สรุปข่าวประจำวันที่ 16 ธันวาคม 2568
สรุปข่าวประจำวัน ยึดคืนตาควาย : พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เผยว่า ได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 เกี่ยวกับสถานการณ์การสู้รบว่า ปัจจุบันสามารถผลักดันทหารกัมพูชาออกจากบริเวณพื้นที่ “ตัวปราสาทตาควาย” และเข้าควบคุมพื้นที่ได้แล้ว ขณะที่ที่หมายสำคัญโดยรอบ โดยเฉพาะเนิน 350 และพื้นที่สูงข่มในบริเวณใกล้เคียง ยังคงอยู่ระหว่างการปฏิบัติการเข้าควบคุมพื้นที่ตามแผนดำเนินกลยุทธ์ อย่างไรก็ตาม ฝ่ายกัมพูชาได้ตอบโต้ด้วยการใช้อาวุธทุกชนิดระดมโจมตีพื้นที่ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อมุ่งทำลายกำลังฝ่ายไทยและพยายามช่วงชิงพื้นที่คืน ทำให้สถานการณ์ยังไม่อาจวางใจได้ และยังต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูงในการปฏิบัติการ
สรุปข่าวประจำวัน

ไม่ปิดอ่าวไทย :
พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ กล่าวยืนยันว่า กองทัพเรือไม่มีการปิดกั้นน่านน้ำไทย และไม่มีเจตนาเรื่องนี้ การดำเนินการของไทย เป็นไปเพื่อสกัดกั้นการส่งกำลังบำรุงและยุทธปัจจัยไปสู่กัมพูชาเท่านั้น เนื่องจากที่ผ่านมามีหลายบริษัทเดินเรือของไทย ที่ใช้เรือไทยลำเลียงน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปในพื้นที่กัมพูชา และกองทัพเรือพยายามพูดคุยกับบริษัทเหล่านั้น เพื่อขอความร่วมมือ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้จะมีการพิจารณาใน การประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) อีกครั้ง

กำหนดวันเลือกตั้ง :
คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.มีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอ
1. วันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ. 2569 เป็นวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
2. วันอาทิตย์ที่ 1 ก.พ. 2569 เป็นวันลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตเลือกตั้ง/นอกเขตเลือกตั้ง วันลงคะแนน ณ ที่เลือกตั้งสำหรับคนพิการหรือทุพพพลภาพ หรือผู้สูงอายุ
3. วันรับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง แบบบัญชีรายชื่อ และพรรคการเมืองแจ้งรายชื่อบุคคลที่จะแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ดังนี้
วันที่ 27 – 31 ธ.ค. 2568 เป็นวันสมัครสมาชิกสกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ณ สถานที่ที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำ เขตเลือกตั้งประกาศกำหนด
วันที่ 28 – 31 ธ.ค. 2568 เป็นวันรับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ ( เฉพาะพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัคร สส. แบบแบ่งเขต เลือกตั้งแล้วเท่านั้น ) และพรรคการเมืองแจ้งรายชื่อบุคคลที่จะแต่งตั้งตั้งเป็น นายกรัฐมนตรี ณ โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร
4. กำหนดระยะเวลาลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า (ในเขตเลือกตั้ง นอกเขตเลือกตั้ง / นอกราชอาณาจักร) ตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค. 2568 ถึงวันที่ 5 ม.ค. 2569
หุ้น ตปท.-ไทย :
ปิดตลาด (15 ธ.ค. ) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 8,416.56 จุด ลดลง 41.49 จุด (0.09%) แนสแด็ก ปิดที่ 25,067.27 จุด ลดลง 129.47จุด (0.51%) แอสแอนด์พี ปิดที่ 6,816.52 จุด ลดลง 10.89 จุด (0.16%) ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย ปิดตลาดที่ 1,273.40 จุด เพิ่มขึ้น 19.30 จุด (1.54%) มูลค่า 33,093.33 ล้านบาท
ทองคำขึ้น 250 บาท :
ราคาทองคำเมื่อวันที่ (15 ธ.ค.) มีประกาศของสมาคมค้าทองคำ ราคาทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 64,450.00 บาท ขายออกบาทละ 64,550.20 บาท ทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 63,156.56 บาท ขายออกบาทละ 65,350.00 บาท ราคาทองคำขึ้น 250 บาท เมื่อเทียบกับวันที่ 13 ธ.ค.
เงินบาทแข็งค่า :
สำหรับค่าเงินบาทเทียบเงินสกุลโลก วานนี้ (15 ธ.ค.) โดยธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารพาณิชย์ โดยให้เงินบาทมีค่า 31.6881 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ 42.5506 บาทต่อ 1 ปอนด์, 37.3454 บาทต่อ 1 ยูโร, 20.6083 บาท ต่อ 100 เยน, 4.0928 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ฮ่องกง ,กำหนดค่าเงินบาทที่ 24.7198 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สิงคโปร์ และ 7.8135 ต่อ 1 ริงกิต

BAM คว้าเรตติ้งหุ้นยั่งยืน “AAA” :
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BAM เปิดเผยว่า BAM ได้รับผลประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ระดับ “AAA” ในกลุ่มธุรกิจการเงิน (Financials) จากการประกาศผลประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ประจำปี 2568 ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่ให้ความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ยกระดับ การดำเนินงานภายใต้กรอบ ESG ครอบคลุมในทุกมิติ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม เศรษฐกิจและการกำกับดูแลกิจการ โดยคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน ตอบสนองวิสัยทัศน์

บางจาก แจง ไม่มีธุรกิจ–ขนส่งน้ำมันในกัมพูชา :
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ชี้แจงว่า บริษัทฯ ไม่มีการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศกัมพูชา โดยไม่มีการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงทั้งทางรถและทางเรือ สำหรับการจัดส่งน้ำมันไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เป็นการดำเนินการตามคำสั่งซื้อและเอกสารทางการค้าอย่างถูกต้องครบถ้วน โดยมีจุดหมายปลายทางตามที่ระบุไว้เท่านั้น ซึ่งเป็นไปตามมาตรการของหน่วยงานภาครัฐของประเทศนั้น ๆ ที่กำหนดให้การนำเข้า–ส่งออกและการขนส่งผ่านแดนน้ำมันเชื้อเพลิงต้องเป็นไปตามใบอนุญาตและพิธีการศุลกากรอย่างเคร่งครัด และห้ามการส่งต่อไปยังประเทศที่สาม

ปตท. ยืนยันไม่ได้ส่งน้ำมันให้กัมพูชา :
บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัทในกลุ่ม ชี้แจงเกี่ยวกับกรณีข่าวปรากฏในสื่อมวลชนและสื่อสังคมออนไลน์ ว่าพบการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงไปยังประเทศกัมพูชา ซึ่งขอยืนยันว่ากลุ่ม ปตท. ไม่มีการส่งออกน้ำมันไปที่ประเทศกัมพูชา
โดยมีนโยบายงดส่งออกตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2568 และถือปฏิบัติมาตั้งแต่เกิดสถานการณ์ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงพลังงาน ในการตระหนักถึงความมั่นคงของประเทศและพี่น้องประชาชนคนไทยเป็นสำคัญ
จีนเล็งอุดหนุนค่าคลอดบุตรเต็มจำนวน :
สำนักงานบริหารความมั่นคงด้านสุขภาพแห่งชาติของจีนระบุว่า รัฐบาลจีนเตรียมยกระดับสิทธิประโยชน์ทางการแพทย์เพื่อจูงใจให้คู่สมรสมีบุตรเพิ่มขึ้น โดยตั้งเป้าหมายที่จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการคลอดบุตรทั้งหมดภายในปี 2569 รายงานระบุว่า ภายในกรอบเวลาดังกล่าว จีนจะขยายความคุ้มครองให้ครอบคลุมค่าบริการทางการแพทย์ตามสิทธิประโยชน์ทั่วประเทศ รวมถึงการตรวจครรภ์และการดูแลก่อนคลอด เพื่อลดภาระ “ค่าใช้จ่ายส่วนเกินที่ต้องชำระเอง” (Out-of-pocket expenses) ของประชาชนให้เป็นศูนย์ มาตรการนี้เกิดขึ้นท่ามกลางปัญหาประชากรจีนลดลง โดยประชากรหดตัวครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษเมื่อปี 2565 และยังคงลดลงต่อเนื่องจนถึงปี 2567
อินเดียขาดดุลการค้าลดลงในเดือนพ.ย. :
ข้อมูลการนำเข้าและส่งออกซึ่งรัฐบาลอินเดียเผยแพร่วานนี้ (15 ธ.ค.) ระบุว่า ยอดขาดดุลการค้าสินค้าของอินเดียในเดือนพ.ย. ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 2.453 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ อันเป็นผลสืบเนื่องจากมูลค่าการนำเข้าทองคำ น้ำมัน และถ่านหินที่ลดปริมาณลง ตัวเลขดังกล่าวถือว่าต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ ซึ่งประเมินไว้ที่ 3.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และนับเป็นการปรับตัวลดลงจากยอดขาดดุลสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4.168 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนก่อนหน้า ในด้านการบริหารจัดการผลกระทบทางเศรษฐกิจ อันเกิดจากการตั้งกำแพงภาษีในอัตราสูงของสหรัฐฯ นั้น รัฐบาลของนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี ได้ประกาศใช้มาตรการรองรับต่าง ๆ ซึ่งประกอบด้วยการลดภาษีผู้บริโภค การจัดทำมาตรการส่งเสริมการส่งออก และการปฏิรูปแรงงาน
“กาเกา” สั่งพนักงานทำงานจากที่บ้าน :
กาเกา คอร์ป (Kakao Corp.) ผู้ให้บริการแอปส่งข้อความของเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า พนักงานทุกคนของบริษัทได้รับคำสั่งให้ทำงานจากที่บ้าน หลังถูกขู่วางระเบิดที่สำนักงานใหญ่ในเมืองพันกโย ทางตอนใต้ของกรุงโซล ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังกาเกาได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวกับคำขู่วางระเบิดดังกล่าว ซึ่งบริษัทได้รับจากศูนย์บริการลูกค้า เจ้าหน้าที่กาเกากล่าวว่า “เนื่องจากเราให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอันดับแรก เราจึงสั่งให้พนักงานทุกคนทำงานทางไกล”

“เจนสุดา” ฟาดอีกกรุบ :
ทำเอาโซเชียลต่างฮือฮาอีกครั้ง เมื่อดาราสาว เจนสุดา ปานโต ได้เคลื่อนไหวรูปภาพผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัว โดยเป็นภาพที่ เจนสุดา กำลังมุ่งมั่นตั้งใจกับการทำงาน พูดคุยและเลือกสีเพื่อนำมาใช้ในเสื้อผ้าแบรนด์ของเธอเอง แต่ที่ทำเอาสะดุดตาคงหนีไม่พ้นข้อความที่เจ้าตัวได้เขียนสั้นๆ ไว้ว่า “ซื่อสัตย์ ขยัน อดทน”, และในภาพต่อมา เจนสุดา ยังได้เขียนย้ำ “ทำงาน แบบไม่วางแผนช่อโกง” งานนี้เรียกว่าหลายคนต่างเข้ามากระหน่ำไลก์ให้อย่างรัวๆ
“เหลือเฟือ มกจ๊ก” สูญเสียหลานชาย :
โดย เหลือเฟือ มกจ๊ก ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก เหลือเฟือ ชาแนล1 ไว้ว่า “และแล้วรายที่ 7 ก็คือหลานผมเอง สดุดีทหารกล้า “หลานปลื้ม ธนรัตน์ จันทร์ประทัด” ไปเป็นทหารปีกว่าไม่ได้กลับบ้านเลย ปู่วิกับย่านกแก้วรอแต่หลานจะกลับ ปลื้มได้ทำหน้าที่ของปลื้มในการเป็นลูกผู้ชายคือชายชาติทหาร อย่างสมเกียรติสมศักดิ์ศรี ได้ดีที่สุดจนตัวตาย ญาติพี่น้องทุกคนเสียใจในการจากไปของหลาน และภูมิใจในความกล้าหาญที่เสียสละเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง ขอให้ปลื้มเดินทางไปสู่ภพภูมิที่ดี วีรบุรุษทหารกล้า“ปลื้ม ธนรัตน์ จันทร์ประทัด” พร้อมอัดคลิปเปิดใจว่า อยากฝากบอกผู้ใหญ่ให้มันจบตรงที่รุ่นหลานผม อย่าให้ไปถึงรุ่นลูกผมเลย ถ้าเลือกได้ไม่มีใครอยากตาย
ลอยลำชิงทอง :
ทีมชาติไทย เฉือนชนะ มาเลเซีย 10 คน หวุดหวิด 1-0 จากประตูชัยของ ยศกร บูรพา ในศึกฟุตบอลชายซีเกมส์ ครั้งที่ 33 รอบรองชนะเลิศ ทำให้ “ช้างศึก”ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ไปดวลกับ เวียดนาม ในวันพฤหัสบดีที่ 18 ธ.ค.นี้ เวลา 19.30 น. ส่วน “เสือเหลือง” ไปชิงเหรียญทองแดง กับ ฟิลิปปินส์
กรีฑาไทยสุดปัง :
ทีมผลัด 4×100 เมตรชายไทยเข้าเส้นชัย 38.28 วินาที ทุบสถิติประเทศไทยและซีเกมส์ ดีกว่าสถิติชิงแชมป์เอเชีย ส่ง “บิว ภูริพล บุญสอน” ผงาดคว้า 3 เหรียญทอง ทำลายสถิติครบทุกอีเวนต์สปีดในซีเกมส์เดียว
สุดยอด :
การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง ในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่อินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก เมื่อวันจันทร์ที่ 15 ธ.ค. 2568 เป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง ทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย แชมป์เก่า 16 สมัย พบกับ ทีมชาติเวียดนาม คู่ปรับสำคัญจากอาเซียน โดยวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย โชว์หัวใจแกร่ง ดวลเดือด 5 เซต แซงชนะ เวียดนาม 3-2 ป้องกันแชมป์ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 คว้าเหรียญทองสมัยที่ 17 ติดต่อกันอย่างยิ่งใหญ่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : กองทัพภาคที่ 2 แถลงแนวรบ 4 จว.อีสาน ยังระอุ ไทย-กัมพูชา ยังเปิดฉากยิงต่อเนื่อง


