ไออาต้าเชื่อเดินทางฟื้นครึ่งปีหลังนี้
เมื่อวันที่ 11 มี.ค. ผู้บริหารสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ หรือไออาต้า ระบุว่า การเดินทางส่วนตัวและเดินทางท่องเที่ยวจะฟื้นกลับมาอีกครั้งในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2564 นี้ หลังมีการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวที่กระหายจะเดินทางได้อย่างเสรีอีกครั้งและได้รวมตัวกับครอบครัวและเพื่อนๆ
โดยอเล็กซานเดอร์ เดอ จูนิแอค ระบุว่า การฟื้นฟูธุรกิจการเดินทางจะชะลอตัว และตัวเลขนักเดินทางภายในสิ้นปีนี้จะยังคงต่ำอยู่เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปี 2562
“ เรามีแนวโน้มจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงของการเดินทางทางอากาศหลังจากเดือนพ.ค. หรือมิ.ย. ในปีนี้” เขาเสริม “ ที่ไออาต้า เราทำงานประสานกับหลายประเทศเพื่อออกแบบและวางแผนต้นแบบ และกำหนดโรดแม็ปเพื่อเปิดประเทศ”
องค์ประกอบสำคัญในแผนต้นแบบคือ Travel Pass ของไออาต้า ซึ่งเป็นแอปพลิเคชั่นระบุสถานะสุขภาพบนสมาร์ทโฟน ที่มีการรวบรวมประวัติการฉีดวัคซีนและผลตรวจโควิด-19 ไว้เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางข้ามพรมแดน
สิงคโปร์แอร์ไลน์เป็นสายการบินแรกที่ประกาศอย่างเป็นทางการว่า จะเริ่มทดสอบการใช้งาน Travel Pass ของไออาต้าบนเที่ยวบินจากสิงคโปร์ไปกรุงลอนดอน
เริ่มตั้งแต่ 8 มี.ค. ผู้โดยสารบนเส้นทางบินที่ใช้ไอโฟนจะสามารถดาวน์โหลดแอป Travel Pass และสร้างอัตลักษณ์ทางดิจิทัลพร้อมภาพของตัวเองและข้อมูลพาสปอร์ต
สามารถใช้แอปนี้เพื่อแจ้งข้อมูลเที่ยวบิน และจองคิวตรวจโควิด-19 จาก 7 คลินิกในสิงคโปร์ สามารถเช็คผลตรวจได้บนแอป เจ้าหน้าที่เช็คอินที่สนามบินชางงีสามารถระบุสถานะของนักเดินทางผ่านแอป ซึ่งจะทำให้กระบวนการเช็คอินเร็วขึ้น จากข้อมูลของสายการบิน
แต่จากข้อกำหนดในปัจจุบัน นักเดินทางยังคงจำเป็นต้องแสดงเอกสารยืนยันสถานะของสุขภาพตัวเองที่ออกให้โดยคลินิกตรวจสุขภาพ
จีนเพิ่งประกาศใช้พาสปอร์ตวัคซีน ขณะที่เยอรมนีและสหรัฐฯ มีกำหนดจะออกพาสปอร์ตวัคซีนด้วยเช่นกันในเร็วๆนี้
“ การเดินทางส่วนตัวจะฟื้นคืนกลับมาอย่างแน่นอน แต่ธุรกิจการเดินทางจะใช้เวลาอีก 12 – 18 เดือนจึงจะฟื้น” เขาระบุ โดยชี้ถึงปัจจัยที่บริษัทจำนวนมากปรับใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในปีที่ผ่านมาและดำเนินการธุรกิจต่อไป
แต่แม้จะมีการเปิดประเทศอย่างค่อยเป็นค่อยไป เดอ จูนิแอคระบุว่า ปริมาณความหนาแน่นของผู้โดยสารบนเครื่องบินภายในสิ้นปีนี้จะยังคงอ่อนแรง เมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด-19 ในปี 2562 แม้จะดีขึ้นกว่าช่วงกลางปี 2563 ก็ตาม
“รัฐบาลหลายประเทศยังคงเฝ้าระวัง และยังอยู่ในโหมดฉุกเฉินจากสถานการณ์ของไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่” เขาเสริม “ พวกเขาต้องจัดการกับสถานการณ์ในประเทศก่อน”
เขาเสริมว่า วิกฤตโควิด-19 ให้บทเรียนสำคัญคืออุตสาหกรรมการบินจำเป็นต้องจัดการด้านการเงินให้แข็งแกร่งขึ้น
แม้สายการบินที่แข็งแกร่งที่สุดก่อนวิกฤตจะอยู่รอดได้ แต่อีกหลายสายการบินยังคงต้องดิ้นรนกับกำไรที่น้อยนิดและงบการเงินที่ไม่สมดุล
ในทางภูมิศาสตร์ เอเชีย-แปซิฟิกจะผงาดขึ้นเป็นภูมิภาคที่แข็งแรงที่สุดสำหรับการจราจรทางอากาศ จากการทำนายของเขา
“ เราได้เห็นการสถานการณ์นี้ก่อนมีโควิด และตลาดจีนเป็นอันดับ 1 สูงกว่าสหรัฐฯ แนวโน้มนี้จะขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก”
เขาระบุว่า การเติบโตอาจไม่สม่ำเสมอ “ปัจจัยสำคัญคือการเปิดพรมแดนของแต่ละประเทศ ขณะที่มีการฉีดวัคซีนและตรวจหาเชื้อมากขึ้นเรื่อยๆ”