กรอ.ติด GPS ป้องกันลักลอบทิ้งกากอุตฯ
กรอ.เพิ่มระบบ GPS รถขนส่งกากอุตสาหกรรมอันตราย เพื่อติดตามระหว่างการขนส่ง ยังจุดหมายปลายทางที่ได้แจ้งไว้หลังพบมีการลักลอบทิ้งระหว่างการขนส่งในบางพื้นที่
หลังจากกระทรวงอุตสาหกรรม ได้แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการการแก้ไขปัญหากากอุตสาหกรรม เพื่อบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมให้เข้าสู่ระบบตามกฎหมาย ซึ่งปัจจุบัน กรมโรงงานอุตสาหกรรม หรือ กรอ ได้มีระบบฐานข้อมูลและติดตามการขนส่งกากอุตสาหกรรม (GPS) เพื่อติดตามรถขนส่งกากอุตสาหกรรมอันตรายด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์แบบเรียลไทม์ (Real Time) อยู่แล้ว แต่ยังพบว่ามีการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมในหลายพื้นที่ นั้น
ล่าสุด นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ได้สั่งการให้ กรอ.เข้มงวดยิ่งขึ้น โดยให้ตรวจสอบตั้งแต่ต้นทางของโรงงานว่าได้ส่งกากอุตสาหกรรมอันตราย และกากอุตสาหกรรมทั่วไป ไปกำจัดปริมาณเท่าไร และถึงปลายทางเท่ากันหรือไม่ เพื่อป้องกันการลักลอบทิ้งระหว่างขนส่ง
นายประกอบ วิวิธจินดา อธิบดี กรอ. บอกว่า ปกติโรงงานอุตสาหกรรมจะต้องขออนุญาตนำสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วออกนอกบริเวณโรงงาน (สก.2) ซึ่งจะทำให้ กรอ. ทราบต้นทาง-ปลายทางของการขนส่งกากอุตสาหกรรมว่ามีจุดหมายปลายทางที่ใด ซึ่งจะเป็นไปตามที่ได้มีการแจ้งการขนส่งไว้ คือ ทราบว่ามีผู้รับในระบบแต่จะไม่สามารถเช็คในระหว่างทางการขนส่งได้
กรอ.จึงได้นำระบบบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมแบบครบวงจร (E-Fully Manifest) เข้ามาประยุกต์ใช้ ด้วยการเพิ่มระบบ GPS ที่รถขนส่งกากอุตสาหกรรมอันตรายเพื่อติดตามระหว่างการขนส่ง ทำให้สามารถทราบว่ารถที่ขนส่งกากฯไปยังจุดหมายปลายทางที่ได้แจ้งไว้หรือไม่ หรือมีการออกนอกเส้นทาง โดยเบื้องต้นรถที่ต้องติดตั้งระบบ GPS จะใช้บังคับกับรถที่มีใบอนุญาตมีไว้ครอบครองซึ่งวัตถุอันตราย (วอ.8) ก่อน ซึ่งมีอยู่ประมาณ 5,000 คัน (ข้อมูลปี 2563)
สำหรับการทำงานของระบบจะมีการติดสัญญาณเป็น Code หลักของตัว GPS ที่ขึ้นทะเบียนไว้ โดยทางบริษัทต้นทางที่จะทำการขนส่งกากอุตสาหกรรมอันตรายจะต้องส่ง Code ให้กับทางฝ่ายสารสนเทศของ กรอ. เพื่อเชื่อมสัญญาณทำให้สามารถติดตามการขนส่งได้ ซึ่งขณะนี้ กรอ. อยู่ระหว่างดำเนินการจัดตั้งศูนย์ติดตามระหว่างการขนส่งกากอุตสาหกรรมอันตราย โดยจะดำเนินการได้เต็มรูปแบบในปีนี้
นายประกอบ บอกว่า ศูนย์ติดตามฯดังกล่าวจะสามารถรายงานตำแหน่งของรถขนส่ง วันเวลาที่ส่งข้อมูล ข้อมูลของเสียที่จะขนถ่าย ละติจูด ลองติจูด ความเร็ว สถานะเครื่องยนต์ ทิศทางการเดินทาง และยังสามารถติดตามรถขนส่งได้แบบ Real Time ซึ่งจะทำให้ กรอ. สามารถกำกับดูแลการจัดการกากอุตสาหกรรมอันตรายในภาพรวมได้ดียิ่งขึ้น