TMBกำไรQ1/64 เพิ่มขึ้น 125% จากไตรมาสก่อน
ทีเอ็มบีรายงานกำไรไตรมาส 1 ปี 2564 ที่ 2,782 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 125% จากไตรมาสก่อนหน้า ตามการตั้งสำรองฯ ที่ลดลงหลังเพิ่มสำรองฯ ล่วงหน้าไปแล้วในไตรมาส 3-4 ปี 2563 ด้านแผนรวมธนาคารเสร็จสิ้นภายในเดือนกรกฎาคมนี้ตามกำหนด
ทีเอ็มบี หรือ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย แจ้งผลประกอบการไตรมาส 1/2564 โดยธนาคารมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,782 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 125% จากไตรมาส 4/2563 เนื่องจากค่าใช้จ่ายการตั้งสำรองฯ ที่ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปีที่แล้ว ทั้งนี้ ในไตรมาส 1/2564 ธนาคารตั้งสำรองฯ เป็นจำนวน 5,480 ล้านบาท ยังถือว่าอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับภาวะปกติ แต่ลดลงเมื่อเทียบกับ 8,237 ล้านบาทในไตรมาส 4/2563 ซึ่งธนาคารได้ตั้งสำรองฯ เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเพื่อเตรียมการล่วงหน้าสำหรับปี 2564
นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบี หรือ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2564 นี้ โดยรวมยังคงมีความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ธนาคารจึงเน้นการเติบโตธุรกิจอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการปล่อยสินเชื่อที่ต้องเน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ ซึ่งแม้อาจทำให้เห็นแรงกดดันต่อรายได้ดอกเบี้ย แต่ที่สำคัญกว่าคือการไม่เพิ่มความเสี่ยงให้กับงบดุลหรือคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารในสภาพแวดล้อมเช่นนี้
ในส่วนของสถานการณ์ด้านโควิด-19 นั้น ลูกค้าธนาคารมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เริ่มกลับมา เห็นได้จากสินเชื่อที่อยู่ภายใต้โครงการให้ความช่วยเหลือที่ทยอยปรับตัวลดลงเป็นลำดับ จากเริ่มแรกที่ประมาณ 40% ของสินเชื่อรวม มาอยู่ที่ 14% ณ สิ้นไตรมาส 1/2564 และพบว่าลูกค้าที่อยู่ภายใต้โปรแกรมความช่วยเหลือยังคงมีความสามารถในการชำระคืนหนี้ ส่วนใหญ่เพียงแค่ขอให้ธนาคารช่วยปรับรูปแบบการชำระหนี้ให้สอดคล้องกับสภาพคล่องของลูกค้าในช่วงที่ได้รับผลกระทบเท่านั้น
นายปิติ กล่าวในตอนท้ายว่า “สำหรับแผนรวมกิจการระหว่างทีเอ็มบีและธนชาต ยังคงเดินหน้าได้ตามเป้าหมาย ไม่กระทบจากสถานการณ์โควิด-19 โดยการรวมธนาคารจะเสร็จสิ้นได้ตามกำหนดภายในเดือนกรกฎาคมนี้ แน่นอน พร้อมย้ำเดินหน้าวางเป้าหมายสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับคนไทย”