ไม่รู้จะไปไหน เที่ยวสุพรรณบุรีดีที่สุด
รู้หรือเปล่าว่าเมืองสุพรรณบุรีมีอะไรเด็ด ๆ บ้าง? ถ้าเจอคำถามแบบนี้ไม่ใช่คนสุพรรณฯ คงตอบยาก
แต่หากใครเคยได้ยินเพลงของเสรีย์ รุ่งสว่างที่ชื่ออเมซิ่งสุพรรณบุรี คงพอตอบได้บ้างเพราะในเพลงมีทั้งสัญลักษณ์ของเมืองหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นหอดูดาว วรรณกรรมเรื่องขุนช้างขุนแผน และศิลปะการละเล่นพื้นบ้าน ซึ่งนอกเหนือจากเพลงนี้ จังหวัดสุพรรณบุรียังมีทีเด็ดอีกหลายอย่าง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยว ประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน และวิทยาเขตของสถาบันการศึกษาชื่อดัง
จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นหนึ่งในจังหวัดภาคกลาง มีระยะห่างจากกรุงเทพฯ 107 กิโลเมตร มีพื้นที่ติดกับจังหวัดอุทัยธานี สิงห์บุรี ชัยนาท พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง กาญจนบุรี และนครปฐม ทางด้านประวัติศาสตร์นั้น คาดว่าสุพรรณบุรีเป็นเมืองโบราณที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 3,500 – 3,800 ปี จากการพบหลักฐานทางโบราณคดี ซึ่งโบราณวัตถุที่ค้นพบคาดสืบทอดศิลปะมาตั้งแต่สมัยสุวรรณภูมิ ทวารวดี ฟูนัน ศรีวิชัย และอมราวดี โดยสุพรรณบุรีมีชื่อเดิมว่า ทวารวดีศรีสุพรรณภูมิ หรือพันธุมบุรี แต่ต่อมาได้รับการขนานนามว่า สองพันบุรี จากการบวชของข้าราชการ 2,000 คน ในสมัยพระเจ้ากาแต มาถึงในสมัยพระเจ้าอู่ทอง ได้เรียกเมืองแห่งนี้ว่าเมืองอู่ทอง กระทั่งถึงสมัยของขุนหลวงพะงั่ว จึงได้เปลี่ยนเป็นชื่อว่า “สุพรรณบุรี” และใช้มาจวบจนทุกวันนี้
การเดินทางมายังสุพรรณบุรีนอกจากรถยนต์ส่วนตัวที่ขับมาได้หลากหลายเส้นทางแล้ว ยังสามารถเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะทั้งรถทัวร์ รถไฟ และรถตู้ เมื่อมาถึงสุพรรณจะไม่ไปเที่ยวที่ไหนเลยก็คงเป็นไปได้ยาก เพราะที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมมากมาย ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่หากใครมาสุพรรณต้องแวะเยี่ยมชม คงไม่พ้น บึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ หรือบึงฉวาก บึงน้ำขนาดใหญ่ มีพื้นที่ประมาณ 2,700 ไร่ ภายในประกอบด้วยสวนสัตว์ อุทยานผักพื้นบ้าน และไฮไลท์อย่างสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ หรืออควาเรียม ซึ่งเป็นอควาเรียมน้ำจืดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเป็นแห่งแรกที่มีอุโมงค์ปลา ทำให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสปลาสวยงามและปลาพันธุ์หายากอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอุโมงค์ปลาฉลามที่ดูจะได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษ บึงฉวากเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 – 17.00 น. ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 150 บาท เด็ก 50 บาท สำหรับชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาทและเด็ก 100 บาท
วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร วัดสำคัญคู่บ้านคู่เมืองสุพรรณ ที่ว่ากันว่าหากมาถึงจังหวัดสุพรรณบุรีแล้ว ไม่แวะมานมัสการหลวงพ่อโต ที่วัดป่าเลไลยก์ก็เหมือนมาไม่ถึงสุพรรณฯ กันเลยทีเดียว ซึ่งวัดแห่งนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และเป็น 1 ในสถานที่ที่ปรากฏในวรรณกรรมไทยเรื่องขุนช้างชุนแผน โดยรอบ ๆ วิหารของหลวงพ่อโตนั้น มีจิตรกรรมฝาผนังบอกเล่าเรื่องราวของขุนช้างขุนแผนที่สวยงาม ตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง และยังมีเรือนขุนช้าง เรือนไทยไม้สักโบราณกว้างขวางอยู่ภายในวัดอีกด้วย
ตลาดร้อยปีสามชุก ตลาดเก่าที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและความทรงจำของชาวสุพรรณ เป็นตลาดที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำท่าจีน ภายในประกอบไปด้วยสถาปัตยกรรมโบราณ อาคารพิพิธภัณฑ์ ร้านขายยาจีน ร้านกาแฟโบราณ ร้านถ่ายรูป และร้านค้าต่างๆที่รอให้นักท่องเที่ยวมาจับจ่ายเลือกซื้อสินค้า ปัจจุบันด้วยความร่วมมือของคนในชุมชนที่ช่วยกันฟื้นฟู และอนุรักษ์รูปแบบดั้งเดิมของตลาด ให้กลายมาเป็นตลาดที่มีชีวิตชีวา ทำให้ตลาดสามชุกได้รับรางวัลมรดกโลก จากองค์กรยูเนสโก ในประเภทอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมแห่งเอเชียแปซิฟิก
อุทยานมังกรสวรรค์ หรือพิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร ตั้งอยู่ภายในบริเวณศาลเจ้าพ่อหลักเมืองจังหวัดสุพรรณบุรี สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสที่ประเทศไทยกับประเทศจีนมีความสัมพันธ์ทางการทูตครบ 20 ปี ในปี พ.ศ.2539 โดยพิพิธภัณฑ์นำเสนอเรื่องราวประวัติศาสตร์ของอารยธรรมจีน และยังได้จำลองเมืองลี่เจียงเมืองมรดกโลกของจีนมาไว้ที่สุพรรณบุรีแห่งนี้ อีกทั้งภายในยังมีห้องจัดแสดงเรื่องราวประวัติศาสตร์ทั้งของประเทศจีน และประวัติความเป็นมาของชาวไทยเชื้อสายจีนในประเทศไทย ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมได้ในวันจันทร์, วันพุธ – ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 10.00 -16.00 น. และวันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 09.00 – 17.00 น. ปิดทุกวันอังคาร ค่าเข้าชมสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย ผู้ใหญ่ 299 บาท เด็ก 149 บาท ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 499 บาท และเด็ก 299 บาท
หอคอยบรรหาร – แจ่มใส หอคอยแห่งแรกและเป็นหอคอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย ด้วยความสูงถึง 123.25 เมตร ตั้งอยู่บนถนนนางพิม ตำบลท่าพี่เลี้ยง บนหอคอยแห่งนี้มีการติดตั้งกล้องส่องทางไกลไว้โดยรอบ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมวิวของจังหวัดสุพรรณบุรี และนอกจากนี้ยังมีนิทรรศการเกี่ยวกับเมืองสุพรรณจัดแสดงอยู่ภายในด้วย หอคอยแห่งนี้แบ่งออกเป็นชั้นต่าง ๆ ได้แก่ ชั้นที่ 1 ประกอบไปด้วยภาพจิตรกรรมขุนช้างขุนแผน และสินค้าที่ระลึก ชั้นที่ 2 สามารถชมทิวทัศน์ของบริเวณโดยรอบ และพักผ่อนกับอาหารและเครื่องดื่ม ชั้นที่ 3 เป็นจุดชมวิวตัวเมืองสุพรรณบุรี และจำหน่ายของที่ระลึก และชั้นที่ 4 สามารถชมภาพจิตรกรรมเรื่องราวของสมเด็จพระนเรศวร และสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดสุพรรณบุรี รวมถึงสามารถชมวิวเมืองสุพรรณได้ด้วยกล้องส่องทางไกล สำหรับผู้ที่สนใจเข้าชมสามารถเข้าชมได้ในวันอังคาร – ศุกร์ เวลา 10.00 – 19.00 น. และวันเสาร์ – อาทิตย์ 10.00 – 20.30 น. หยุดทุกวันจันทร์ ค่าขึ้นชมหอคอย ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 15 บาท แต่หากเข้าชมหลังเวลา 18.00 น. ผู้ใหญ่ 40 บาท และเด็ก 20 บาท
วัดทับกระดาน วัดชื่อดังอีกวัดหนึ่งในเมืองสุพรรณบุรี เนื่องจากเป็นวัดที่เก็บสิ่งของต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับพุ่มพวง ดวงจันทร์ ราชินีเพลงลูกทุ่งของไทยเอาไว้ รวมถึงมีการสร้างหุ่นพุ่มพวงไว้บริเวณศาลาริมสระน้ำ ทำให้ผู้ที่รัก และคิดถึงราชินีเพลงลูกทุ่งได้แวะเวียนมาระลึกถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันครบรอบการเสียชีวิต ในวันที่ 13 มิถุนายนของทุกปี จะมีการจัดงานรำลึกถึงพุ่มพวงขึ้น ซึ่งจะมีแฟนเพลงแวะเวียนมาร่วมงานไม่ขาดสาย
นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตติดอันดับตามที่กล่าวมาข้างต้นนั้น สุพรรณบุรียังมีที่เที่ยวที่น่าสนใจอีกเพียบ ทั้งอุทยานแห่งชาติพุเตย เขื่อนกระเสียว สถานปฏิบัติธรรมปู่ฤๅษีนารอด หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์วัดไผ่โรงวัว หาดทรายท้ายเขื่อน สวนหินธรรมชาติพุหางนาค เป็นต้น และนี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของความน่าสนใจในเมืองสุพรรณ ที่จริงแล้วเมืองแห่งนี้ยังมีกิจกรรมให้ทำอีกเยอะ สมกับเนื้อเพลงที่ว่า “ไปไหมแจ่มจันทร์ ไปเที่ยวสุพรรณ บ้านพี่ เมืองสุพรรณบุรี มีของดี มานาน…” จริง ๆ