ศึกชิงคลื่น 4G ร้อน เปิดเกมใหม่ธุรกิจสื่อสาร

เมื่อถึงคราวเทคโนโลยีสื่อสารเปลี่ยน พร้อมกับสัมปทานคลื่นวิทยุหมดลงพร้อมๆ กัน ศึกการชิงคลื่นความถี่เพื่อใช้กับเทคโนโลยี 4G ในคราวนี้ก็ร้อนแรงยิ่งนัก การเปิดสัมปทานใหม่คลื่น 1800 MHz และ 900 MHz จึงเป็นการประมูลคลื่นความถี่ที่ต้องแย่งชิงกันให้ได้ อย่างน้อยก็เพื่อรักษาฐานลูกค้า แต่ถ้าโชคดีก็จะได้ฐานลูกค้าเพิ่ม จากนั้นค่อยไปทำกำไรจากบริการที่แต่ละค่ายมือถือจะปล่อยหมัดเด็ดออกมา
ทำไมต้องแย่งชิงคลื่นความถี่
คำตอบสำหรับเรื่องคลื่นความถี่ว่าทำไม่ถึงต้องแย่งชิงกัน ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของการรักษาฐานลูกค้าที่หายไปจากการหมดสัมปทาน เช่น คลื่นความถี่ 1800 MHz ที่เคยเป็นของ TRUE และ DPC (กลุ่มเดียวกับ AIS) ซึ่งหลังจากการประมูลจบลง ผู้ที่ได้ครอบครองก็คือ TRUE และ AIS
TRUE ในปัจจุบันมีคลื่นความถี่ที่อยู่ในครอบครอง 2100 MHz 850 MHz (เข้าซื้อกิจการ HUTCH) และล่าสุด 1800 MHz ยิ่งมีคลื่นความถี่มาก ก็ย่อมรองรับฐานผู้ใช้ได้มากขึ้น แต่ก็ต้องดูอุปกรณ์รองรับด้วยเช่นกัน หากได้ครอบครองคลื่นความถี่ที่มีอุปกรณ์รองรับไม่มาก การทำการตลาดก็คงไม่มีประสิทธิภาพเท่าไรนัก เช่น คลื่อความถี่ 850 MHz เป็นต้น แต่เหตุผลที่ TRUE จำต้องเข้าซื้อกิจการ HUTCH ก็เพราะคลื่นความถี่ของตนกำลังหมดสัมปทาน และการประมูล 3G ในยุคนั้นก็ดูท่าจะยืดเยื้อไม่รู้ชัดว่าจะได้ประมูลทันหรือไม่ แต่พอถึงปัจจุบัน ก็เรียกได้ว่า TRUE มีคลื่นความถี่มากสุด
AIS จำต้องแย่งชิงการประมูล 4G ในครั้งนี้ให้ได้เพราะ อย่างน้อยก็ดึงคลื่นความถี่ 1800 MHz กลับคืนมา และสัมปทานคลื่นความถี่ 900MHz ที่ให้บริการ 2G ในปัจจุบัน กำลังจะหมดลง และคาดว่าเปิดประมูลใหม่ในปี พ.ศ.2561
DTAC ไม่ได้ให้ความสนใจที่จะประมูลคลื่นความถี่ 1800 MHz ในครั้งนี้ เพราะยังมีระยะเวลาสัมปทานเหลืออยู่ น่าจะมุ่งความสนใจไปที่การประมูลคลื่นความถี่ 900 MHz ที่น่าจะเกิดขึ้นในปี พ.ศ.2561
ส่วนในกลุ่มนอกสังเวียน TOT และ CAT ก็ไม่น่าจะให้ความสำคัญกับ 4G มากนัก เพราะด้วยศักยภาพด้านการตลาดแล้ว ก็คงไม่สามารถแย่งส่วนแบ่งการตลาดมาจาก AIS DTAC และ TRUE ได้เท่าไรนัก หันไปมุ่งเน้นบริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ และจุดบริการ Wi-Fi สาธารณะมากกว่า ส่วนผู้บริการรายเล็กๆ อย่าง Jusmin ก็คงไม่สามารถแข่งขันกับรายใหญ่ได้ คงเป็นได้เพียงไม้ประดับในการประมูลเท่านั้น
คลื่นความถี่ และจำนวนเลขหมายโทรศัพท์มีความสัมพันธ์กัน แต่ก็มีข้อกำหนดไว้เช่นกันว่า ผู้ให้บริการที่ได้รับสัมปทานจะถือครองความคลื่นความถี่รวมแล้วไม่เกิน 60 MHz ซึ่งผู้ให้บริการแต่ละค่ายจะต้องเดินหน้าสะสมคลื่นความถี่ให้มากที่สุด ก็จะสามารถรองรับการให้บริการลูกค้าได้มากเช่นกัน
4G ดีอย่างไร
ด้วยเทคโนโลยี 4G LTE ใช้เทคนิคการรวมหลายย่านความถี่เพื่อใช้ในการส่งข้อมูลคราวเดียว นั่นหมายความว่าผู้ให้บริการ 4G สามารถใช้ทุกย่านความถี่ที่มีให้การส่งสัญญาน 4G ได้หมด ซึ่งทำให้ส่งข้อมูลได้เร็วขึ้น และรองรับจำนวนผู้ใช้ในจุดเดียวกันได้มากขึ้นถึง 10 เท่า ดังนั้นในช่วงแรกๆ จะเป็นการผสมผสานกันระหว่างเทคโนโลยี 3G และ 4G ในพื้นที่ ที่มีความหนาแน่นสูง เช่น เขตเมือง หมู่บ้าน คอนโดมิเนียม แหล่งชุมชนต่างๆ เทคโนโลยี 4G จะรองรับได้ดีมาก แต่สำหรับพื้นที่ห่างไกลเช่น ทางหลวง รถไฟ หมู่บ้าน ป่าเขา ชายทะเล หรือที่ชุมชนไม่หนาแน่น ก็ยังคงใช้ 3G 2100 MHz ไปก่อนจนหมดระยะเวลาสัมปทาน ซึ่งก็เป็นเวลาอีกนานนับ 10 ปี เมื่อ 4G มีเทคโนโลยีที่ทำให้อัตราการรับส่งข้อมูลเร็วขึ้นอย่างมาก ส่งผลให้การให้บริการดิจิตอลแบบใหม่ๆ ก็จะเกิดขึ้นเช่นกัน
พฤติกรรมการสื่อสารของสังคมสมัยนี้ มีการใช้ข้อมูลมากขึ้น สังเกตุได้จากรอบตัวเราใครๆ ก็ใช้สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์พกพาที่ต่ออินเทอร์เน็ตได้ทุกหนแห่ง มีสังคมออนไลน์ของตนเองที่ต้องแบ่งปันประสบการณ์กับเพื่อนๆ และพี่น้อง ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นรูปถ่าย คลิปวิดีโอ หรือไฟล์เสียง ซึ่งเครือข่าย 4G สามารถรองรับความต้องการเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ผู้ให้บริการสามารถนำเสนอบริการเสริมใหม่ๆ ที่สามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นได้อย่างมาก ในอนาคตค่าบริการจากการโทรด้วยเสียงอาจจะไม่ใช่รายได้หลัก แต่ค่าใช้อินเทอร์เน็ต และบริการเสริมจะเป็นรายได้ส่วนใหญ่ของบริษัท สรุปได้ว่า 4G ไม่ได้ดีสำหรับผู้ใช้เท่านั้น แต่สำหรับผู้ให้บริการแล้ว ก็ยังสามารถขายบริการด้านข้อมูล และบริการเสริมได้อีกมาก
4G สร้างรายได้มหาศาลจากสังคมดิจิตอล
อย่างที่ได้กล่าวมาข้างต้นว่า เทคโนโลยี 4G ทำให้การรับส่งข้อมูล เร็วขึ้น มากขึ้น ทำให้การเข้าข้อมูลออนไลน์ด้วยอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเป็นไปได้ดีขึ้น จะมีบริการออไลน์ใหม่ๆ เกิดขึ้น
Personal Cloud Storage
บริการพื้นที่เก็บข้อมูลออนไลน์ ยุคมือถือมีกล้องทำให้เราสร้างภาพถ่ายจำนวนมากมายจากชีวิตประจำวัน จนทำให้โทรศัพท์สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต เก็บกันไม่พอ ทำให้เราต้องซื้อพื้นที่เก็บภาพถ่าย คลิปวิดีโอ เพลง หรือภาพยนต์ที่ซื้อมา ให้เพียงพอกับความต้องการ ซึ่งไร้ขีดจำกัด และจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของผู้ใช้บริการที่ต้องมี
Mobile Entertainment
การให้บริการด้านสื่อบันเทิงที่ติดตัวไปทุกหนแห่ง บริการเช่าภาพยนต์ออนไลน์ที่เป็นเหมือนโรงภาพยนต์ส่วนตัวที่สร้างความบันเทิงได้ทุกแห่งมีทั้งค่าบริการแบบเหมาจ่ายรายปี หรือจะเช่าดูเป็นเรื่องๆ ก็ได้ มีภาพยนต์เป็นหมื่นๆเรื่องรอให้เลือกชมกัน หรือจะเลือกดูทีวีสดๆ ผ่านระบบ IPTV ที่ให้ความคมชัดระดับ HD ที่ทำให้คนที่ชอบโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกทั้งเคเบิ้ล และดาวเทียมหันมาใช้บริการ IPTV กันแน่นอน สำหรับคนชอบฟังเพลงมีวิทยุออนไลน์ให้เลือกเพลงที่ต้องการฟังกันอย่างจุใจ จะฟังออนไลน์สดๆ หรือซื้อดาวน์โหลดเก็บไว้ในเครื่องก็ย่อมได้ นอกจากนั้นยังมีเรื่องของเกมออนไลน์ที่สร้างความบันเทิงให้กับคนที่ชอบสายเกมได้เล่นกันบนมือถือที่สะใจขึ้น เพราะจะมีเกมที่อังการงานสร้างมัลติมีเดียสามมิติมาให้เล่นกันอย่างจุใจ
Multimedia Communications
การสื่อสารแบบวิดีโอคอลเห็นหน้ากันจะมีความชัด และราบลื่นมากขึ้น ทำประชุมออนไลน์กันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภาพชัด เสียงชัด ส่งไฟล์ถึงกันได้ในขณะสนทนา เป็นประโยชน์ในด้านธุรกิจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการทำโมบายออฟฟิศที่จะลดการเดินทาง พื้นที่สำนักงาน อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานเพราะทำได้ทุกแห่งที่มี 4G
Education & Learning
ห้องเรียนเสมือนจริงที่ทำให้เรามีห้องเรียนติดตัวไปทุกหนแห่ง ดูคลิปวิดีโอการสอนย้อนหลัง การชมการสอนแบบสดๆ การประชุมหารือกับอาจารย์ และเพื่อนในชั้นเรียนผ่านออนไลน์ ต่อจากนี้มหาวิทยาลัยก็จะนำเสนอการเรียนแบบ E-Learning ซึ่งในปัจจุบันก็เริ่มมีให้เห็นกันมากขึ้นในหลายสถาบัน หรือแม้แต่การเรียนรู้ด้วยตนเองผ่าน YouTube
Finance & Banking
บริการด้านการเงินออนไลน์ ได้สร้างรายได้จำนวนมากให้กับธนาคารและผู้ให้บริการด้านการเงินดิจิตอล เพราะการซื้อสินค้าในระบบอีคอมเมิรซ์จะใช้การชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ ประกอบกับแอปพลิเคชั่นธนาคาร และการเงินดิจิตอลมีความสามารถ และปลอดภัยมากขึ้น ลูกค้าให้ความไว้วางใจในการทำธุรกรรม ผู้ให้บริการมือถือจะร่วมมือกับธนาคารในการพัฒนาแอพลิเคชั่นทางการเงินเพื่อการใช้จ่ายที่สะดวกขึ้นบนโลกออนไลน์ภายใต้แบรนด์ใหม่ๆ
ผู้ให้บริการมือถือจะลงมาสร้างบริการดิจิตอลร่วมกับเจ้าของผลิตภัณฑ์ต่างๆ มากขึ้น เพื่อถึงส่วนแบ่งรายได้จากบริการต่างๆ ในรูปแบบของ Profit Sharing ที่ทำให้บริการบนโลกออฟไลน์พลิกโฉมสู่โลกออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว
ประเทศไทยกับการพัฒนาไอซีทีบนเวทีโลก
ปริมาณการใช้บริการข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่าต่อเนื่องในช่วงระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา จนล่าสุดสหพันธ์โทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) ได้ทำการจัดอันดับประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 74 ของประเทศที่มีการพัฒนาด้านไอซีทีจาก 167 ประเทศทั่วโลก ซึ่งเมื่อ 5 ปีที่แล้วประเทศไทยถูกจัดอยู่ในลำดับที่ 92 และเป็นประเทศที่มีการพัฒนาไอซีทีแบบก้าวกระโดดอันดับ 1 ในเอเชียแปซิฟิก การพัฒนาเทคโนโลยีโทรคมนาคม 4G ให้มีใช้ในประเทศไทย จะเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนจากต่างประเทศถึงศักยภาพในการเชื่อมต่อกัประเทศทั่วโลกได้ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ และสังคม การประมูลคลื่นความถี่ยังคงมีต่อในปี พ.ศ.2561 กับคลื่นความถี่ 900 MHz