“ฟอร์แคร์” ผลิตภัณฑ์เพื่อคนรักสุขภาพ
จุดเริ่มต้นธุรกิจเกิดขึ้นได้เสมอในทุกโอกาส ขอเพียงแค่ไม่ละทิ้งโอกาสที่อยู่ตรงหน้า ประตูสู่แห่งความสำเร็จก็พร้อมที่จะเปิดรับ
เช่นเดียวกับภิรมณ ชูประภาวรรณ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ฟอร์แคร์ จำกัด ซึ่งก่อร่างสร้างธุรกิจจากวิกฤติแห่งสุขภาพของสามีหุ้นส่วนคนหนึ่ง ที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดหัวใจ และถูกแพทย์สั่งงดรับประทานกะทิ ซึ่งเป็นส่วนผสมของเมนูสุดโปรด เนื่องจากมีปริมาณไขมันอิ่มตัวสูง
–จากปัญหาสู่ธุรกิจ
ภิรมณ เล่าว่า ด้วยความที่ตนเองเรียนจบวิทยาศาสตร์การอาหาร และเคยทำงานงานทางด้านวิจัยและพัฒนา (R&D) ให้กับบริษัทผลิตอาหารแห่งหนึ่งทำให้หุ้นส่วนท่านหนึ่งมาปรึกษาเรื่องของการทำกะทิเพื่อสุขภาพว่าจะพอมีทางเป็นไปได้ไหม เพื่อให้สามีได้รับประทานอาหารที่ชื่นชอบ หลังจากนั้นจึงกลับมาค้นหาวิธี และวัตถุดิบที่ใช้แทนมะพร้าว แต่ให้รสชาติได้เหมือนกับกะทิ จึงได้นึกถึงน้ำมันรำข้าว เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่ปลูกข้าวอยู่แล้ว ทำให้มีวัตถุดิบที่ต้องการเป็นจำนวนมาก ที่สำคัญมีคุณประโยชน์ที่ดีไม่ด้อยไปกว่าน้ำมันมะกอก
เมื่อความคิดตกผลึกดีแล้วจึงเข้าสู่กระบวนการผลิต จนได้ผลิตภัณฑ์อันดับแรกภายใต้แบรนด์ 4CARE ออกมาเป็น “ 4 CARE TASTIFIT ” ซึ่งเป็นกะทิธัญพืช สินค้านวัตกรรมที่มาแก้ปัญหาให้ผู้ที่ไม่ทานกะทิ เพราะมีไขมันอิ่มตัวสูง สามารถทานกะทิได้อย่างสบายใจ โดยวัตถุดิบที่ใช้มาจากน้ำมันรำข้าวและโปรตีนถั่วเหลือง สามารถใช้ประกอบอาหารแทนกะทิทั่วไปได้เลย ที่สำคัญคือมีปริมาณไขมันอิ่มตัวต่ำกว่ากะทิมะพร้าว 4 เท่าและไม่มีน้ำตาล ไม่มีไขมันที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ (Trans Fat)
สำหรับการทำตลาดในระยะแรกนั้น จะมุ่งเน้นไปที่กลุ่มโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งจะมีผู้ป่วยโรคหัวใจเข้ามารักษาตัวเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่จะถูกห้ามรับประทานอาหารประเภทกะทิ แต่อาหารที่ถูกนำมาเสริฟให้กับผู้ป่วยกลับมีส่วนผสมของวัตถุดิบที่คล้ายกะทิ ผู้ป่วยจึงเกิดความสนใจและสอบถามเพื่อขอซื้อผลิตภัณฑ์กลับไปรับประทานที่บ้านหลังจากที่ออกจากโรงพยาบาล หลังจากนั้นจึงเริ่มทำเป็นธุรกิจมากขึ้น และมีวางจำหน่ายในซุบเปอร์มาร์เก็ต
–ต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพหลากหลาย
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ 4CARE ได้ถูกต่อยอดจนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทต่างๆออกไปอีก 4 ประเภทได้แก่ 1.4CARE BALANCE น้ำจมูกข้าว เป็นเครื่องดื่ม UHT ทำจากจมูกข้าวกล้องหอมมะลิ จมูกข้าวสาลี และข้าวโอ๊ต โดยไม่มีการปรุงแต่งทั้งสี กลิ่น และรสด้วยสารเคมีใดๆ เป็นเครื่องดื่มที่คิดมาเพื่อให้ผู้บริโภคชาวไทยมีเครื่องดื่มที่มีใยอาหารสูง เพราะเห็นว่าในปัจจุบันคนส่วนใหญ่มักจะรับประทานใยอาหารกันไม่เพียงพอ โดยใน 4CARE BALANCE น้ำจมูกข้าว 1 กล่อง จะมีใยอาหารสูงถึง 6000 มิลลิกรัม ซึ่งเท่ากับ 1 ใน 4 ของความต้องการใยอาหารของร่างกายใน 1 วัน ซึ่งหมายความว่ารับประทาน 4 กล่องได้ใยอาหารครบทั้งวัน รวมทั้งพวกวิตามินบี 1 บี2 วิตามินอี และแคลเซียม
“ ผลิตดังกล่าวนี้ได้รับเลือกให้เป็นเครื่องดื่มทางเลือกสุขภาพ จากมูลนิธิส่งเสริมโภชนาการภายใต้การดูแลขององค์การอาหารและยา (อย.) เนื่องจากทุกรสชาติ แทบจะมีปริมาณน้ำตาลต่ำสุด ในบรรดาเครื่องดื่มสำเร็จรูป UHT ในท้องตลาด ”
2.4CARE BALANCE น้ำข้าวกล้องออร์แกนิก เป็นเครื่องดื่มจากข้าวกล้องหอมมะลิไทย โดยบริษัทถือว่าเป็นรายแรกและรายเดียวในไทยที่ได้รับมาตรฐานออร์แกนิก USDA จากอเมริกา และได้รับรางวัลชมเชย ในการประกวดสินค้านวัตกรรมจากข้าวไทยเมื่อปี 2558 เนื่องจากเป็นเครื่องดื่ม Rice Drink เจ้าเดียวในไทยที่ชูจุดขายของการปราศจากสารก่อภูมิแพ้ 8 อันดับ (Top 8 Allergen Free) สำหรับเด็กที่แพ้อาหาร และยังเลือกใช้ข้าวออร์แกนิก จากกลุ่มเกษตรกรในจังหวัดยโสธร เพื่อให้มูลค่าเพิ่มที่เราสร้างให้กับข้าวไทย คืนกลับมาสู่เกษตรกรโดยตรง
3.4CARE TASTIFIT ครีมเพื่อสุขภาพ โดยเป็นเสมือนผลิตภัณฑ์ที่คล้ายกับกะทิธัญพืช ซึ่งทำจากน้ำมันรำข้าวและโปรตีนถั่วเหลือง มีปริมาณไขมันอิ่มตัวต่ำ และไม่มีคอเลสเตอรอลเช่นกัน แต่ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวนี้เอาไว้ใช้ทำซุป ไวท์ซอส ครีมซอส แทนวิปครีมจากนมทั่วไปที่มีไขมันอิ่มตัวสูงและมีคอเลสเตอรอล
4.DELICARE Creamer ครีมปรุงกาแฟและเครื่องดื่มเย็นแบบสำเร็จรูป ที่รวบรวมนมข้นหวานและนมข้นจืด ด้วยสูตรที่ลงตัว จากเดิมที่จะต้องเทนมข้นหวานหนึ่งครั้งและเพิ่มความมันด้วยนมข้นจืดอีกที แต่ DELICARE Creamer เป็นสูตรผสมมาให้เสร็จ โดยถือว่าเป็นนวัตกรรมที่ยังไม่มีผู้ผลิตรายใดเคยทำมาก่อน
–คำนึงถึงผู้บริโภคมากกว่าการตลาด
ภิรมณ กล่าวอีกว่า ด้วยความที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ทางด้านอาหาร จึงพยายามคัดสรรสิ่งที่ดีให้กับผู้บริโภคมากกว่าการคำนึงเรื่องของการตลาด จนกลายเป็นจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ทุกประเภท ภายใต้ความเชื่อที่ว่าสุขภาพที่ดีเริ่มต้นจากการรับประทานอาหารที่ถูก โดยมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นผู้ที่รักสุขภาพ ผู้สูงอายุ แต่ในระยะหลังเริ่มมีกลุ่มของผู้ที่เพิ่งเรียนจบจากมหาวิทยาลัยเข้ามาเป็นลูกค้ามากยิ่งขึ้น จากกระแสการดูแลสุขภาพ ทำให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทสามรถมียอดขายเติบโตได้ประมาณปีละ 30%
“ ด้วยความที่เป็นบริษัทขนาดเล็ก ทำให้การทำตลาดของบริษัทจึงมุ่งเน้นการเข้าหาลูกค้ากลุ่มเป้าหมายโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นงานเพื่อสุขภาพ รวมถึงสถานที่ออกกำลังกาย และโรงพยาบาล ซึ่งจะมีผู้ที่เข้าไปตรวจสุขภาพ โดยมีนักโภชนาการที่แนะนำผลิตภัณฑ์ของบริษัท เพราะเห็นว่าดีต่อสุขภาพของคนไข้ ส่งผลให้ยอดขายของบริษัทเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ”
–เล็งสร้างโรงงานเป็นของตนเอง
ภิรมณ ยังได้กล่าวถึงเป้าหมายของบริษัทในอนาคตด้วยว่า ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัทมีความตั้งใจที่จะไม่มีโรงงานผลิตเป็นของตนเอง โดยเลือกใช้วิธีการจ้างผลิตทั้งหมดจากโรงงานในประเทศไทย และต่างประเทศ ซึ่งบริษัทจะมีหน้าที่ในการคิดสูตร และเข้าไปช่วยปรับปุงกระบวนการทำงานของโรงงานเพื่อให้เหมาะสมกับการผลิตสินค้าของบริษัทเท่านั้น
อย่างไรก็ดี ล่าสุดบริษัทได้รับการสนับสนุนสินเชื่อจากจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือเอสเอ็มอีแบงก์ (ธพว.) เพื่อขยายธุรกิจจากขนาดเล็กไปสู่ขนาดกลาง โดยการสร้างโรงงานเป็นของตนเอง เพื่อผสมผสานผลิตวัตถุดิบที่เป็นหัวใจของผลิตภัณฑ์ก่อนที่จะส่งต่อไปให้โรงงานได้ผลิตเป็นสินค้าออกจำหน่าย รวมถึงการสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME หรือลูกค้าที่ต้องการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อนำออกสู่ตลาด โดยคาดว่าในปี 60 น่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จ
“ นอกจากเอสเอ็มอีแบงก์จะช่วยสนับสนุนทางด้านสินเชื่อแล้ว ยังมีส่วนช่วยในการพาไปทำกิจกรรมทางการตลาดภายในงานต่างๆอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ฐานลูกค้าของบริษัทขยายกว้างมากขึ้น เนื่องจากจุดประสงค์สำคัญในการตลาดของบริษัทคือต้องการเข้าหาลูกค้าโดยตรง ซึ่งปัจจุบันได้มีการขยายการทำตลาดไปสู่อาคารสำนักงาน หรือออฟฟิตต่างๆมากขึ้น ”