ยุทธศาสตร์ 20 ปี โอกาสหรือวิกฤติ?
วิกฤติหรือโอกาสของประเทศไทยนับจากนี้ไป อาจขึ้นกับการจะเริ่มมีผลบังคับใช้แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ภายใต้เครือข่ายของ คสช. ที่หากยอมยึดโยงกับผลประโยชน์ของชาติและประชาชนอย่างแท้จริง วิกฤติในอนาคตอันใกล้คงไม่เกิดขึ้น!
ประกาศในราชกิจจานุเบกษาอย่างเป็นทางการ นับแต่วันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมาแล้ว สำหรับ…ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ.2561-2580) หรือ แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่ถูกคิดค้นและจัดทำโดยคณะบุคคลในเครือข่ายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
ถือเป็นยุทธศาสตร์ชาติฉบับแรกของประเทศไทย ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งจะต้องนําไปสู่การปฏิบัติเพื่อให้ประเทศไทยบรรลุวิสัยทัศน์ “ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ภายในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อความสุขของคนไทยทุกคน
ไม่ว่าคนไทยและรัฐบาลในอนาคตจะชื่นชอบหรือชิงชัง? ถึงตรงนี้…คงยากจะหยุดยั้งแผนงานที่จะผูกติดและยึดโยงให้ทุกรัฐบาลและทุกหน่วยงานของรัฐ ต้องปฏิบัติตามกรอบของแผนยุทธศาสตร์นี้ อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้ และไม่มีเพียงจะมีคณะกรรมการยุทธศาสตร์ และองค์กรอิสระ คอยทำหน้าที่ตรวจสอบ สั่งการ และเอาผิด เท่านั้น
หากยังมีกฎหมายกำหนดเอาไว้ชัดเจน เพื่อเอาผิดกับใครหรือองค์กรใด ที่ไม่น้อมนำและทำตาม
นอกจาก “แผนหลักใหญ่” คือ แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แล้ว ยังจะมี “แผนแม่บทด้านต่างๆ” ที่ทั้งหมดจะเชื่อมโยงถึงกัน สอดคล้องกันแบบ “ผูกติด” กันไปอีก ซึ่งแน่นอนว่า…ทั้งนโยบายรัฐบาล แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม งบประมาณ และแผนอื่นใดที่จะเกิดขึ้นตามมาในอนาคต ก็ต้องยึดโยง ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
เรียกได้ว่า…ห้ามเป็นอื่นจากนี้เด็ดขาด!
เมื่อมีกฎหมาย (แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี) มีสำนักงาน (อาคารสำนักงานและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องโดยตรง) ก็ต้องมี…คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ 35 คน แยกเป็นคณะกรรมการที่มาจากการแต่งตั้งตามตำแหน่ง 18 คน จำนวนนี้ 13 คนมาจาก…ฝ่ายการเมืองและข้าราชการประจำ โดยอีก 5 คนมาจากองค์กรภาคเอกชน ด้วยการดึงเอา 5 ประธาน จาก…สภาเกษตรกร สภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรม สภาธุรกิจท่องเที่ยว และสมาคมธนาคาร มาร่วมเป็นคณะกรรมการยุทธศาสตร์อีก
ที่เหลือ 17 คนมาจากการสรรหา ผ่านกระบวนการคัดกรองจาก…ตัวแทนกลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิภาคส่วนต่างๆ ซึ่งหนึ่งในนั้น ก็จะมีตัวแทนจากองค์กรภาคสื่อมวลชน รวมอยู่ด้วย
แน่นอนว่า…ภายหลังแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี มีออกมาใช้อย่างเป็นรูปธรรมแล้ว จากนี้ ก็ต้องทำการแต่งตั้ง “คณะกรรมการจัดทํายุทธศาสตร์ชาติ” รวม 6 คณะ ขึ้นมาอีก เพื่อทำหน้าที่จัดทําร่างยุทธศาสตร์ชาติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขที่กําหนด ประกอบด้วย….
1.คณะกรรมการจัดทํายุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง
2.คณะกรรมการจัดทํายุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน
3.คณะกรรมการจัดทํายุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์
4.คณะกรรมการจัดทํายุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างโอกาส และความเสมอภาคทางสังคม
5.คณะกรรมการจัดทํายุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
และ 6.คณะกรรมการจัดทํายุทธศาสตร์ชาติด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ
หลายคนหลายองค์กรมอง…แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เป็นโอกาส! เนื่องจากที่ผ่านมา ประเทศไทยขาดการเชื่อมโยงแผนยุทธศาสตร์เพื่อการพัฒนาประเทศ อีกทั้งแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ถูกจัดทำกันขึ้นมาตั้งแต่ฉบับที่ 1 (ระยะที่ 1 (2504-2506) และระยะที่ 2 (2507-2509)) ลากยาวมาจนถึงฉบับที่ 12 (2560-2564) ในปัจจุบันนั้น มิอาจใช้เป็นแนวทางให้ทุกรัฐบาลต้องทำและเดินตามแผนได้
กลายเป็นว่า…แผนพัฒนาประเทศฯ จาก สภาพัฒน์ เป็นได้แค่เพียง…กระดาษเปื้อนหมึก! ที่มีอาจจะบังคับใช้ในทางปฏิบัติใดๆ ได้เลย
นั่นเพราะแต่ละรัฐบาล มองแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ถูกจัดทำขึ้นมาจาก…หน่วยงานราชการระดับกระทรวง เป็นแค่เพียง…ข้อเสนอแนะ! หาใช่ข้อบังคับให้รัฐบาลและหน่วยงานรัฐอื่นๆ จะต้องทำตาม ซึ่งต่างไปจากแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่รัฐบาลหรือหน่วยงานรัฐ จะไม่ปฏิบัติตามแผนไม่ได้เด็ดขาด!
หากไม่ปฏิบัติตาม กระทั่ง มีการร้องเรียนผ่านไปยัง…สภาผู้แทนราษฎร หรือวุฒิสภา ก่อนจะ “ส่งไม้” ต่อไปให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อทำการ “ชี้มูล” และแค่เพียง ป.ป.ช.ชี้มูลว่า…นโยบาย แผนงาน หรือการดำเนินงานใดๆ ของรัฐบาล หรือหน่วยงานภาครัฐ “ผิด” ไปจากกรอบแห่งแผนยุทธศาสตร์ฯ เท่านั้น
คนในตำแหน่ง…ไม่ว่าจะเป็น นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ปลัดกระทรวง อธิบดี หรือผู้อำนวยการองค์กรภาครัฐนั้นๆ จะต้อง…หลุดพ้นจากตำแหน่งในทันที
ขณะที่คนอีกฝ่าย กลับเห็นต่าง และมองว่าสิ่งนี้…อาจเป็นวิกฤติ มิต่างจาก “เครื่องพันธนาการ” ที่คอยผูกมัดให้ประเทศไทย จมปรักอยู่กับ “ภาพเพ้อฝัน” ที่มิอาจจะก้าวตามทันความเปลี่ยนแปลงของโลกแห่งเทคโนโลยีดิจิทัล ที่แปรเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว จนมิอาจจะคาดเดาได้เลยว่า…อีก 3 เดือน, 6 เดือน, 1 ปี, 3 ปี, 5 ปี หรือ 10 ปีข้างหน้า…จะเกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้
แต่เมื่อการพัฒนาประเทศ มิอาจทำได้อย่างเท่าทันเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพราะติดขัดกับสารพัดเงื่อนไขแห่งแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ทั้งในระดับ…แผนหลักใหญ่ และแผนรองระดับ…แผนแม่บท ทั้ง 6 ด้าน นั่นก็มิต่างจากการดึงประเทศให้หยุดนิ่งอยู่กับที่
ขณะที่ประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะเพื่อนบ้านรายรอบของไทย…ต่างก็ก้าวเดินไปข้างหน้า ตามติดไปกับเทคโนโลยีที่ทันสมัย นั่นก็ทำให้ประเทศไทย ถอยหลังไปโดยปริยาย
แม้ฝ่ายที่สนับสนุนแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี จะออกมาสำทับหนักแน่นว่า…รัฐบาล ณ ขณะนั้น สามารถจะแก้ไขและปรับเปลี่ยนแผนฯต่างๆ ได้ก็ตาม แต่ในความเป็นจริง…รัฐบาลที่มีเสียงเพียงน้อยนิด มิอาจจะทำการแก้ไขเปลี่ยนแปลงใดๆ ในเนื้อหาสาระแห่งแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ได้เลย
ถึงตรงนี้ ทีมข่าว AEC10NEWS ยังเทน้ำหนักให้กับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศในระยะยาว เพียงแต่มี 2 ประเด็นที่อยากฝากให้ทุกฝ่ายที่ “รักประเทศไทยจริงๆ” ไม่ใช่พวกที่รักแบบปากมันและน้ำลายไหล ได้โปรดไตร่ตรองอย่างหนักแน่น ดังนี้
1.แผนงานที่ดี จะต้องปรับเปลี่ยนและแก้ไขได้ทันกับสถานการณ์ความเป็นไปและเปลี่ยนแปลงของโลกในทุกมิติ อย่าได้สร้างเงื่อนไข กระทั่ง กลายเป็นกระแสที่ว่า…กลุ่มคน (รัฐบาล) ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงในสาระสำคัญบางประการของแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีนั้น คือ พวกแสวงหาผลประโยชน์ และต้องการทำลายและทำร้ายบ้านเมือง
และ 2.ได้โปรดปล่อยให้การแต่งตั้งและสรรหา…คณะกรรมการยุทธศาสตร์ศาสตร์ทั้ง 35 คน เป็นไปภายใต้กระบวนการแห่งประชาธิปไตย ที่อิงแอบอยู่กับประชาชนอย่างแท้จริง เพื่อที่คนกลุ่มนี้จะยึดโยงผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก
นั่นเพราะไม่มีหลักประกันที่ดีอันใด มาสร้างความมั่นใจให้กับสังคมไทยได้เลยว่า…ทั้ง 36 คณะกรรมการยุทธศาสตร์ รวมถึงองค์กรตรวจสอบและถอดถอน ไม่ว่าจะเป็น…สภาผู้แทนราษฎร, วุฒิสภา และ ป.ป.ช. ที่เกือบทั้งหมด มาจากการแต่งตั้งของคนๆ เดียว หรือจากคณะบุคคลที่ผูกโยงกับคนๆ นั้น ซึ่งก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. จะทำหน้าที่อย่างเป็นกลางและเป็นธรรม
หากผู้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะผู้ที่มีอำนาจและบทบาทสูงสุด ต่อการถือกำเนิดและมีตัวตนของแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี จะยึดแนวทางข้างต้นแล้ว เชื่อว่า…ทางตันของปัญหาระดับชาติรอบใหม่นี้ คงจะไม่มีทางเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ตรงกันข้าม…หากปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่คนกลุ่มนั้น? คาดหวังและตั้งใจกันตั้งแต่ต้นละก็ โอกาสที่บ้านเมืองไทยจะเกิดวิกฤติรอบใหม่ ที่อาจรุนแรงกว่าทุกครั้ง อันเป็นผลพวงมาจาก…แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ก็อาจจะมีให้ได้เห็นในเร็ววันนี้!!!.