ทรัมป์เลื่อนภาษีสินค้าจีน 2 สัปดาห์
เมื่อวันที่ 11 ก.ย. ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯทวีตข้อความว่า เขาจะเลื่อนกำหนดการเก็บภาษีเพิ่มเติมกับสินค้าจีนมูลค่า 250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากวันที่ 1 ต.ค.ออกไปเป็นวันที่ 15 ต.ค. เนื่องจากจีนมีท่าทีเป็นมิตรมากขึ้น
โดยทรัมป์ระบุว่า การเลื่อนจัดเก็บภาษีครั้งนี้เกิดจาก “ การร้องขอของรองนายกรัฐมนตรีหลิวเฮ่อของจีน และยังเป็นช่วงเวลาเฉลิมฉลองครบรอบ 70 ปีของสาธารณรัฐประชาชนจีนด้วย ”
อัตราภาษีนี้จะเพิ่มเป็น 30% จากเดิมอยู่ที่ 25% โดยทรัมป์มีกำหนดเข้าร่วมพูดคุยในการประชุมที่จะจัดขึ้นที่กรุงวอชิงตันช่วงต้นเดือนต.ค.นี้
ตลาดหุ้นล่วงหน้าสหรัฐฯปรับขึ้นกว่า 0.5% หลังข่าวการเลื่อนภาษี โดยดัชนีดาวโจนส์เปิดในแดนบวกกว่า150 จุดในวันที่ 12 ก.ย.
จากแหล่งข่าวของสื่อ CNBC ทรัมป์ต้องการขึ้นภาษีเป็นสองเท่ากับสินค้านำเข้าจากจีนในเดือนส.ค. หลังจากจีนมีการโต้ตอบครั้งล่าสุดในสงครามการค้า ก่อนที่จะขึ้นภาษีเพิ่มขึ้นด้วยมูลค่าน้อยกว่าที่ตั้งเป้าไว้ ทรัมป์ไม่พอใจหลังจากเขาทราบเมื่อวันที่ 23 ส.ค.ว่า จีนมีแผนจะขึ้นภาษีมูลค่า 75,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กับสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯเพื่อเป็นการตอบโต้มาตรการภาษีรอบใหม่ในวันที่ 1 ก.ย.จากสหรัฐฯ
สตีเวน มนูชิน รมว.กระทรวงการคลังสหรัฐฯ และโรเบิร์ต ไลไธเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯและบรรดาซีอีโอจำนวนมากพากันเรียกร้องและเตือนทรัมป์ถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับตลาดหลักทรัพย์และเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
ทรัมป์ตัดสินใจขึ้นภาษีเพิ่มอีก 5% มูลค่า 550,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กับสินค้าจีน ซึ่งเขาเคยทวีตในวันที่ 23 ส.ค.หลังจากปิดตลาด ไม่กี่วันต่อมา ทั้งรมว.มนูชินและสเตฟานี กริชแฮม โฆษกทำเนียบขาวระบุว่า สิ่งที่ทรัมป์เสียดายคือไม่ได้ขึ้นภาษีให้มากกว่านี้
เมื่อช่วงต้นเดือนก.ย. รมว.มนูชินระบุว่า สหรัฐฯและจีนมีกรอบความคิดเห็นของข้อตกลงในการแก้ไขความกังวล โดยเน้นว่ามีความก้าวหน้าในการเจรจาการค้า และมีกำหนดจะมีการประชุมในระดับสูงต้นเดือนต.ค.นี้
“ ผมคิดว่าอย่างน้อยเราได้คอนเซ็ปต์ของข้อตกลงแล้ว” มนูชินกล่าวให้สัมภาษณ์กับสื่อ Fox Business Work โดยเขายังได้เตือนว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่มีปัญหาที่จะขึ้นภาษ๊เพิ่มกับจีนอีกหากไม่สามารถบรรลุข้อตกลง.