ต่างชาติเที่ยวไทย 10 เดือนทะลุ 23 ล้านคน
• มาเลฯ ครองแชมป์อันดับ 1 เกือบ 4 ล้านคน
• ททท.ฝันหวานปลายปีทะลักเข้าช่วงไฮซีซั่น
• นักท่องเที่ยวจีน หล่นตุ้บยังไม่ถึง3 ล้านคน
น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา (13-19 พ.ย. 66) ภาพรวมไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 612,904 คน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 1,783 คน คิดเป็น 0.29% คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 87,558 คน
สำหรับ 5 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติ มาเลเซีย เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทยมากที่สุด 83,900 คน รองลงมาได้แก่ จีน 72,693 คน รัสเซีย 41,408 คน อินเดีย 38,466 คนและเกาหลีใต้ 34,397 คน
ทั้งนี้ กลุ่มนักท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียใต้มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก คิดเป็น 36.98% หรือเพิ่มขึ้น 11,979 คน จากสัปดาห์ก่อนหน้า เนื่องจากการมีวันหยุดต่อเนื่อง อาทิ การออกเดินทางท่องเที่ยวหลังสิ้นสุดเทศกาลดิวาลี (Diwali) ของอินเดีย ส่งผลให้นักท่องเที่ยวชาวอินเดียที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวไทยขยับเพิ่มขึ้นมาเป็นอันดับที่ 4 และมาตรการยกเว้นวีซ่าของไทย อีกทั้งมีการฟื้นตัวของตลาดระยะใกล้ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวอินเดีย จีน และเกาหลีใต้
ส่วนในสัปดาห์นี้ คาดว่านักท่องเที่ยวจะปรับตัวเพิ่มขึ้น จากจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาว เป็นปัจจัยส่งเสริมการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวยุโรป และเอเชียตะวันออก การเพิ่มการอำนวยความสะดวก โดยการยกเลิกบัตร ตม.6 ณ ด่านสะเดา เป็นการชั่วคราว การมีวันหยุดต่อเนื่องในเทศกาลดิวาลีของอินเดีย การยกเว้นการตรวจลงตราหนังสือเดินทาง หรือวีซ่าฟรี ให้แก่นักท่องเที่ยวชาวจีน คาซัคสถาน อินเดีย และไต้หวัน รวมถึงการขยายวันพำนักให้กับนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย
ทั้งนี้ การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวระหว่างประเทศและในประเทศ ยังคงได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น และอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากเหตุความขัดแย้ง ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ตลอดจนภาวะสงครามของอิสราเอลที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง
ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 66 ที่ผ่านมา ทั้งสิ้น 23,854,242 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว 1,010,206 ล้านบาท โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทยมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 มาเลเซีย 3,908,345 คน รองลงมา คือ จีน 2,975,155 คน เกาหลีใต้ 1,410,355 คน อินเดีย 1,393,178 คน และรัสเซีย 1,211,611 คน ตามลำดับ