ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 18-19 ก.ย. 2566
นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ออกเดินทางไปร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ส
เรื่องที่ 2,870 นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ออกเดินทางไปร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 (78th Session of the United Nations General Assembly: UNGA78) ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 18 – 24 กันยายน 2566
ถือเป็นการปฏิบัติภารกิจนอกประเทศครั้งแรกของนายกฯเศรษฐา โดยจะเป็นโอกาสให้ได้พบหารือกับผู้นำต่างประเทศ ผู้นำองค์การระหว่างประเทศ บุคคลสำคัญ เพื่อกระชับความร่วมมือระหว่างประเทศ ทั้งผ่านกรอบทวิภาคี และพหุภาคี
นายกฯคนที่ 30 ของประกาศไทย ยังมีกำหนดการที่เกี่ยวข้องกับองค์การสหประชาชาติ อาทิ การกล่าวถ้อยแถลงในการอภิปรายทั่วไปการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 การกล่าว Welcoming Remarks ในกิจกรรมคู่ขนานระดับสูง ของประเทศไทย และอาเซียน ในหัวข้อ “Fostering Partnership for Our Common Future: Enhancing Multi-Stakeholder Partnerships to Accelerate the SDGs in ASEAN” ซึ่งประเทศไทย และ คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมสำหรับเอเชียและแปซิฟิกแห่งสหประชาชาติ (UNESCAP) ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ การกล่าวในกิจกรรมระดับผู้นำ Climate Ambition Summit และการเข้าร่วมการประชุม High-level Meeting on Global Development Initiative (GDI) Cooperation Outcome จะนำเสนอบทบาทของไทยด้านความร่วมมือเพื่อต่อสู้กับความท้าทายระหว่างประเทศในเรื่องสิ่งแวดล้อม และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
พร้อมกันนี้ จะพบหารือกับบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ของต่างประเทศ และมีกำหนดพบหารือกับผู้บริหารสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกาและอาเซียน (US-ASEAN Business Council: USABC) หอการค้าสหรัฐอเมริกา (US Chamber of Commerce: USCC) และภาคเอกชนสหรัฐฯ ซึ่งมีบริษัทเอกชนมาร่วมจำนวนมาก
เรื่องที่ 2,871 มีข่าวดีต่อเนื่องกันไปเลยสำหรับประชาชนคนไทย หลังจากที่สัปดาห์ก่อนคณะรัฐมนตรี หรือครม. อนุมัติให้ลดค่าไฟเหลือ 4.10 บาทต่อหน่วยไปแล้ว มาสัปดาห์นี้ล่าสุดให้ลดลงไปอีกเหลือ 3.99 บาทต่อหน่วย
งานนี้ไม่ธรรมดาเสียแล้วสำหรับท่านตุ๋ย “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน หรือรมว.พลังงาน ที่ทำนโยบายแบบปังๆไม่หยุด โดยมีการบอกถึงเบื้องหลังผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัวด้วยว่า
ได้รีบหารือกับผู้บริหารของ พน. และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) โดยเร่งด่วน มีความเห็นตรงกันว่าสามารถปรับลดค่าไฟฟ้าลงมาได้อีกในอัตราไม่เกินหน่วยละ 3.99 บาท หากเป็นนโยบายรัฐบาล โดย กกพ. จะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลต่อไป
แบบนี้คงต้องปรบมือดังๆรัวๆให้กับท่านตุ๋ยแบบยาวๆเลยล่ะขอรับ ให้สมกับที่ท่านประกาศลั่นว่า ทำอยู่ ทำต่อ ค่าไฟ 3.99 ยังไงจะรอติดตามผลงานต่อนะขอรับเจ้านาย
เรื่องที่ 2,872 วันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา มีเรื่องที่ต้องลุ้นกันยกใหญ่ หลังจากวันอังคารที่ 12 ก.ย. ครม.มีมติแต่งตั้ง “อธิบดีบัด-ลวรณ แสงสนิท” อธิบดีกรมสรรพากร เป็นปลัดกระทรวงการคลังไปแล้ว วันจันทร์ที่ 18 ก็ลุ้นกันว่า จะมีตำแหน่งอื่นๆ เข้า ครม.หรือไม่ โดยเฉพาะตำแหน่งอธิบดีกรมสรรพากร ที่เว้นว่างอยู่ในขณะนี้ แต่สุดท้ายแล้ว “ก็ไม่มี” ต้องขอยกยอดไปเป็นสัปดาห์หน้า สัปดาห์สุดท้ายของเดือนก.ย. วันที่ 26 นี้ ครับ!!
สำหรับบุคคลที่ควรเอยนาม ขึ้นเป็นอธิบดีกรมสรรพากร ยังเป็นสายตรงคือ “ดร.อุ๋ย-กุลยา ตันติเตมิท” อธิบดีกรมบัญชีกลาง เป็นอธิบดีกรมสรรพากรอย่างแน่นอน เพราะวงใน รายงานละเอียดยิบ จากปาก “นายกฯ” อุ๋ย…ๆๆๆๆ ทำนองนี้
ส่วนตำแหน่งอื่นๆ ล่าสุด “หม่อง-พชร อนันตศิลป์” อธิบดีกรมศุลกากร รอบนี้ รอดยาก ตอนนี้ เหมือนถูกย้ายไปแล้วครึ่งตัว อีกครึ่งรอคำสั่งจาก ครม.เพียงอย่างเดียว จะไปลงที่ไหน ถ้าผู้ตรวจฯ ก็ถือว่า หนักเกินไป !! รองปลัดคลังน่าจะไหว แต่ถ้าปลัดบัดไม่ไว้ใจ ก็ว่างงานอีก
เหมือนตอน “หม่อมเต่า-ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล อดีตปลัดกระทรวงการคลัง” ในสมัยนั้น ได้ขอ ครม.ย้าย “ปลัดไก่-ศุภชัย พิศิษฐวานิช” จากอธิบดีกรมศุลการมาเป็นรองปลัดกระทรวงนั้น พร้อมๆ กับซี10 อีกหลายคน กลายเป็นงานมหกรรมรุมสกรัม จาก รอ.สุชาติ เชาว์วิศิษฐ” และ “นิพัทธ์ พุกกะณะสุต” เพราะถูกย้านเหมือนกัน
“หม่องเต่า” จึงถูกลุมกินโต๊ะ อยู่ไม่ไหวขอลาออกจากราชการในที่สุด
สรุปข่าวต่างประเทศ
เรื่องที่ 2,873 จีนออกมาให้คำมั่นว่า จะเพิ่มการซื้อสินค้าจากประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังการเติบโตทางการค้าโดยรวมชะลอตัวลง เนื่องจากอุปสงค์ที่อ่อนแรงลงทั้งในระดับโลกและในประเทศ
นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีของจีนกล่าวในการประชุมธุรกิจร่วมกับคู่เจรจาจากอาเซียน (ASEAN) เมื่อวันอาทิตย์ (17 ก.ย.) ว่า “จีนพร้อมจะนำเข้าผลิตภัณฑ์จากประเทศต่าง ๆ ในอาเซียนเพิ่มมากขึ้น”
ทั้งนี้ จีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของทั้ง 10 ประเทศในอาเซียนมาตั้งแต่ปี 2563 โดยเวลานั้นเป็นช่วงที่ความขัดแย้งระหว่างจีนกับสหรัฐและประเทศพัฒนาแล้วอื่น ๆ ทวีความคุกรุ่น
ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2566 ยอดส่งออกของจีนปรับลดลง 5.6% เนื่องจากการทำการค้ากับสหรัฐและสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ ลดน้อยลง ส่วนการนำเข้าปรับตัวลดลง 7.6% ในช่วงเดียวกัน เนื่องจากยอดคำสั่งซื้อแผงจอแอลซีดี (LCD) และผลิตภัณฑ์เหล็กกล้าร่วงลง 27%
สมาคมผู้ผลิตยานยนต์จีน (CAAM) ระบุว่า ช่วง 7 เดือนแรกของปี 2566 ไทยและฟิลิปปินส์อยู่ใน 10 อันดับแรกผู้ซื้อรถยนต์รายใหญ่ของจีน โดยจีนมียอดขายเพิ่มขึ้น 74% แตะที่ 2.7 ล้านคัน
เรื่องที่ 2,874 กระทรวงกลาโหมไต้หวัน เปิดเผยวันนี้ (18 ก.ย.) ว่า กองทัพจีนได้ส่งเครื่องบินรบจำนวน 103 ลำมุ่งหน้ามายังเกาะไต้หวัน ภายในระยะเวลาเพียง 24 ชั่วโมง ซึ่งนับว่ามากที่สุดนับตั้งแต่มีการเริ่มบันทึกสถิติรายวันเมื่อไม่นานมานี้
กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุว่า เครื่องบินรบเหล่านั้นถูกตรวจพบในช่วงเวลา 6.00 น.ของวันอาทิตย์ที่ 17 ก.ย. จนถึง 6.00 น.ของวันจันทร์ที่ 18 ก.ย. ตามเวลาท้องถิ่น โดยเครื่องบินหักเลี้ยวกลับก่อนจะถึงไต้หวันตามธรรมเนียมปฏิบัติปกติ
จีน ซึ่งอ้างอธิปไตยเหนือดินแดนไต้หวัน ได้ดำเนินการซ้อมรบขนาดใหญ่ทั้งทางอากาศและทางน้ำรอบเกาะไต้หวันมากขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่ความตึงเครียดของทั้งสองดินแดนรวมถึงสหรัฐกำลังร้อนระอุขึ้น โดยสหรัฐถือเป็นผู้สนับสนุนหลักด้านอาวุธยุโธปกรณ์ให้กับไต้หวัน และคัดค้านความพยายามทุกรูปแบบในการเปลี่ยนสถานะของไต้หวันด้วยการใช้กำลัง
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วจีนได้ส่งกองเรือรบจำนวนหนึ่ง ซึ่งรวมถึง เรือบรรทุกเครื่องบินซานตงเข้าทำการซ้อมรับในน่านน้ำใกล้กับไต้หวัน โดยการซ้อมรบดังกล่าวมีขึ้นไม่นานหลังจากสหรัฐและแคนาดานำเรือรบแล่นผ่านช่องแคบไต้หวัน ซึ่งเป็นน่านน้ำที่คั่นกลางระหว่างเกาะไต้หวันและจีนแผ่นดินใหญ่
เรื่องที่ 2,875 สำนักข่าวซินหัวรายงานข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่น ระบุว่า จำนวนผู้มีอายุ 100 ปีขึ้นไปหรือ “ศตวรรษิกชน” ในญี่ปุ่นรวมอยู่ที่ 92,139 คน ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์ติดต่อกันเป็นปีที่ 53 แล้ว
รายงานระบุว่า สถิติดังกล่าวนับถึงวันศุกร์ที่ 15 ก.ย. และเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1,613 คน โดยผู้มีอายุ 100 ปีขึ้นไปของญี่ปุ่นแบ่งเป็นผู้หญิง 81,589 คน คิดเป็น 88.5% ของทั้งหมด และเป็นผู้ชาย 10,550 คน
ญี่ปุ่นมีผู้มีอายุ 100 ปีขึ้นไปเฉลี่ย 73.74 ต่อประชากรหนึ่งแสนคน ขณะผู้หญิงที่แก่ที่สุดในญี่ปุ่น ได้แก่ ฟูสะ ทัตซูมิ อายุ 116 ปี จากจังหวัดโอซากา ส่วนผู้ชายที่แก่ที่สุดในญี่ปุ่น ได้แก่ จิสะบูโร โซโนเบะ อายุ 111 ปี จากจังหวัดชิบะ
เรื่องที่ 2,876 สำนักข่าวอาร์ไอเอ โนวอสติ (RIA Novosti) ของรัสเซียรายงานเมื่อวันอาทิตย์ (17 ก.ย.) ว่า สหรัฐนำเข้าปุ๋ยจากรัสเซียมากสุดเป็นประวัติการณ์ที่มูลค่า 944 ล้านดอลลาร์สหรัฐระหว่างเดือนม.ค. – ก.ค. 2566
รายงานระบุว่า มูลค่าการส่งออกปุ๋ยรัสเซียไปยังสหรัฐเพิ่มขึ้น 5% ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่ 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดครั้งก่อน
อย่างไรก็ตาม สหรัฐนำเข้าปุ๋ยรัสเซียลดลงสามเท่าในเดือนก.ค. เมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2564
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รัสเซียเป็นผู้ส่งออกปุ๋ยรายใหญ่อันดับสองของสหรัฐในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ โดยเป็นรองจากแคนาดาเท่านั้น
โดยนพวัชร์