“เวิลด์เฟล็กซ์” เปิดเกมส์รุกตลาดต่างประเทศต่อยอดสู่เบอร์หนึ่งของโลก

บริษัท เวิลด์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ WFX เป็นบริษัทลูกที่แตกมาจากแม่ที่ทำธุรกิจยางพาราครบวงจร นั่นคือ บมจ. ไทยรับเบอร์ลาเท็กคซ์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น TRUBB โดย เวิลด์เฟล็กซ์ ดำเนินธุรกิจเป็นเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเส้นด้ายยางยืดชนิดเคลือบแป้งและเส้นด้ายยางยืดชนิดเคลือบซิลิโคนรายใหญ่ติดอันดับ Top 3 ในไทย
โดยมีโรงงานผลิตเส้นด้ายยางยืด ตั้งอยู่ในอ.ปลวกแดง จ. ระยอง ถือเป็นผู้ผลิตสินค้าขั้นกลาง สอดรับกับบริษัทแม่ TRUBB ที่เป็นผู้ผลิตต้นน้ำ โดย TRUBB ถือหุ้น WFX สัดส่วนกว่า 66%ของทุนจดทะเบียน ยิ่งการันตีหุ้นลูกอีกชั้นหนึ่ง ที่สำคัญไปมากกว่านั้น เวิลด์เฟล็กซ์ อยู่ในแวดวงและสั่งสมประสบการณ์ภายใต้ร่มเงาบริษัทแม่จนแตกบริษัทลูกถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 30 ปี

เวิลด์เฟล็กซ์สามารถผลิตเส้นด้ายยางยืดเคลือบแป้ง และเคลือบซิลิโคนได้ทุกขนาดตั้งแต่ 1.ขนาดมาตรฐาน 2.ขนาดใหญ่, 3.ขนาดกลาง, และ 4.ขนาดเล็ก ซึ่งเส้นด้ายยางยืดที่ผลิตจะครอบคลุมทุกประเภทสินค้าตั้งแต่กลุ่มสินค้าคงทน อาทิ เฟอร์นิเจอร์ กลุ่มสินค้าไม่คงทนอายุการใช้งานเฉลี่ย 1-2 ปี อาทิ ขอบกาเกงชั้นใน และกลุ่มสินค้าใช้เพียงครั้งเดียว อาทิ สายยางคล้องหูหน้ากากอนามัย, ยางรัดข้อมือสำหรับถุงมืออุตสาหกรรม เป็นต้น

ทั้งนี้ ภายใต้การนำของหัวเรือใหญ่อย่าง “ณัฐ วงศาสุทธิกุล” กรรมการผู้จัดการ เวิลด์เฟล็กซ์ ได้นำพาบริษัทเข้าสู่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) เมื่อ 23 ธ.ค. 2564 โดยสามารถยืนเหนือราคาจองที่ 7.20 บาทและยืนแกร่งเหนือระดับ 8.00 บาท ท่ามกลางบรรยากาศตลาดหุ้นขาลงทั้งจากสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน และผู้ติดเชื้อโควิดกลับมาเพิ่มขึ้นอีกระลอกในไทย
- เปิดเกมส์รุกบุกตลาดโลก
“ณัฐ” เล่าถึงแผนกลยุทธ์ในการทำตลาดของปีนี้ให้ “สำนักข่าว AEC 10 News” ฟังว่า ที่ผ่านมา “เวิลด์เฟล็กซ์” ได้ดำเนินการเชิงรุกด้วยการเข้าหาลูกค้าด้วยตนเองในต่างประเทศ โดยไปทั้งประเทศจีน ซึ่งบริษัทมีลูกค้าอยู่ถึง 5 มณฑล ซึ่งบริษัทจะมีเอเย่นต์รับผิดชอบในแต่ละพื้นที่ โดยบริษัทเริ่มเปิดตลาดจากฝั่งตะวันออกเข้ามาสู่ตรงกลางมากขึ้น ตามนโยบายของจีนที่ต้องการให้เมืองในภาคกลางเติบโตด้วย
อีกทั้งยังเดินทางไปประเทศอินโดนีเซีย ,ตุรกีซึ่งบริษัทไปเปิดบูธ และได้ออเดอร์จากประเทศอิหร่านรวมถึงอียิปต์มาเป็นจำนวนมาก ขณะที่ล่าสุดได้เดินทางไปสำรวจ และเปิดตลาดที่ประเทศอินเดีย โดยใช้โมเดลที่ประสบความสำเร็จจากจีนไปปรับใช้ในการทำตลาดที่นั่น
อย่างไรก็ดี บริษัทยังมีแผนที่จะเดินทางไปประเทศบราซิลในช่วงปลายปี และต่อเนื่องไปถึงปี 2566 รวมถึงประเทศในแอฟริกา แอฟริกา อเมริกาใต้ ยุโรป เนื่องจากบริษัทเล็งเห็นแล้วว่าตลาดยังเปิดให้เข้าไปทำตลาดได้อยู่ โดยปัจจุบันความต้องการของตลาดโลกอยู่ที่ประมาณ 2 แสนตัน ซึ่งบริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ประมาณ 18-20% แต่จากการเปิดเกมส์รุกบุกตลาดดังกล่าวน่าจะช่วยเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดให้กับบริษัทได้เป็นจำนวนมาก โดยการที่ เวิลด์เฟล็กซ์ อยู่ใน ตลท. ก็จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือในการเข้าหาลูกค้า

“เวิลด์เฟล็กซ์ยังมีแผนกค้นคว้า วิจัย และพัฒนา ที่สามารถผลิตเส้นด้ายยางยืดตาม ความต้องการ” (Make to order) ของลูกค้าได้อีกด้วย โดยกลยุทธ์หลักเจาะตลาดแต่ละประเทศที่สำคัญอีกอย่างก็คือ หากเราสนใจจริงก็จะใช้กลยุทธ์ทางด้านราคาเข้าช่วย แสดงให้เห็นว่าเราสู้ และลูกค้าจะไปบอกต่อ ซึ่งเราจะชนะคู่แข่งเรื่องคุณภาพ และราคา โดยพยายามอธิบายให้เห็นถึงความคุ้มค่า และเน้นการบริการที่ดีให้ลูกค้าได้ประทับใจ”
- ชูจุดเด่นหลากหลายมัดใจลูกค้า

“ณัฐ” บอกอีกว่า จุดเด่นของ “เวิลด์เฟล็กซ์” คือ การมีสินค้าที่หลากหลาย สามารถตอบสนองได้ทุกอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเสื้อผ้าและสิ่งทอ ซึ่งเวิลด์เฟล็กซ์ผลิตเส้นด้ายยางยืดที่มีคุณภาพระดับบน แต่ราคาระดับกลางถึงล่าง อีกทั้งผลิตภัณฑ์ของบริษัทยังถูกนำไปผลิตสินค้าที่มีการใช้ซ้ำ และใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง
อีกทั้งบริษัทยังตั้งอยู่ในชัยภูมิที่เป็นต่อ จากการที่ประเทศไทยมีแหล่งผลิตน้ำยางเป็นจำนวนมาก โดยปัจจุบันบริษัทซื้อวัตถุดิบน้ำยางพารา จากบริษัทแม่ TRUBB สัดส่วน 70% ของจำนวนทั้งหมด นอกเหนือจากไทยรับเบอร์เองแล้ว ยังมี พันธมิตรที่เป็นผู้ผลิตน้ำยางข้นอีกมากกว่า 15 ราย ในประเทศ และยังมีพันธมิตรที่เป็น ผู้ผลิต และจำหน่ายน้ำยางข้นในประเทศเวียดนามอีก จึงเป็นการการันตีได้ว่าเราจะมีวัตถุดิบน้ำยางข้นใช้อยู่ตลอดเวลา
นอกจากนี้ เวิลด์เฟล็กซ์ ยังมีทีมงานฝ่ายขายและการตลาดที่เป็นชาวต่างชาติ สามารถพูดได้หลายภาษา กระจาย 50 ประเทศทั่วโลก ซึ่งจะทำให้พวกเขาสามารถใช้ภาษาท้องถิ่น ช่วยให้เข้าถึงผู้ประกอบการที่เป็น End-user ของบริษัทได้มีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง รวมถึงการให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง แม้ว่าลูกค้าของบริษัทจะอยู่ต่างที่ ต่างเวลากันมากก็ตาม
“บริษัทสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้น( Gross Profit Margin)ให้อยู่ในระดับสูง 18% รวมถึงมีโอกาสพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆตอบสนองลูกค้าได้ไม่หยุด”
- วางเป้าเบอร์หนึ่งของโลก

“ณัฐ” ยังบอกอีกว่า บริษัทมีการเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 3.5 หมื่นตันต่อปี และจะมีการเป็น 4 หมื่นตันต่อปีในช่วงต้นปี 66 หรือประมาณ 10-15% โดยแผนการขยายกำลังการผลิต การขยายส่งออกตลาดใหม่ๆ ทำให้เพิ่มโอกาสการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น และยังทำให้ส่วนแบ่งทางการตลาดของบริษัทเพิ่มขึ้นในระยะ 1-3 ปีข้างหน้า ซึ่งบริษัทมีเป้าหมายจะขึ้นเป็นผู้นำเบอร์หนึ่งให้ได้

“ปัจจุบันทั่วโลกมีผู้ผลิตผลิตยางยืดไม่ถึง 25 ราย การแข่งขันจึงไม่สูงมาก อีกทั้งหากจะมีรายใหม่เข้ามาในอุตสาหกรรมก็เป็นเรื่องที่ยาก เพราะต้องลงทุนสูง และต้องมีองค์ความรู้อย่างมาก โดย ณ เวลานี้ที่มีอยู่ก็จะเป็นบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมมาอย่างยาวนาน เช่น เวิลด์เฟล็กซ์ที่อยู่ในแวดวงมานานกว่า 30 ปี”