วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ความงามท่ามกลางทิวเขา
แหล่งท่องเที่ยวทางศาสนาและวัฒนธรรมของประเทศไทยนั้นมีมากมายหลายที่
แต่ละที่ล้วนมีเอกลักษณ์และความสวยงามที่แตกต่างกันไป แต่ในชั่วโมงนี้สำหรับนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ น่าจะคุ้นหูกับชื่อของวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ววัดที่มีเอกลักษณ์ดึงดูดใจให้หลาย ๆ คนต้องเดินทางมาสัมผัส ถึงขั้นได้รับสมญานามว่า “ ภูฏานในเมืองไทย ” เพราะนอกจากทำเลที่ตั้งของวัดจะสร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือน ด้วยทิวทัศน์ที่สามารถมองเห็นทิวเขาและทะเลหมอกได้แบบพาโนราม่า ยังรวมถึงสถาปัตยกรรมภายในที่วิจิตรงดงามอีกด้วย
วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ตั้งอยู่ ณ บริเวณยอดเนินเขาสูงที่ระดับ 800 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลางในหมู่บ้านทางแดง ซึ่งอยู่ในเขตตำบลแคมป์สน อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ มีพื้นที่ประมาณ 91 ไร่ โดยก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2547 ในนาม พุทธธรรมสถานผาซ่อนแก้ว ต่อมาในวันที่ 1 กรกฎาคม 2553 จึงได้รับการอนุมัติจัดตั้งเป็นวัด ในนาม “ วัดพระธาตุผาแก้ว ” ที่มาของชื่อ “ ผาซ่อนแก้ว ” นั้น เกิดจากชาวบ้านในหมู่บ้านทางแดง เห็นลูกแก้วลอยอยู่บนฟ้า ก่อนจะหายลับเข้าไปในถ้ำบนยอดผา ทำให้เชื่อกันว่าเป็นพระบรมสารีริกธาตุเสด็จมา จึงถือว่าสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่มงคล และเรียกตามกันต่อ ๆ มาว่า “ ผาซ่อนแก้ว ”
ภายในวัดแห่งนี้มีจุดสำคัญที่นักท่องเที่ยวเมื่อแวะมาที่นี่ต้องไม่พลาดที่จะเยี่ยมชม อาทิ เจดีย์พระธาตุผาแก้ว ไฮไลท์ของสถานที่แห่งนี้ ความโดดเด่นของเจดีย์เกิดจากกระเบื้อง เซรามิค ลูกปัด และเครื่องประดับนานาชนิดหลากหลายสีสันที่ถูกประดับตกแต่งเป็นลวดลายที่สวยงาม เมื่อยามต้องแสงอาทิตย์ก็จะสะท้อนแสงเกิดเป็นประกายระยิบระยับบนยอดเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายกได้ประทานมาให้เก็บไว้ที่บริเวณใต้ฐานพระเจดีย์และใช้เป็นที่เก็บรวบรวมหลักธรรมคำสอน รวมถึงภาพปริศนาธรรม อีกทั้งยังใช้สำหรับเป็นที่เจริญสติภาวนาสำหรับพุทธศาสนิกชนทั่วไป
อุโบสถพระพุทธเจ้า 5 พระองค์เป็นองค์จำลองพระพุทธรูปของพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ สร้างขึ้นเพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในมหาวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนม์มายุครบ 85 พรรษา โดยมีลักษณะเป็นพระพุทธรูปสีขาว ซ้อนกันอยู่บนฐานดอกบัวขนาดใหญ่ มีขนาดความกว้าง 41 เมตร ยาว 72 เมตร และสูง 45 เมตร ซึ่งพระอุโบสถนี้แบ่งออกเป็น 6 ชั้น ใช้สำหรับประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ ของวัด ภายในประกอบด้วย ศาลาพระหยกสีเขียว กุฏิสงฆ์ กุฏิวิเวกสำหรับผู้ปฏิบัติธรรม ซึ่งเข้าได้เฉพาะผู้ได้รับอนุญาติเท่านั้น
ศาลาปฎิบัติธรรม(ศาลาพระหยกเขียว) ลักษณะของศาลาเป็นทรงจัตุรัสโปร่ง ประกอบด้วยบานกระจกขนาดใหญ่ บริเวณโดยรอบของศาลามีสวนดอกไม้นานาพันธุ์
พระพุทธเลิศรัตนโชติมณี หรือ พระหยกเขียว ลักษณะเป็นพระพุทธรูปหยกปางมารวิชัย สร้างตามแบบศิลปะสมัยเชียงแสน โดยองค์พระแกะสลักจากหยกเขียวทั้งก้อน ขนาดหน้าตัก 65 นิ้ว และที่พระเศียรขององค์พระบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
พระพุทธรัตนสัมฤทธิ์ผล หรือ พระหยกขาว พระพุทธรูปหยกปางขัดสมาธิ สร้างตามแบบศิลปะคันธาระ มีขนาดหน้าตัก 39 นิ้ว และที่พระเศียรขององค์พระบรรจุพระบรมสารีริกธาตุเอาไว้เช่นกัน
ลานโพธิ์ สถานที่สำหรับประกอบพิธีสำคัญทางศาสนา โดยในวันสำคัญทางศาสนา จะถูกใช้เป็นที่ทำพิธีเวียนเทียน และใช้สำหรับผู้ปฎิบัติธรรมในการเดินจงกลม หรือเจริญสติ บริเวณใจกลางของลานนั้น ประกอบด้วยต้นศรีมหาโพธิ์ ซึ่งได้รับมาจากพระครูธรรมศาสน์อุโมษ (พระครูในฎีกา ธงไชยวัฒน์ อิสฺสรธมฺโม) วัดท่ากระชัย อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม โดยต้นโพธิ์นี้ พระครูธรรมศาสน์อุโมษนำกล้าโพธิ์มาจากบริเวณรอบเจดีย์พุทธคยา ประเทศอินเดีย และทางวัดได้ลงกล้าปลูกในวันวิสาขบูชา ปี พ.ศ.2547
ลานพระสีวลี สถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปพระสีวลี พุทธมหาสาวก ตำแหน่งเอตทัคคะ ผู้เป็นเลิศในทางเป็นผู้มีลาภมาก
การเดินทางมายังวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วแห่งนี้ หากเดินทางจากกรุงเทพฯ สามารถใช้ทางหลวงหมายเลข 21 ผ่านตัวเมืองจังหวัดเพชรบูรณ์ จนถึงใกล้กิโลเมตรที่ 260 เมื่อสังเกตเห็นอนุสาวรีย์พ่อขุนผาเมืองทางซ้ายมือ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 12 หล่มสัก-พิษณุโลก จากนั้นขับต่อไปประมาณ 30 นาที ถึงหลักกิโลเมตรที่ 103 จะพบจุดสังเกต คือ องค์การบริหารส่วนตำบลแคมป์สนอยู่ทางขวามือ ให้ตรงไปกลับรถ ทางเข้าวัดจะอยู่บริเวณปากทางเข้าหมู่บ้านทางแดงข้างองค์การบริหารส่วนตำบลแคมป์สน ซึ่งจะมีป้ายวัดอยู่บริเวณปากซอยทางเข้า ส่วนการเดินทางด้วยรถประจำทาง สามารถเดินทางมาลงรถได้ที่สถานีขนส่งหล่มสัก จากนั้นต่อรถไปลงหน้าตลาดห้วยไผ่ ปากทางเข้าหมู่บ้านทางแดง และเดินเข้ามาอีกประมาณ 10 นาที จะเห็นสะพานทางเข้าวัดทางขวามือ หรือลงที่สถานีขนส่งในตัวเมืองเพชรบูรณ์ ซึ่งจะมีรถโดยสารให้บริการไปยังองค์การบริหารส่วนตำบลแคมป์สน สำหรับเวลาในการเข้าชม สามารถเข้าชมได้ทุกวัน ตั้งแต่ 08.00 – 17.00 น.
หากใครอยากหลบความวุ่นวายในเมือง เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศมาหาความเงียบสงบต่างจังหวัด ลองแวะมายังวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วแห่งนี้ รับรองไม่ผิดหวัง ด้วยสถานที่ภายในวัดที่งดงามราวสรวงสวรรค์ บวกกับวิวทิวทัศน์เพลินตาแบบ 360 องศา ที่รายล้อมไปด้วยทิวเขา และทุ่งหญ้าเขียวขจี ประกอบกับลมที่พัดเย็นสบาย หรือหากมาในช่วงฤดูหนาวยังมีโบนัสเป็นทะเลหมอกให้ชมอีกด้วย