สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 16 พ.ย. 68
สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ
1. สรุปสถานการณ์น้ำ และสภาพอากาศวันนี้ : ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน ส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีอากาศเย็นในตอนเช้า สำหรับภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน
คาดการณ์ : วันที่ 17 – 20 พ.ย. 68 ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองเกิดกับมีลมกระโชกแรงขึ้นในระยะแรก และหลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงอีกกับมีลมแรง ส่วนภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบน ประกอบกับจะมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันออกเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคใต้
2. สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 90% ของความจุเก็บกัก (72,149 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 83% (48,027 ล้าน ลบ.ม.)
3. คุณภาพน้ำ ณ จุดเฝ้าระวัง แม่น้ำสายหลัก
น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค แม่น้ำเจ้าพระยา ณ สถานีสูบน้ำสำแล จ.ปทุมธานี อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
น้ำเพื่อการเกษตร แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำแม่กลอง และแม่น้ำบางปะกง อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
4. ข่าวประชาสัมพันธ์ : วานนี้ (15 พ.ย. 68) นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำและวางแผนการบริหารจัดการน้ำเขื่อนภูมิพล โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิและผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุม ณ เขื่อนภูมิพล จ.ตาก และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ปรับลดการระบายน้ำของเขื่อนภูมิพลตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย. 68 จากเดิมระบายน้ำ 55 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวัน เหลือ 50 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน และในวันที่ 17 พ.ย. 68 ปรับลดลงเหลือ 45 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน จากนั้นให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) พิจารณาปรับการระบายน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยขอให้รักษาระดับน้ำในเขื่อนตามความเหมาะสมซึ่งการปรับลดการระบายน้ำในครั้งนี้จะช่วยให้ระดับน้ำในแม่น้ำปิงลดลงอีก 0.1- 0.15 เมตร
นอกจากนี้กรมชลประทานได้ดำเนินการผันน้ำเข้าระบบชลประทานฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออกอย่างเต็มประสิทธิภาพ คาดว่าจะสามารถลดการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาให้เหลือประมาณ 2,400 – 2,700 ลบ.ม. ต่อวินาที ได้ในช่วงวันที่ 20 – 24 พ.ย. 68 ซึ่งจะช่วยให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ลดลงอีก 0.4 – 0.75 เมตร โดยทุกหน่วยงานกำลังดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อเร่งช่วยเหลือประชาชนท้ายเขื่อนเจ้าพระยาที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมมาเป็นระยะเวลานาน
5. พื้นที่ประสบอุทกภัย : วันที่ 15 พ.ย. 68 เกิดสถานการณ์อุทกภัย ในพื้นที่ 13 จังหวัด 52 อำเภอ ได้แก่ จ.สุโขทัย (อ.เมืองฯ และสวรรคโลก) จ.พิษณุโลก (อ.บางระกำ) จ.นครสวรรค์ (อ.เมืองฯ ชุมแสง พยุหะคีรี และโกรกพระ) จ.อุทัยธานี (อ.เมืองฯ สว่างอารมณ์ บ้านไร่ ลานสัก ห้วยคต ทัพทัน และหนองฉาง) จ.สิงห์บุรี (อ.เมืองฯ อินทร์บุรี และพรหมบุรี) จ.ชัยนาท (อ.วัดสิงห์ มโนรมย์ เมืองฯ สรรคบุรี และสรรพยา) จ.อ่างทอง (อ.เมืองฯ ป่าโมก ไชโย และวิเศษชัยชาญ) จ.สุพรรณบุรี (อ.เมืองฯ บางปลาม้า สองพี่น้อง และอู่ทอง) จ.พระนครศรีอยุธยา(อ.เสนา ผักไห่ บางบาล บางไทร พระนครศรีอยุธยา บางปะอิน บางปะหัน บ้านแพรก ลาดบัวหลวง มหาราช และบางซ้าย) จ.ปทุมธานี (อ.เมืองฯ และสามโคก) จ.นนทบุรี (อ.เมืองฯ บางกรวย และปากเกร็ด) จ.นครปฐม (อ.บางเลน สามพราน นครชัยศรี กำแพงแสน ดอนตูม และเมืองฯ) จ.อุบลราชธานี (อ.เมืองฯ วารินชำราบ พิบูลมังสาหาร สว่างวีระวงศ์ ตระการพืชผล และดอนมดแดง)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 15 พ.ย. 68



