ตุนเงินไว้เลย “Easy E-Receipt” คลอดแล้ว
“จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” รมช.คลัง เผยมาตรการ Easy E-Receipt เสร็จเรียบร้อยแล้ว และพร้อมใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.จนถึงวันที่ 15 ก.พ.2567
ให้บุคคลธรรมดาสามารถหักลดหย่อนค่าซื้อสินค้า หรือบริการจากผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือผู้ประกอบการทั่วไปเฉพาะค่าซื้อหนังสือ e-Book และสินค้า OTOP ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 50,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2567 ถึงวันที่ 15 ก.พ.2567 โดยต้องมีหลักฐานใบกํากับภาษีหรือใบรับ
อิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt)
วัตถุประสงค์ของมาตรการ
1.สนับสนุนการบริโภคภายในประเทศในช่วงต้นปี 2567 เพิ่มเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ และเป็น แรงส่งให้ เศรษฐกิจในภาพรวมขยายตัวได้ อย่างต่อเนื่องและมั่นคง คาดว่า จะทําให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น มูลค่าประมาณ 70,000 ล้านบาท
2.จากคาดการณ์มาตรการ “Easy E-Receipt” จะช่วยให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) เพิ่มขึ้นประมาณ 0.18% เมื่อเทียบกับกรณีไม่มีมาตรการ นอกจากนี้ ยังส่งผลให้สามารถจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มได้เพิ่มขึ้นจํานวนหนึ่ง
3.ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้าเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และสนับสนุนการใช้ระบบภาษี อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะเป็นการขยายฐานภาษี และสนับสนุนการใช้ระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการจัดเก็บรายได้ภาษีของรัฐในระยะยาว
ร้านค้าที่เข้าร่วมมาตรการ Easy E-Receipt (ผู้ขายสินค้า )
ต้องเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือผู้ประกอบการทั่วไปเฉพาะค้าซื้อหนังสือ e-Book และสินค้า OTOP และสามารถออกใบกํากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านระบบ e-Tax Invoice and e-Receipt หรือ ระบบ e-Tax Invoice by Email
ประโยชน์ของการออกใบกํากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์
1.สร้างความน่าเชื่อถือของร้านค้าในการประกอบธุรกิจ ช่วยให้มั่นใจได้ว่า การส่งใบกํากับภาษีและใบเสร็จรับเงินนั้นจะเป็นไปอย่างถูกต้อง ใบกํากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ มีความน่าเชื่อถือและตรวจสอบได้
2.ลดภาระในการจัดเตรียมเอกสารเพื่อยื่นแบบแสดงรายการและเสียภาษต่อกรมสรรพากร
3.ช่วยให้ธุรกิจสามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบ แนวปฏิบัติด้านภาษี และปรับปรุงกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับภาษีได้ อย่างสะดวกรวดเร็ว
บุคคลธรรมดาที่เข้าร่วมโครงการ (ผู้ซื้อสินค้า)
ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ไม่รวมถึง ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล ประโยชน์ของการซื้อสินค้าและบริการจากร้านค้าที่ออกใบกํากับภาษีอิเลกทรอนิกส์ในช่วงมาตรการ
1.ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี สามารถนํามาใช$หักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามมาตรการ Easy E-Receipt สําหรับปีภาษี 2567 ซึ่งมีกําหนดการยื่นแบบ ภ.ง.ด.90/91 ระหว่างวันที่ 1 ม.ค.2568 – 31 มี.ค.2568 ได้สูงสุดถึง 50,000 บาท
2.ลดภาระการจัดเก็บเอกสารประกอบการยื่นแบบภ.ง.ด.90/91 ปีภาษี 2567 ที่มีกําหนดการยื่นแบบ ภ.ง.ด.90/91 ระหว่างวันที่ 1 ม.ค.2568–31 มี.ค.2568 เพราะกรมสรรพากรจะจัดเตรียมข้อมูลค่าซื้อสินค้า หรือบริการจากใบกํากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ผู้เสียภาษีสามารถเลือกรายการที่จะใช้หักลดหย่อน และกรมสรรพากรจะจัดวางข้อมูล (Pre-Fill) บนแบบ ภ.ง.ด.90/91 โดยอัตโนมัติ
3.ใบกํากับภาษีที่ได้รับมีความน่าเชื่อถือ สามารถตรวจสอบความถูกต้องได้ทันที ไม่มีความเสี่ยงจากการได้รับใบกํากับ ภาษีปลอม
หลักเกณฑ์
1 ให้หักลดหย่อนค่าซื้อสินค้า หรือค่าบริการในราชอาณาจักรจากผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และได้รับใบกํากับภาษีแบบเต็มรูปตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากรในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) หรือจากผู้ขาย สินค้าหรือผู้ให้บริการที่ไม่เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียน ภาษีมูลค่าเพิ่มและได้รับใบรับตามมาตรา 105 แห่งประมวลรัษฎากรในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2567 ถึงวันที่ 15 ก.พ.2567 ตามจํานวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 50,000 บาท ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดี กรมสรรพากรประกาศกําหนด
2.กรณีการซื้อสินค้าหรือการรับบริการจากผู้ขายสินค$าหรือผู้ให้บริการที่ไม่เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ต้องเป็นค่าซื้อสินค้า หรือค่าบริการดังต่อไปนี้
1.ค่าซื้อหนังสือ หนังสือพิมพ์ และนิตยสาร
2.ค่าบริการหนังสือ หนังสือพิมพ์ และนิตยสารที่อยู่ในรูปของข$อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ อินเทอ์เนต
3.ค่าซื้อสินค้าหนึ่งตําบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ซึ่งได้ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชน
3.ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการนี้ ไม่รวมถึง
1. ค่าซื้อสุรา เบียร์ และไวน์
2. ค่าซื้อยาสูบ
3. ค่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ
4. ค่าน้ำมัน และก๊าซ สําหรับเติมยานพาหนะ
5. ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์ และค่าบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต
6. ค่าบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการและผู้รับบริการสามารถใช้บริการดังกล่าว นอกเหนือจากระยะเวลา ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2567 ถึงวันที่ 15 ก.พ. 2567
7. ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย