่าสุด “แพต” แพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) อาจไม่ได้ขยับด้วยเช่นกัน เพราะงบประมาณปี2565 ยังขาดคนทำเรื่องเงินกู้ก้อนใหม่ให้แก่รัฐบาลในการฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจ (ปีหน้า) ขณะที่หนี้สาธารณะใกล้ชนเพดาน 60% ของจีดีพี คนเก่งทั้งหมดจึงต้องอยู่รับตำแหน่งที่ตนเองรับผิดชอบต่อไปอีกหนึ่งปี หรืออาจจะแค่เดือนพ.ค.ปีหน้า ก็ยังไม่รู้ชัด เพราะหนึ่งใน 3 กรมภาษีเดือนพ.ค.จะอยู่ครบ 4 ปีพอดี
ส่วนที่ยังพอมีสิทธิ์ลุ้น “จำเจริญ” “จำเริญ โพธิยอด” รองปลัดกระทรวงการคลังแต่ไม่มีเส้นที่หนุนความเก่ง คงไปไหนยาก ต้องนั่งสบายๆ ไปอีกหนึ่งปี ขอไล่ลงไปอีกนิด มาถึงชั้นสูงสุดของตึกกระทรวงการคลังพอดี (ชั้น7) ปีนี้ อาจได้เห็นผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ไม่ผู้ชายก็ผู้หญิงเป็นอธิบดีกรมธนารักษ์ มันก็ “ขลุกขลิก” แบบนี้แหละ!! ครับ
โดย นพวัชร์