ครม.ประยุทธ์ ทิ้งทวน มาราธอน 7 ชั่วโมง 74 วาระ เทกระจาด 1.8 แสนล้าน
คณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่งหัวโต๊ะ เทกระจาด-อนุมัติโครงการทั้งที่เป็นเงินงบประมาณและการชดเชยดอกเบี้ยให้แบงก์รัฐ-สูญเสียรายได้จากการจัดเก็บภาษี ทั้งหมดกว่า 184,872 ล้านบาท
ไม่นับรวมวงเงินสินเชื่อ 1 หมื่นล้าน-กรอบงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 วงเงิน 3.35 ล้านล้านบาท ที่ “มัดจำ” ไว้ให้กับรัฐบาลใหม่ หากพรรคเพื่อไทยตกม้าตายตอนจบ ส่ง “ขั้วรัฐบาลเดิม” ได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง
ตัวจริง-ตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาลบรรจุวาระเข้าครม. เป็นวาระจร 24 วาระ เรื่องเพื่อพิจารณา 29 วาระ เรื่องเพื่อทราบ 5 วาระ เรื่องเพื่อทราบ หากไม่มีข้อทักท้วงให้ถือเป็นเรื่องที่ ครม.เห็นชอบหรืออนุมัติ 14 วาระ เรื่องทราบเพื่อเป็นข้อมูล 2 วาระ
พรรคของพล.อ.ประยุทธ์-รวมไทยสร้างชาติ โครงการโคล้านครอบครัว ให้กับกองทุนหมู่บ้าน และชุมชนเมืองแห่งชาติ จำนวน 79,610 กองทุน วงเงิน 5,000 ล้านบาท
โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำร่วมกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ ชุดที่ 1 วงเงิน 863 ล้านบาทโครงการยกระดับความช่วยเหลือส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม สำหรับผู้ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ อีก 20 บาท/คน/3 เดือน ในช่วงเดือนเม.ย. – มิ.ย. 2566 ผู้ใช้สิทธิ 7.5 ล้านราย วงเงิน 150 ล้านบาท
ขยายระยะเวลาปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 5 บาท ออกไปอีก 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค. – 20 ก.ค. 2566 คาดว่ารัฐจะสูญเสียรายได้ประมาณ 20,000 ล้านบาทโครงการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยในชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาระบบราง วงเงิน 7,718 ล้านบาท
ปรับเพิ่มอัตราเงินตอบแทนตำแหน่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายปกครอง และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ วงเงิน 4,795 ล้านบาทต่อปี
นอกจากนี้ยังเห็นชอบหลักการร่างระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยเงินค่าตอบแทนนายกองค์การบริหารส่วนตำบล รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบล รองประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบล สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตำบล และเลขานุการสภาองค์การบริหาร ส่วนตำบล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. โดยให้จ่ายค่าตอบแทนตามบัญชีอัตราค่าตอบแทนใหม่ตั้งแต่ วันที่ 1 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป
เงินค่าตอบแทนที่ปรับเพิ่มในครั้งนี้ จะใช้งบประมาณจากรายได้ของอบต. จากเดิม 9,522.05 ล้านบาท เป็น 13,774.69 ล้านบาท ที่เพิ่มขึ้นจากเงินค่าตอบแทนปัจจุบัน 4,252 ล้านบาท
พรรคพลังประชารัฐ อนุมัติหลักการให้บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด(มหาชน) ดำเนินโครงการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 4G/5G บนคลื่น 700 เมกะเฮิรตซ์(MHz) วงเงิน 61,628 ล้านบาท
โครงการแก้ไขปัญหาอุทกภัยระยะเร่งด่วนในพื้นที่เจ้าพระยาใหญ่ในปี พ.ศ. 2566 จำนวน 84 รายการ วงเงิน 723ล้านบาท
อนุมัติ งบกลาง 66 ขุดลอกและบำรุงรักษาร่องน้ำชายฝั่งทะเลที่ร่องน้ำปากพนัง อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ของกรมเจ้าท่า วงเงิน 144 ล้านบาท
พรรคประชาธิปัตย์ โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2565/2566 วงเงิน 716 ล้านบาท และมาตรการคู่ขนาน-โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร รัฐบาลชดเชยวงเงิน 30 ล้านบาท โครงการประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปีการผลิต 2566 วงเงิน 224 ล้านบาท
โครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟู และพัฒนาเกษตรกรลูกหนี้ธนาคารของรัฐ 4 แห่ง เกษตรกรกลุ่มเป้าหมาย 50,621 ราย วงเงิน 15,481 ล้านบาท
ยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ทำการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในที่จับสัตว์น้ำซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน คาดว่าการยกเว้นค่าธรรมเนียมจะทำให้รัฐสูญเสียรายได้ ประมาณ 50 ล้านบาท
ยกเว้นค่าอากรใบอนุญาตให้ใช้เครื่องมือทำการประมง และค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทำการประมงพื้นบ้าน คาดว่าการยกเว้นค่าอากรและค่าธรรมเนียมจะทำให้รัฐสูญเสียรายได้ ประมาณ 6 ล้านบาท
พรรคภูมิใจไทย โครงการทางพิเศษฉลองรัชส่วนต่อขยาย (ช่วงจตุโชติ-ถนนลำลูกกา) ระยะทาง 16.21 กิโลเมตร มูลค่าการลงทุน 24,060 ล้านบาท
โครงการจัดแสดงนิทรรศการในงาน Expo 2025 Osaka Kansai ระหว่างวันที่ 13 เม.ย. – 13 ต.ค. 68 ณ นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น วงเงิน 867 ล้านบาท
พรรครวมพลัง โครงการฟื้นฟู เตรียมความพร้อม และเสริมสร้างความเข้มแข็งของกลุ่มวิสาหกิจเริ่มต้น (สตาร์ทอัพ) กลุ่มอาชีพในชุมชนเขตจังหวัดภาคอีสาน ตามแนวทางเศรษฐกิจ BCG วงเงิน 514 ล้านบาท
อนุมัติแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด รวมทั้งสิ้น 1,747 โครงการ วงเงิน 41,903 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังอนุมัติ “ข้อเสนอ” โครงการของส่วนราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ที่สอดคล้องกับเป้าหมายและแนวทางการพัฒนาภาค พ.ศ.2566-70 รวม 364 โครงการ วงเงิน 787,765 ล้านบาท
ภาคเหนือ 105 โครงการ 223,656 ล้านบาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 111 โครงการ 348,487 ล้านบาท ภาคกลาง 129 โครงการ 1,386 ล้านบาท ภาคตะวันออก 31 โครงการ วงเงิน 86,424 ล้านบาท ภาคใต้ 57 โครงการ 124,733 ล้านบาท ภาคใต้ชายแดน 31 โครงการ 3,076 ล้านบาท
รวมถึงการเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงิน 3.35 ล้านล้านบาท แบ่งออกเป็นพรรคการเมือง
โควตาพล.อ.ประยุทธ์ – งบกลางเงินสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นที่นายกรัฐมนตรีคนต่อไปมีอำนาจใช้จ่าย วงเงิน 93,000 ล้านบาท กระทรวงกลาโหม 198,562 ล้านบาท
กระทรวงการคลัง 313,822 ล้านบาท กระทรวงการต่างประเทศ 7,555 ล้านบาท กระทรวงพลังงาน 3,026 ล้านบาท กระทรวงมหาดไทย 351,985 ล้านบาท
พรรครัฐมนตรีที่ย้ายไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ-รักษาการแทนรัฐมนตรีที่ย้ายไปอยู่พรรคเพื่อไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 25,261 ล้านบาท กระทรวงยุติธรรม 26,048.0 ล้านบาท กระทรวงอุตสาหกรรม 4,645 ล้านบาท กระทรวงแรงงาน 61,841 ล้านบาท กระทรวงวัฒนธรรม 7,004 ล้านบาท
พลังประชารัฐ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม 8,639 ล้านบาท กระทรวงศึกษาธิการ 330,512 ล้านบาท
พรรคภูมิใจไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 5,764 ล้านบาท กระทรวงคมนาคม 183,950 ล้านบาท กระทรวงสาธารณสุข 170,369.2 ล้านบาท พรรคประชาธิปัตย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 117,142 ล้านบาท กระทรวงพาณิชย์ 6,680 ล้านบาท
พรรครวมพลัง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม 127,669 ล้านบาท พรรคชาติไทยพัฒนา กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 31,977 ล้านบาท
ครม.พล.อ.ประยุทธ์และพรรครัฐบาล ทิ้งทวน-เทกระจาด ก่อนยุบสภา 20 มี.ค. 2566 เพื่อต่อทุน-ต่อยอดในการเลือกตั้ง 66