รัฐบาลเตือนคนไทยท่องเที่ยวช่วงหยุดยาวตรวจ ATK ก่อนทำงาน
โฆษกรัฐบาลเผยนายกฯ ห่วงใยผู้ติดเชื้อโควิด-19 วอนประชาชนร่วมมือหลังเดินทางกลับจากท่องเที่ยว /ข้ามจังหวัด หรือไปพื้นที่เสี่ยงช่วงหยุดยาว ขอให้เฝ้าสังเกตอาการตนเองอย่างใกล้ชิดหากพบอาการน่าสงสัยให้ตรวจ ATK ก่อนเข้าทำงาน
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้รับทราบรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ในไทย อาจมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ขอความร่วมมือประชาชนหลังเดินทางกลับจากการไปท่องเที่ยวและทำบุญตามสถานที่ต่าง ๆ หรือเดินทางข้ามจังหวัด ในช่วงวันหยุดยาว ปฏิบัติตนตามคำแนะนำด้านสาธารณสุข สังเกตอาการตนเองอย่างใกล้ชิด หากพบอาการสงสัยน่าจะติดเชื้อ เช่น ไอ เจ็บคอ มีไข้ ปวดกล้ามเนื้อ มีน้ำมูก ปวดศรีษะ หายใจลำบาก ขอให้ตรวจ ATK ก่อนกลับเข้าทำงาน หากเป็นผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด -19 ขอให้กักตัวเองอยู่ที่พัก หลีกเลี่ยงการพบปะ รวมกลุ่มคนจำนวนมาก หากมีความจำเป็นจริงๆ ต้องออกจากบ้าน เช่น การเดินทางไปโรงพยาบาลขอให้สวมหน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่า หนึ่งในมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดที่ดีที่สุด คือ ทุกคนต้องช่วยลดความเสี่ยงการแพร่เชื้อและรับเชื้อ เพื่อช่วยลดจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงและไม่เกิดเป็นระลอกใหญ่ขึ้นมาอีก
“หากตรวจ ATK แล้วผลเป็นบวกว่าติดเชื้อโควิด-19 กลุ่มที่มีอาการไม่มากหรือกลุ่มสีเขียวให้เข้ารักษาที่แผนกผู้ป่วยนอกที่หน่วยบริการประจําตามสิทธิ หรือหน่วยบริการปฐมภูมิในพื้นที่ตามนโยบาย 30 บาท รักษาทุกที่ ซึ่งจะได้รับการดูแลรักษาตามแนวทาง “เจอ แจก จบ” โดยให้กักตัว 5 วัน แบบ Home Isolation และอีก 5 วัน ให้สังเกตอาการ ซึ่งสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยต้องสวมหน้ากากอนามัยป้องกันเมื่อออกจากบ้าน และเมื่อกลับเข้าทำงาน สำหรับผู้เป็นกลุ่มเสี่ยงสูง ให้แจ้งหัวหน้างาน และปฏิบัติตามมาตรการของหน่วยงานที่กำหนดไว้” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 วันนี้ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ผู้ป่วยรายใหม่ (รักษาตัวในโรงพยาบาล) จำนวน 2,028 ราย โดยเป็นผู้ป่วยในประเทศ 2,028 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 2,335,594 ราย (ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2565) ขณะที่หายป่วยกลับบ้าน 2,578 ราย รวมหายป่วยสะสม 2,336,240 ราย (ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2565) โดยมีผู้ป่วยกำลังรักษา 23,299 ราย และเสียชีวิต 18 ราย จำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 785 ราย ส่วนภาพรวมการฉีดวัคซีนโควิด-19 สรุปจำนวนผู้ที่ได้รับวัคซีนสะสม ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. 2564 – 15 ก.ค. 2565 รวมทั้งสิ้น 140, 674,938 โดส (รวมยอดสะสมการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด – 19 แก่กลุ่มเด็กอายุ 5 – 11 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. – 15 ก.ค. 2565 จำนวน 5,361,510 โดส) จำแนกเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 57,057,622โดส วัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 53,329,863โดส และวัคซีนเข็มที่ 3 (ขึ้นไป) จำนวน 30,287,453 โดส