ผลงานพรรครัฐบาลบิ๊กตู่ ปีที่ 3 คู่มือหาเสียงเลือกตั้ง
รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้าสู่ 4 เดือนสุดท้ายก่อนสภาครบวาระในวันที่ 23 มีนาคม 2566
3 ปีที่ผ่านมารัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ที่ประกอบด้วย 5 พรรคร่วมรัฐบาล ผลงานเข้าเป้าบ้าง-ผิดเป้าบ้าง สวนทางการเกมการเมืองที่เข้าตาทุกเม็ด-ทุกดอก ไม่มีใครยอมใคร
ผลงานที่เชิดหน้าชูตารัฐบาลพล.อ.ประยุทธ-พรรครัฐบาลในช่วงปีที่ 3 ไว้ใช้ต่อยอดหาเสียงในการเลือกตั้งคราวหน้า อาทิ โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิดารแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน จำนวน 14 ล้านคน ระยะเวลา 3 เดือน รวม 4 ระยะ
ระยะที่ 1 เดือนตุลาคม – ธันวาคม 2563 จำนวน 500 บาทต่อคนต่อเดือน ระยะที่ 2 เดือนมกราคม – มีนาคม 2564 จำนวน 500 บาทต่อคนต่อเดือน ระยะที่ 3 เดือนกรกฎาคม – ธันวาคม 2564 จำนวน 200 บาทต่อคนต่อเดือน และระยะที่ 4 เดือนกุมภาพันธ์ – เมษายน 2565 จำนวน 200 บาทต่อคนต่อเดือน
โครงการคนละครึ่ง ได้รับสิทธิ์ภาครัฐร่วมจ่ายร้อยละ 50 หรือ ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน 4 ระยะ ระยะที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2563 ประชาชนเข้าร่วมโครงการไม่เกิน 10 ล้านคน ไม่เกิน 3,000 บาทต่อคน
ระยะที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 มีนาคม 2564 ประชาชนเข้าร่วมโครงการไม่เกิน 15 ล้านคน ไม่เกิน 3,500 บาทต่อคน ระยะที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฏาคม- 31 ธันวาคม 2564 ประชาชนเข้าร่วมโครงการไม่เกิน 31 ล้านคน ไม่เกิน 1,500 บาทต่อคน ในแต่ละรอบ รอบละ 3 เดือน หรือ ไม่เกิน 3,000 บาทต่อคน
ระยะที่ 4 ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์-30 เมษายน 2565 ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการจากระยะที่ 3 และลงทะเบียนใหม่ 1 ล้านคน ไม่เกิน 1,200 บาทต่อคน ในแต่ละรอบ รอบละ 3 เดือน หรือ ไม่เกิน 2,400 บาทต่อคน
โครงการเราเที่ยวด้วยกัน 4 ระยะ ผู้เข้าร่วมโครงการได้รับส่วนลดค่าที่พักร้อยละ 40 จำนวน 10 คืนต่อคน 2 ล้านสิทธิ คูปอง 600 บาทต่อวัน เงินคืนค่าตั๋วเครื่องบินไม่เกิน 3,000 บาท
ได้ขยายสิทธิโครงการอีก 1.5 ล้านสิทธิ และขยายระยะเวลาโครงการจากเดิมสิ้นสุดวันที่ 31 พฤษภาคม 2565 เป็นวันที่ 30 ตุลาคม 2565
โครงการทัวร์เที่ยวไทย รัฐบาลสนับสนุนค่าเดินทางของประชาชนในลักษณะร่วมจ่าย (Co-pay) ร้อยละ 40 ของค่าใช้จ่ายแพ็กเกจนำเที่ยว แต่ไม่เกิน 5,000 บาท 2 แสนสิทธิ ได้ขยายระยะเวลาสิ้นสุดในวันที่ 31 ตุลาคม 2565
รวมถึงผลงานรัฐมนตรีที่พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้แต่งตั้งเข้ามาอย่างนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานที่ประสานกับนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
มาตรการบรรเทาผลกระทบจากราคาพลังงาน ลดภาษีสรรพสามิตดีเซลลงลิตรละ 3 บาท ถึง 20 พฤษภาคม 2565 รักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร อุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลร้อยละ 50 ส่วนที่เกิน 35 บาทต่อลิตร
โครงการวินเซฟ-ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ 44,651 คน รับส่วนลดค่าน้ำมันเบนซิน รถแท็กซี่โครงการเอ็นจีวีเพื่อลมหายใจเดียวกัน ซื้อก๊าซ NGV ราคา 13.62 บาทต่อกิโลกรัม ตรึงราคาขายปลีก NGV รถทั่วไป 15.59 บาทต่อกิโลกรัม
ผู้ใช้ก๊าซหุงต้มที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 3.6 ล้านคน เพิ่มเงิน 100 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน พ่อค้าหาบแร่แผงลอยฯ ได้รับส่วนลด 100 บาทต่อคนต่อเดือน ผู้ใช้ไฟฟ้า 20 ล้านครัวเรือน ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วย ได้รับส่วนลดค่าไฟฟ้า 4 เดือน
พรรคพลังประชารัฐ ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าพรรค สมกับม็อตโต้ “ไม่รู้ แต่ไม่แล้ง” มาตรการป้องกันภัยแล้ง-อุทกภัย มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2565 อาทิ ซ่อมแซม-ปรับปรุงอาคารชลศาสตร์ 1,261 แห่ง ระบบระบายน้ำ สถานีโทรมาตรให้พร้อมใช้งาน 950 แห่ง
ปรับปรุงแก้ไขสิ่งกีดขวางทางน้ำ ขุดลอกคูคลองและกำจัดผักตบชวา จัดสรรทรัพยากร เครื่องสูบน้ำ 2,198 เครื่อง เครื่องผลักน้ำ 617 เครื่อง รถบรรทุกน้ำ 315 เครื่อง เครื่องจักรกลสนับสนุน 2,219 หน่วย ตั้งศูนย์ส่วนหน้าก่อนเกิดเหตุ 2 แห่ง
ผลงานของรัฐมนตรีสังกัดพลังประชารัฐ สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน – ส.ส.ชลบุรี และผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐ อาทิ มาตรการเพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีว่างงาน ช่วยเหลือผู้ประกันตนมาตรา 33 กรณีว่างงานจากเหตุสุดวิสัย จำนวน 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 ร้อยละ 62 ครั้งที่ 2 ร้อยละ 50 ของค่าจ้างที่ส่งเงินสมทบ จ่ายให้ไม่เกิน 90 วัน
ปรับเพิ่มประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานเนื่องจากถูกเลิกจ้าง ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ ร้อยละ 70 ของค่าจ้างรายวัน ครั้งละไม่เกิน 200 วัน กรณีลาออก-สิ้นสุดสัญญาจ้าง ได้รับทดแทนการขาดรายได้ ร้อยละ 45 ของค่าจ้างรายวัน ครั้งละไม่เกิน 90 วัน
มาตรการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนมาตร 33 – 9 กิจการ ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด นายจ้างได้รับเงิน 3,000 บาท ต่อผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่เป็นลูกจ้างของนายจ้าง 1 คน สูงสุดไม่เกิน 200 คน ต่อ 1 เดือน และผู้ประกันตนมาตรา 33 สัญชาติไทยได้รับเงินเยียวยา 2,500 บาท ต่อคนต่อเดือน
นายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 จำนวน 11.2 ล้านคน ลดเงินนำส่งจากร้อยละ 5 เหลือร้อยละ 1 ผู้ประกันตนมาตรา 39 จำนวน 1.9 ล้านคน ลดเงินนำส่งจากร้อยละ 9 เหลือร้อยละ 1.9 หรือ จาก 432 บาทต่อเดือน เหลือ 91 บาทต่อเดือน
กลุ่มสามมิตรส่งนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเข้าประกวด โครงการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับระหว่างเจ้าหนี้และเจ้าหนี้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย จำนวน 32,889 เรื่อง ทุนทรัพย์ 12,668.36 ล้านบาท ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 32,045 เรื่อง ทุนทรัพย์ 11,871.24 ล้านบาท ลดค่าใช้จ่ายประชาชน 436.25 ล้านบาท
จัดตั้งศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาครัฐ 82 แห่ง จัดตั้งศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน 874 แห่ง อบรมผู้ขึ้นทะเบียนไกล่เกลี่ยภาครัฐและภาคประชาชน 3,278 คน
จัดกระบวนการไกล่เกลี่ย รวมถึงจัดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้ครัวเรือนและยุติธรรมพบประชาชน 63 ครั้ง เป้าหมาย 77 จังหวัด ผู้ขอเกลี่ยไกล่ 35,030 ราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 33,991 ราย ลดค่าใช้จ่ายประชาชน 4,410 ล้านบาท ลดต้นทุนภาครัฐ 2.91 ล้านบาท
กระทรวงศึกษาธิการของน.ส.ตรีนุช เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว พรรคพลังประชารัฐ – รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ อาทิ ปรับเพิ่มสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลให้ครูโรงเรียนเอกชน จากคนละไม่เกิน 1 แสนบาท เป็น 1.5 แสนบาทต่อคนต่อปี
แก้หนี้ครู-บุคลากรทางการศึกษา 900,000 คน ยอดหนี้รวม 1.4 ล้านล้านบาท จัดตั้งสถานีแก้หนี้ครูระดับเขตพื้นที่และระดับจังหวัดทั่วประเทศ 558 สถานี
โครงการพาน้องกลับมาเรียน 117,065 คน ปรับอัตราเงินอุดหนุนรายหัวตามความจำเป็นขั้นพื้นฐาน พัฒนาครูผู้สอนคนพิการ 645 คน พัฒนาครูคัดกรอง 500 คน พัฒนาครูโรงเรียนเอกชน 500 คน พัฒนาครูที่สอนนักเรียนพิการโรงเรียนเอกชน 41 โรงเรียน 81 คน จัดการศึกษาเด็กสภาวะยากลำบากในเขตพื้นที่สูงภาคเหนือ 4,789 ทุน
ผลงานพรรคประชาธิปัตย์ของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมรตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หนีไม่พ้นนโยบายประกันรายได้พืชเกษตรหลัก โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2564/65 รอบที่ 1 วงเงิน 88,711.74 ล้านบาท มาตรการคู่ขนาน วงเงิน 6,955.98 ล้านบาท
โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ วงเงิน 1,863.51 ล้านบาท มาตรการคู่ขนาน วงเงิน 45 ล้านบาท โครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน วงเงิน 7,660 ล้านบาท มาตรการคู่ขนาน 309 ล้านบาท
โครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา ประกอบด้วย โครงการสนับสนุนสินเชื่อสถาบันเกษตรกรเพื่อแปรรูปยางพารา วงเงิน 2,980.24 ล้านบาท โครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง 3 ระยะ 46,789 ล้านบาท
โครงการการส่งเสริมการใช้ยางของหน่วยงานภาครัฐ 1.5 ล้านบาท โครงการสนับสนุนสินเชื่อผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ยาง ระยะที่ 2 วงเงินสินเชื่อ 25,000 ล้านบาท
โครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่สถาบันเกษตรกรเพื่อรวบรวมยาง 1,400 ล้านบาท โครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบกิจการไม้ยางและผลิตภัณฑ์ 20,000 ล้านบาท
โครงการพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน ลดภาระค่าครองชีพประชาชน 7,570 ล้านบาท โครงการธงฟ้าราคาประหยัดลดค่าครองชีพประชาชน 3,383 ครั้ง ประชาชนเข้าร่วมงาน 82 ล้านคน ลดภาระค่าครองชีพประชาชน 486 ล้านบาท
โครงการร้านอาหารธงฟ้า ราคาไม่เกิน 35 บาท/จาน/ชาม/ถุง มีร้านค้าเข้าร่วมโครงการ 4,993 ร้าน ลดค่าใช้จ่ายในการซื้ออาหารได้วันละ 2.43 ล้านบาท
ร้านค้าธงฟ้าพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น อนุมัติร้านค้า-เปิดบริการ 128,914 ร้าน ผลการจ่ายเงินสวัสดิการแห่งรัฐให้ร้านค้า 244,783 ล้านบาท
สำหรับพรรคภูมิใจไทย ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นหัวหน้าพรรค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขนโยบายกัญชายังเป็นตัวชูโรง
นโยบายการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและพัฒนานวัตกรรม การเร่งศึกษาวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับกัญชา กัญชง และพืชสมุนไพรเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมทางการแพทย์ เช่น ออกใบรับจดแจ้งการปลูกกัญชา 1.05 ล้านใบ อนุญาตปลูกกัญชา กัญชง 3,430 แห่ง 10.97 ล้านตารางเมตร 180,299 ต้น
การแก้ไขกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ซึ่งได้รับจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ลดเบี้ยปรับ-ค่าธรรมเนียมกรณีผิดนัดชำระเงินคืนร้อยละ 100 ผู้กู้ยืมทุกรายที่ชำระหนี้ปิดบัญชีในครั้งเดียว
ลดเบี้ยปรับ-ค่าธรรมเนียมกรณีผิดนัดชำระเงินคืนร้อยละ 80 ผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดี (ไม่ค้างชำระ) มาตรการลดเงินต้นร้อยละ 5 ผู้กู้ยืมเงินที่ไม่เคยผิดนัดชำระหนี้และชำระหนี้ปิดบัญชีในคราวเดียว
ลดอัตราการคิดดอกเบี้ยปรับกรณีผิดนัดชำระหนี้เหลือร้อยละ 0.5 ต่อปี ผู้กู้ยืมที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีและไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด ลดดอกเบี้ยคงเหลือร้อยละ 0.01 ต่อปี ผู้กู้ยืมที่ไม่เคยผิดนัดชำระหนี้ทุกราย
ยกเลิกการกำหนดให้มีผู้ค้ำประกันตั้งแต่ปีการศึกษา 2564 เป็นต้นไป ชะลอการฟ้องคดี ผู้กู้ยืมที่ผิดชำระหนี้ประจำปี 2563-2565 ยกเว้นคดีที่จะขาดอายุความถึงวันที่ 31 มีนาคม 2566 งดการขายทอดตลาด ทรัพย์สินของผู้กู้ยืมเงิน-ผู้ค้ำประกัน
เป็นอีก 1 นโยบายที่พรรคภูมิใจไทยริเริ่มให้เห็นความเดือดร้อนของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อกับระบบการศึกษาไทยที่ล้มเหลว อย่างไรก็ตามต้องยกเป็นผลงานให้ทุกพรรคในรัฐบาล เนื่องจากลำพังพรรคภูมิใจไทยคงไม่สามารถดำเนินการให้สำเร็จได้
พรรคชาติไทยพัฒนา ของนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โครงการปลูกป่า-ป้องกันไฟป่า ปลูกไปแล้ว 879,309 ไร่ และจะปลูกต่อเนื่องอีก 1.87 ล้านไร่
ดำเนินคดีการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับป่าไม้ 1,602 คดี จับกุมผู้ต้องหา 340 คน เนื้อที่ 19,632.49 ไร่ คดีไม้ของกลาง 1,130 คดี จับกุมผู้ต้องหา 648 คน
ส่งท้ายด้วยพรรคลุงกำนัน หรือ รวมพลัง หรือ พรรคพลังประชาชาติไทยเดิม ที่มีนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
ผลงานที่เป็นรูปธรรมในการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 อาทิ โครงการผลิตบัณฑิตพันธุ์ใหม่ 62,601 คน โครงการเรียนรู้ตลอดชีวิตและพัฒนาทักษะเพื่ออนาคต (Upskill-Reskill) โครงการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย
ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์ผลงานรัฐบาลบิ๊กตู่