พุกาม… ความงามของทะเลเจดีย์
ประเทศพม่าเริ่มเปิดประเทศให้ชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวและลงทุนทางธุรกิจมากขึ้นสถานที่ต่าง ๆ ของพม่า
จึงเป็นที่รู้จักมากขึ้นตามลำดับซึ่ง 1 ในนั้น คือ “พุกาม” อาณาจักรโบราณที่ละลานตาไปด้วยเจดีย์ หลายขนาด หลายรูปทรง ที่นักท่องเที่ยวทั้งประเทศไทย และประเทศอื่น ๆ ต่างพร้อมใจกันลืมเรื่องราวความขัดแย้งในอดีต เก็บกระเป๋าเพื่อมาสัมผัสความงามของอารยธรรมพุกามดูให้ได้สักครั้ง
พุกาม (Bagan) เป็นเมืองเก่าแก่ของประเทศเมียนมาร์ หรือพม่า ในอดีตเป็นที่ตั้งของอาณาจักรพุกาม อาณาจักรแห่งแรกในประวัติศาสตร์ของพม่า ในช่วงพุทธศักราช 1587 – 1830 เป็นเมืองที่ถูกสถาปนาโดยพระเจ้าอโนรธามังช่อ ก่อนอาณาจักรแห่งนี้จะปิดฉากความรุ่งเรือง หลังทำสงครามกับจักรพรรดิกุบไล ข่าน (Kublai Khan) แห่งมองโกล ปัจจุบันพุกาม ตั้งอยู่ริมแม่น้ำอิระวดี ในเขตมัณฑะเลย์ (Mandalay Division) โดยอยู่ห่างจากตัวเมืองมัณฑะเลย์ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 145 กิโลเมตร โดยแบ่งเมืองออกเป็น 3 เขต ได้แก่ เขตเมืองเก่า หรือเขตที่ตั้งของอาณาจักรพุกาม เขตเมืองใหม่ ซึ่งเป็นเขตที่อยู่อาศัย และเขตยองอู อันเป็นเขตเศรษฐกิจและการค้า
เมืองแห่งนี้ได้รับสมญานามว่า เมืองแห่งทะเลเจดีย์ หรือ เมืองแห่งเจดีย์สี่พันองค์ เนื่องจากในยุคที่รุ่งเรืองของอาณาจักรพุกามนั้นเคยมีเจดีย์มากถึง 4,446 องค์ บ่งบอกให้เห็นถึงความสำคัญของศาสนาพุทธเมื่อครั้งอดีต แต่ปัจจุบันเจดีย์และตัวเมืองนั้นได้เสื่อมสลายไปตามกาลเวลา หลงเหลืออยู่เพียงกำแพงเมืองด้านทิศตะวันออก และทิศใต้ รวมถึงเจดีย์เพียง 2,217 องค์เท่านั้น เจดีย์องค์แรกที่สร้างขึ้นในอาณาจักรแห่งนี้ มีชื่อว่า พระมหาธาตุเจดีย์ชเวสิกอง (Shwezigon Pagoda) สร้างขึ้นโดยพระเจ้าอโนรธามังช่อ ปฐมกษัตริย์แห่งอาณาจักรพุกาม แต่เจดีย์องค์นี้กลับสร้างแล้วเสร็จในสมัยของพระเจ้าจานสิตาแห่งอาณาจักรพุกาม
พระมหาธาตุเจดีย์ชเวสิกอง เจดีย์ขนาดใหญ่ที่มีความงดงาม เป็นที่เคารพสักการะของทั้งชาวพม่า และชาวพุทธทั่วโลก ลักษณะของเจดีย์เป็นทรงระฆังคว่ำ สูงประมาณ 53 เมตร ภายนอกปิดด้วยทองคำเปลว ภายในบรรจุพระสารีริกธาตุ และพระเขี้ยวแก้ว ที่อัญเชิญมาจากเมืองลังกา โดยนอกเหนือจากธรรมเนียมการสร้างเจดีย์ของพม่าที่กษัตริย์จะสร้างเจดีย์องค์ใหญ่ และตามด้วยเจดีย์ขนาดเล็กที่สร้างโดยเหล่าขุนนาง หลดหลั่นขนาดกันลงมาตามยศฐาบรรดาศักดิ์แล้ว เจดีย์แห่งนี้ยังถือเป็นเจดีย์แห่งชัยชนะ ในโอกาสที่พม่ารบชนะมอญเป็นครั้งแรกอีกด้วย นอกเหนือจากความงดงามเจดีย์แห่งนี้ยังมีความเชื่อที่เล่าต่อๆกันมาอีกด้วยว่า หากเงาของพระเจดีย์นี้ล้ำออกนอกฐานแสดงว่าเป็นลางร้าย เนื่องจากเงาของเจดีย์จะไม่ล้ำออกนอกฐานสี่เหลี่ยม
นอกจากเจดีย์ชเวสิกองแล้ว ยังมีเจดีย์และจุดท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวอีกมาก เช่น วิหารชเวกูจี วัดพะยาตองซู เจดีย์ชเวซันดอ เจดีย์ตะเบียงนิว อานันทวิหาร เป็นต้น แต่หลังจากที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนเมืองทะเลเจดีย์แห่งนี้เป็นจำนวนมาก ทำให้กระทรวงวัฒนธรรมของพม่าประกาศ ห้ามไม่ให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปบนเจดีย์ทั่วทั้งเมือง ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2559 เพราะเกรงจะเกิดผลกระทบกับนักท่องเที่ยว และสิ่งปลูกสร้าง เนื่องจากเจดีย์เหล่านี้มีอายุกว่า 900 ปี รวมถึงการพบพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของนักท่องเที่ยวบางส่วน อาทิ การแต่งกายที่ไม่เหมาะสม การค้างแรมบนเจดีย์ หรือแม้แต่การจัดการละเล่นต่าง ๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสถานที่และวัฒนธรรม ทั้งนี้ หลังจากประกาศออกไปก็ทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก เนื่องจากนักท่องเที่ยวที่มายังพุกาม ต่างหวังจะได้ขึ้นไปชมทัศนียภาพของทะเลเจดีย์ในมุมสูง ส่งผลให้ในเวลาต่อมา ทางการได้ประกาศยกเว้น 5 เจดีย์ที่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมทิวทัศน์บนเจดีย์ได้ ได้แก่ Shwesandaw Thitsaw Wati Pyathard Gyi North Gunni และ South Gunni
การเดินทางเพื่อไปชมทะเลเจดีย์แห่งพุกามนั้น นักท่องเที่ยวสามารถโดยสารเครื่องบินจากกรุงเทพฯ มาลงที่สนามบินยองอู ซึ่งการเดินทางโดยเครื่องบินมายังพม่านั้น คนไทยจะได้รับการยกเว้นเรื่องวีซ่าท่องเที่ยว หากเดินทางมายังท่าอากาศยานนานาชาติกรุงเนปิดอร์ ย่างกุ้ง และมัณฑะเลย์ โดยมีเงื่อนไขต้องพำนักอยู่ไม่เกิน 14 วัน ฉะนั้นสามารถบินตรงจากไทยมายังสนามบินมัณฑะเลย์ได้เช่นกัน ซึ่งจากมัณฑะเลย์นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังพุกามได้โดย Taxi ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายต่อคนอยู่ที่ 7,500 จ๊าด หรือนั่งรถบัสโดยใช้เวลา 8 – 10 ชั่วโมง และเมื่อมาถึงพุกามสามารถชมบรรยากาศโดยรอบได้โดยการนั่งรถม้า ซึ่งมีค่าใช้จ่ายประมาณ 300 – 400 บาท หรือเช่ารถจักรยานขี่รอบเมืองก็ได้เช่นกัน และหากอยากสัมผัสบรรยากาศชมทะเลเจดีย์จากมุมสูง ก็สามารถติดต่อโรงแรมเพื่อขอใช้บริการนั่งบอลลูนชมวิวได้อีกด้วย
สกุลเงินที่ใช้ในประเทศพม่า คือสกุลจ๊าด (Kyat) การแลกเงินจากไทยสามารถแลกเป็นเงินสกุล USD ก่อน แล้วจึงนำเงิน USD ไปแลกเป็นเงินจ๊าดที่พม่า โดยเงิน USD ยังสามารถใช้จ่ายที่พม่าได้เลยในบางสถานที่ สำหรับค่าเข้าชมอาณาจักรโบราณพุกามนั้น นักท่องเที่ยวต่างชาติจะต้องเสียค่าเข้าชมคนละ 10 USD ซึ่งจะมีด่านตรวจกระจายอยู่ตามจุดต่างๆก่อนเข้าเมือง ทั้งสนามบิน ท่าเรือ สถานีรถไฟ และสถานีรถประจำทาง
หากใครมีความคิดที่จะไปเยือนพุกาม หรือพื้นที่อื่น ๆ ในพม่า แนะนำว่าควรแต่งกายให้เรียบร้อย เนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นสถานที่สำคัญทางศาสนา และการเลือกรองเท้านั้น ควรเลือกที่สวมใส่สบายและถอดง่ายใส่ง่าย เพราะทุกวัดจะต้องถอดรองเท้าและถุงเท้า หากใส่ที่ถอดยากใส่ยากมาล่ะก็ อาจจะพลอยทำให้งานกร่อยได้