SCBTปรับลดคาดการณ์จีดีพีไทยลงที่ร้อยละ 3
ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดปรับลดคาดการณ์จีดีพีไทยปี 2562 ลงมาที่ร้อยละ 3 และคาดธปท.ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงร้อยละ 0.25 ในการประชุมกนง.เดือนกันยายน
ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยลงมาที่ร้อยละ 3 จากร้อยละ 3.3 เนื่องจากเศรษฐกิจของไทยในครึ่งปีแรกเติบโตได้ต่ำกว่าที่ประเมินไว้ และคาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงร้อยละ 0.25 ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในเดือนกันยายน ตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่มีทิศทางผ่อนคลายทั่วโลก และเงินบาทที่ยังคงแข็งค่าขึ้น
ธนาคารแห่งประเทศไทยส่งสัญญาณจะใช้มาตรการเพื่อดูแลเรื่องหนี้สินครัวเรือน ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการบริโภคภายในประเทศ โดยยอดขายรถยนต์น่าจะได้รับผลกระทบ ประกอบกับในขณะที่การเบิกจ่ายงบประมาณปี 2563 น่าจะล่าช้าออกไปเป็นเดือนมกราคมปีหน้าจากเดิมที่น่าจะเริ่มต้นในเดือนตุลาคมปีนี้ สองปัจจัยนี้อาจจะเป็นปัจจัยด้านลบต่อเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปี ดร. ทิม ลีฬหะพันธุ์ นักเศรษฐศาสตร์ประจำธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด มหาชน กล่าว
นอกจากนี้ สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ยังคงส่งผลกระทบต่อภาคส่งออกและการลงทุน ดังนั้นธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดจึงปรับลดคาดการณ์จีดีพีของไทยในปี 2563 ลงมาที่ร้อยละ 3.5 (จากเดิมร้อยละ 4.0) และในปี 2564 จะอยู่ที่ร้อยละ 4.0 (จากเดิมร้อยละ 4.5) เพื่อสะท้อนภาพปัจจัยที่ต้องจับตามอง
ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดคาดว่าธปท.จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุม กนง. ในเดือนกันยายน ร้อยละ 0.25 เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายทั่วโลกมีทิศทางผ่อนคลายมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งสัญญาณจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ดังนั้นธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดจึงได้ปรับประมาณการอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ณ สิ้นปี 2562 ลงมาอยู่ที่ร้อยละ 1.25 จากเดิมที่เคยคาดไว้ที่ร้อยละ 1.50 โดยธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดคาดว่า ธปท. จะคงดอกเบี้ยนโยบายในปี 2563 และ 2564
แม้ว่าเราปรับลดประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในปี 2562 แต่เรายังคาดว่าในครึ่งปีหลัง เศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ดีกว่าครึ่งปีแรก การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธปท. น่าจะเป็นสัญญาณช่วยที่ดี ประกอบกับการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ซึ่งเป็นนโยบายการคลังที่น่าจะส่งผลให้เห็นภาพเศรษฐกิจดีขึ้นตั้งแต่ปลายไตรมาส 3 นี้ นอกจากนี้ ฐานการส่งออกและการท่องเที่ยวที่อยู่ในระดับต่ำในปีก่อนน่าจะทำให้ตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาสนี้ดีขึ้น