ลุ้น!ทุบสถิติใหม่-ลุ้นจ่ายเงินรับแต้มสะสม
คนไทยแห่จองสิทธิ์ฯวันที่ 3 รอรับเงิน 1,000 บาทผ่านมาตรการ “ชิมช้อปใช้” ทำลายสถิติ 2 วันแรกอย่างราบคาบ จบที่เวลา 06.18 น. จับตาวันพรุ่งนี้ (26 ก.ย.) ยังจะสร้างสถิติใหม่ได้หรือไม่? เผยมีโอกาสต่อยอด “ใช้เงิน – รับแต้ม” แลกสิทธิ์พิเศษ หวังดันไทยเข้าสู่สังคมไร้เงินสดเร็วขึ้น
แค่มีคนสมัครลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิ์ในวงเงิน 1,000 บาท จากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ “ชิมช้อปใช้” วันละ 1 ล้านคน “เต็มลิมิต” ก็ถือว่า…เกินความหมายกันแล้ว
แต่ที่เหนือความหมายยิ่งกว่า…น่าจะเป็นห้วงเวลา ซึ่งแม้ว่า…วันแรก (23 ก.ย.62) ของการลงทะเบียนฯ จะคลุกคลั่ก เนื่องเพราะระบบปฏิบัติการที่ธนาคารกรุงไทย “ดีไซน์” เอาไว้ รองรับผู้สมัครพร้อมกันในเวลาเดียวกัน แค่ชม.ละ 50,000 คน จนเกิดอาการ คล้ายกับจะล่ม! แต่ผู้บริหารระดับสูงในทุกองค์กรที่เกี่ยวข้อง ต่างอ้างว่า…เป็นแค่อาการ “หน่วง” ของระบบปฏิบัติการเท่านั้น
ทว่าหลังจากนั้น ไม่นาน…ราวเวลา 13.43 น.ของวันที่ 23 ก.ย.62 ปรากฏว่า มีคนสมัครครบ 1 ล้านคนไปแล้ว พอวันรุ่งขึ้น ซึ่งเป็นวันที่ 2 (24 ก.ย.62) ของการเปิดรับลงทะเบียนฯ เวลาที่ใช้กลับน้อยกว่าวันแรก กล่าวคือ เต็ม 1 ล้านคน ตั้งแต่เวลา 08.11 น. เร็วกว่านั้นในวันที่ 3 (25 ก.ย.62) ของการเปิดรับลงทะเบียนฯ พบว่า…ครบ 1 ล้านคน ไปเมื่อเวลา 06.18 น. เท่านั้นเอง
อะไรมันจะขนาดนั้น!!??
ทีมงานเว็บไซต์ AEC10NEWS ลองสมัครลงทะเบียนฯ ตั้งแต่วันแรก…นับแต่ช่วงเวลา 00.15 น.ของคืนวันที่ 22 ก.ค. แต่ถือว่าเป็น “วันใหม่” (23 ก.ค.62) พบความจริงที่ว่า…ระบบไม่สามารถรองรับคลื่นมหาชนที่แห่แหนเข้าไปสมัครลงทะเบียนฯกันอย่างแน่นขนัดได้ และไม่ว่าจะลองสมัครเข้าไปในช่วงเวลาใด? ก็ต้องรอคิวจนแทบไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่น
ผ่านวันที่ 1…ผ่านวัน 2 กระทั่ง ล่วงสู่วันที่ 3 หรือหลังเที่ยงคืนของวันที่ 24 ก.ย. และนับเป็นเช้าของวันที่ 25 ก.ย. แต่ก็ยังไม่อาจจะ “ฝ่าด่านอรหันต์” เข้าไปสมัครเป็น 1 ใน 1 ล้านคน (ที่ 3 หรือ 1 ใน 3 ล้านคนแรก) ได้ ต้องพักนอน แล้วรอจนถึงเวลา 05.15 น. จึงจะสมัครลงทะเบียนฯได้ และหลังจากนั้น เพียงแค่ 1 ชม.เศษ ยอดผู้สมัครของวัน ก็ครบ 1 ล้านคน อย่างที่รู้ๆ กัน
จะว่าไปแล้ว คนออกแบบระบบ อย่าง ธนาคารกรุงไทย ก็ไม่คิดว่า…จะมีคลื่นมหาชนคนไทย แห่แหนสมัครกันมากมาย ขนาดที่ นายผยง ศรีวณิช กก.ผจก.ใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ต้องเร่งสั่งการให้ลูกทีมทำการปรับระบบรองรับการสมัครลงทะเบียนฯ พร้อมในคราวเดียวกัน สูงสุดถึง 200,000 คน/ชม.
มากกว่านั้น คนคิดมาตรการฯนี้ อย่าง นายลวรณ แสงสนิท ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และมีดีกรีเป็นถึง “โฆษกกระทรวงการคลัง” เอง ก็ไม่คิดเช่นกันว่า…จะมีผู้สมัครเต็ม 1 ล้านคนในทุกๆ วัน แถมยังใช้เวลาเพียงไม่นานก็เต็ม “เพดาน” กันแล้ว
ถือว่า…มาตรการ “ชิมช้อปใช้” ถูกใจคนไทยอย่างที่สุด! ส่วนจะต่อยอดและขยายผลกันอย่างไรต่อไปนั้น คงต้องลุ้นกันว่า…ใน 10 วันแรกของการเปิดรับลงทะเบียนฯ ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. – 2 ต.ค.62 ยังจะเต็ม 1 ล้านคนในทุกวันที่เหลือหรือไม่?
ถ้าเต็มอย่างที่ เว็บไซต์ AEC10NEWS ได้เขียนวิเคราะห์เอาไว้ เมื่อวานนี้ (24 ก.ย.62) คนไทยอาจได้เห็นการขยายจำนวนผู้รับสิทธิ์จาก 10 ล้านคน จะเป็นเท่าไหร่ไม่รู้? แต่คงไม่ต่ำกว่าอีก 10 ล้านคนแน่ๆ ด้วยเหตุผลที่ว่า…เฉพาะแค่สมาชิกผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ก็ปาเข้าไปกว่า 14 ล้านคนแล้ว
นับรวมกับคนที่ไม่ได้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และมีสิทธิ์จะได้รับเงินจากมาตรการ “ชิมช้อปใช้” อีกกว่า 40 ล้านคนแล้ว แค่ 20 ล้านคนที่ได้รับเงิน 1,000 บาท ยังจะดูน้อยเกินไปด้วยซ้ำ!
เอาเป็นว่า…เรื่องจำนวนผู้รับสิทธิ์ฯ จะมีเพิ่มขึ้นจากเดิม 10 ล้านคนหรือไม่? ในเมื่อวันสุดท้ายของการเปิดรับลงทะเบียนฯ คือวันที่ 15 พ.ย.62 หรือยังจำนวนวันอีกราว 44 วัน นับจาก 10 วันแรก (2 ต.ค.62) กรณีที่มีผู้สมัครลงทะเบียนฯครบ 1 ล้านคนในทุกวัน…
คงได้วัดใจ คนระดับ รมว.คลัง (นายอุตตม สาวนายน), รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) ไปจนถึง นายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประยุทธิ์ จันทร์โอชา) กันบ้าง?
หัวใจของมาตรการ “ชิมช้อปใช้” กลายเป็นว่า…ไปตกอยู่กับ กรมบัญชีกลาง ที่มี น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ นั่งเก้าอี้อธิบดีฯ เนื่องเพราะ BIG DATA ทั้งมวล ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลพฤติกรรมการใช้จ่ายของคน ในมาตรการดังกล่าว รวมถึงประเภทของสินค้าและบริการ, ประเภทร้านค้าที่คนไทยแห่แหนไปใช้บริการ ฯลฯ ทั้งหมดทั้งมวล จะตกอยู่กับกรมบัญชีกลางทั้งหมด เพียงหน่วยงานเดียว!
เรื่องนี้ ทั้งนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะ ปธ.กก.ธนาคารกรุงไทย และนายผยง ศรีวณิช กก.ผจก.ใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ต่างพูดตรงกัน! ทำนอง…ธนาคารกรุงไทยเป็นเพียงคนออกแบบและดูแลระบบให้เท่านั้น ส่วนหน่วยงานที่จะเข้าถึง BIG DATA ทั้งหมด คือ กรมบัญชีกลาง เท่านั้น
เมื่อถามว่า…มีโอกาสที่ขยายจำนวนผู้รับสิทธิ์ลงทะเบียนฯเพิ่มเติมหรือไม่? กก.ผจก.ใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ต้องขึ้นกับฝ่ายนโยบายเพียง ธนาคารกรุงไทยเป็นเพียงผู้ปฏิบัติ แต่ก็พร้อมจะปฏิบัติตามนโยบายของกระทรวงการคลังและฝ่ายการเมือง
ส่วนมุมมองที่ว่า…ในเมื่อรัฐบาลเอง ก็มีนโยบายจะผลักดันให้ประเทศไทย ก้าวสู่ “สังคมไร้เงินสด” ขณะที่คนไทยส่วนใหญ่ต่างให้ความสนใจกับมาตรการ “ชิมช้อปใช้” โดยมีธนาคารกรุงไทย เป็น “หัวเรือใหญ่” ในเรื่องของระบบการรับและชำระเงิน ผ่าน e Payment นั้น โอกาสจะ “ต่อยอด” มาตรการนี้ ด้วยการให้แต้ม…ให้คะแนน แลกเป็นเงินสด หรือสะสมแลกสิทธิพิเศษ แก่ผู้ใช้แอปฯ “เป๋าตัง” (ลูกค้า) และ “ถุงเงิน” (ร้านค้า) หรือไม่?
นายผยงกล่าวว่า เป็นเรื่องที่ฝ่ายนโยบายจะตัดสินใจเอง แต่ส่วนตัวมองว่า…อนาคตรูปแบบของการสร้างแรงจูงใจ เพื่อผลักดันให้ประเทศไทย ก้าวสู่ “สังคมไร้เงินสด” ได้เร็วขึ้นนั้น ก็น่าจะมีโอกาสที่ผู้ใช้จ่ายเงินผ่านระบบ e Payment ด้วยแอปฯ “เป๋าตัง” และ “ถุงเงิน” ได้รับสิทธิพิเศษ เช่นเดียวกับที่ลูกค้าบัตรเครดิตชั้นนำของธนาคารพาณิชย์ได้รับ
น่าสนใจว่า…ในวันพรุ่งนี้ (26 ก.ย.62) ซึ่งเป็นวันที่ 4 ของการเปิดรับลงทะเบียนฯนั้น ยอดผู้สมัครของวันจะเต็ม 1 ล้านคน ได้หรือไม่? และจะใช้เวลาต่ำกว่า 3 แรกก่อนหน้านี้หรือเปล่า?
กระแสตอบรับของคนไทย กับมาตรการ “ชิมช้อปใช้” มาแรงแซงทุกทางโค้งอย่างนี้…หากรัฐบาล “ไม่ตีเหล็กตอนร้อน” ก็ไม่รู้จะพูดอะไรอีกแล้ว!!!.