DREAMAKER เว็บระดมทุนเพื่อ START UP
จะดีแค่ไหนหากมีธุรกิจที่ต้องการขยายแต่ติดปัญหาเรื่องการระดมทุนเพราะสายป่านไม่ยาวพอ
เนื่องจากเป็นธุรกิจเกิดใหม่ที่ยังไม่มีใครรู้จักหรือมีไอเดียในการสร้างโปรเจคแต่ยังไม่มีเงินทุนจะมีตัวกลางที่คอยเชื่อมประสานให้ระหว่างเจ้าของธุรกิจ หรือผู้คิดค้นโปรเจคและผู้ลงทุน
ความบังเอิญสู่ธุรกิจ
เอกสิทธิ์ เดี่ยววณิชย์ CEO และผู้ก่อตั้ง Dreamaker เล่าให้ฟังว่า ไอเดียในการคิด Dreamaker มาจากจุดเริ่มต้นในการพยายามหาซื้อของขวัญให้เพื่อนจากอินเตอร์เน็ตจนได้พบกับเว็บไซด์หนึ่งที่รวบรวมสินค้าที่นำสมัยและยังไม่มีในประเทศไทย โดยวูบแรกที่เห็นได้เกิดความคิดที่จะสั่งสินค้าเข้ามาขายในประเทศ แต่เมื่อลองค้นข้อมูลเข้าไปแบบเจาะลึกทำให้พบว่าสินค้านำสมัยดังกล่าวเหล่านี้ต่างเกิดขึ้นได้จากการระดมทุนบนเว็บไซด์ www.kickstarter.com ซึ่งเป็น Crowdfunding หรือนวัตกรรมการลงทุนที่ช่วยให้เข้าถึงเงินทุนได้เร็วและง่ายขึ้น ทำให้เปลี่ยนแนวคิดจากที่ต้องการนำเข้าสินค้ามาขาย เป็นการสร้างระบบปฏิบัติการหรือแพลตฟอร์มที่สามารถทำให้ไอเดีย หรือสินค้าใหม่ๆ เกิดขึ้นในประเทศไทยแทน
อย่างไรก็ดี ใช่ว่าเมื่อมีไอเดียแล้วทุกอย่างจะประสบความสำเร็จได้โดยง่าย เพราะการทำเรื่องดังกล่าวถือว่าเป็นเรื่องใหม่ในประเทศไทย เมื่อผสมผสานเข้ากับความที่ไม่เคยทำมาก่อน หลังจากที่รวบรวมทีมงานเริ่มต้นออกแบบเว็บไซด์ ดำเนินการทุกอย่างในช่วงเวลา 8 เดือน ผลตอบรับที่ได้กลับมาคือพังไม่เป็นท่า เรียกว่าที่ลงทุนลงแรงไปทั้งหมดสูญเปล่า
ทั้งนี้ ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จย่อมอยู่ที่นั่นหากมีความตั้งใจจริงคงเป็นคำจำกัดความที่ดีสำหรับ Dreamaker เมื่อเอกสิทธิ์รวบรวมความตั้งใจครั้งใหม่ ปลุกปั้นเว็บไซด์ขึ้นมาอีกครั้ง จนสำเร็จเมื่อช่วงกลางปี 2558 ซึ่งประจวบเหมาะกับที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ออกกฎหมายเกี่ยวกับการระดมทุนเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับธุรกิจขึ้นมา (Equity Crowdfunding) ซึ่งเว็บไซด์ Dreamaker ก็พร้อมเปิดให้บริการ
ระดมทุน 2 รูปแบบ
สำหรับการให้บริการของ Dreamaker จะมีอยู่ด้วยกัน 2 รูปแบบ ได้แก่ Reward Base ซึ่งจะเปิดโอกาสให้นำเสนอไอเดีย ระดมทุน และผลิต โดยที่ผู้เสนอไอเดียจะผลิตและมอบให้ผู้สนับสนุนตามสัดส่วนการลงทุนที่ระบุไว้ตั้งแต่แรกผ่านช่องทาง www.dreamaker.co.th โดยปัจจุบันสามารถทำให้ผู้นำเสนอไอเดียประสบความสำเร็จไปแล้ว 3 โปรเจค ซึ่งมีมูลค่าการระดมทุนตั้งแต่ 1 แสนบาท, 1.5 แสนบาท และ 2 แสนบาทตามลำดับ ขณะที่เวลานี้ก็อยู่อยู่ระว่างการดำเนินการอยู่อีก 1 โปรเจค ซึ่งมีมูลค่าการระดมทุนอยู่ที่ประมาณ 3 ล้านบาท และกำลังอยู่ระหว่างการรอเปิดระทุมอีกหลายโครงการในปีนี้และปีหน้า
ส่วนบริการอีกรูปแบบหนึ่งคือ Equity Base ที่จะเสนอให้ผู้สนับสนุนไอเดียเป็นผู้ถือหุ้น หรือเรียกว่าเป็นรูปแบบของการขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนครั้งแรก (IPO) ขนาดย่อมนอกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ต.ล.ท.) นั่นเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ในส่วนดังกล่าวนี้ยังไม่สามารถที่จะเปิดให้บริการได้ เนื่องจากผู้ที่จะทำหน้าที่ถือเงินจองซื้อจะต้องเป็นธนาคารและตัวบทกฎหมายยังไม่ตอบสนอง โดยมีไว้สำหรับถือเงินจองซื้อบ้านเท่านั้น แต่ล่าสุดช่วงปลายปีที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้มีการแก้ไขและมีประกาศย่อยออกมาในช่วงต้นปี 2559 ดังนั้น ช่วงเวลานี้เราเองจึงเร่งดำเนินการในส่วนของการเตรียมความพร้อมหลังบ้าน และการเชื่อมต่อระบบให้เรียบร้อย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาระหว่างการใช้งาน โดยเมื่อพร้อมก็จะไปลงทะเบียนขอเป็นเว็บเพื่อการระดมทุนกับ ก.ล.ต.
“แม้ว่าในส่วนของ Equity Base จะยังไม่ได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ แต่ก็มีเจ้าของธุรกิจเปิดหรือกลุ่มสตาร์ทอัพ (Start Up) ที่เดินเข้ามาหาเราที่ต้องการระดมทุน เช่นเดียวกับกลุ่มของนักลงทุนซึ่งมาสอบถามว่าจะเปิดเมื่อใด หรือมีบริษัทใดมาลงแล้วบ้าง ดังนั้น ตอนนี้เราก็เลยเป็นตัวกลางประสานให้ทั้ง 2 กลุ่มได้พบกันไปก่อน เมื่อมีบริษัทต้องการระดมทุนเรียกว่าเป็นการทำแบบออฟไลน์ แต่ไม่ได้เป็นการขายให้แก่ประชาชนทั่วไป เป็นรายใหญ่ที่ตกลงทำธุรกิจร่วมกัน โดยสามารถปิดโครงการไปได้แล้ว 3 โครงการ มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท”
ตั้งเป้าโตกว่า 5 เท่า
ด้านรายได้ของบริษัทนั้น เราจะเก็บ 5% จากปริมาณเงินระดมทุนที่ทำได้ ทั้งตัวที่เป็น Reward Base และ Equity Base โดยเก็บจากเจ้าของโปรเจคที่เข้ามาใช้ช่องทางของ Dreamaker ในการระดมทุน ซึ่งในส่วนของ Equity Base เราอาจจะเลือกเป็นขอหุ้นในบริษัทก็ได้ แล้วแต่จะสามารถตกลงกันได้ โดยการทำงานของบริษัทจะเน้นว่าต้องประสบความสำเร็จไปทีละโปรเจค จะไม่ดำเนินการในลักษณะของการทำหลายโปรเจคแล้วดูแลไม่ไหว
ส่วนเป้าหมายในอนาคตนั้น เอกสิทธิ์มองว่าในส่วนของ Reward Base ก็จะมีการขยายจำนวนของโปรเจคให้เพิ่มมากขึ้น รวมถึงทำให้มีความหลากหลายไปในหลายกลุ่ม จากเดิมที่ส่วนใหญ่ในช่วงเริ่มต้นจะเป็นโปรเจคเกี่ยวกับงานทำหนังสือเพื่อที่จะศึกษาตลาด เพราะเชื่อว่าปีนี้หรือปีหน้าเราต้องศึกษาตลาดให้คนทั่วไปเข้าใจก่อนว่า Crowdfunding มีจริงมีผู้ที่ทำได้จริงสามารถทำได้หลายแบบจริง
ขณะที่ในส่วนของ Equity Base ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้อย่างเร็วที่สุดคือปลายปีนี้ หรือช้าสุดก็คือปีหน้ามีการตั้งเป้าอัตราการเติบโตในการช่วยระดมทุนให้ได้ประมาณ 100 ล้านบาท หรือโตขึ้น 5 เท่า หลังจากที่ผ่านมาสามารถช่วยระดมทุนไปแล้วกว่า 20 ล้านบาท โดยเป็นเป้าหมายการเติบโตในระดับที่สตาร์ทอัพเติบโตกัน
เอกสิทธิ์ กล่าวปิดท้ายอย่างน่าสนใจว่า กุญแจสำคัญของสตาร์ทอัพไม่ใช่แค่ต้องการระดมทุน แต่การระดมทุนเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น โดยสิ่งที่สำคัญมากไปกว่านั้นก็คือ ความต้องการตลาด ต้องการยอดขาย ต้องการนักลงทุนที่มาลงทุนแล้วช่วยพาไปหาตลาดช่วยพาไปขายสินค้าได้หรือพาไปทำกำไรได้จริง ไม่ได้ต้องการแค่ว่ามีเงินทุนมาแล้วก็ไม่ได้ช่วยอะไร โดยสิ่งที่ต้องการนอกเหนือไปจากนี้ก็คือ ผู้ที่จะมาคอยแนะนำ หรือเป็นผู้ที่มีประสบการณ์คอยให้คำปรึกษาได้จริง หรือโค้ชที่มองสถานการณ์และแนวโน้มของตลาดได้ทะลุปรุโปร่ง เพราะแค่เงินระดมทุนที่ได้มาสตาร์ทอัพสามารถหาที่ไหนก็ได้.