“ประชาธิปัตย์” เวอร์ชั่น พีระพันธุ์ รวมไทยสร้างชาติ เจาะไข่แดง ปักษ์ใต้
พรรคประชาธิปัตย์ เลือดไหล (ยัง) ไม่หยุด ล่าสุด นายตรรงค์ สุวรรณคีรี กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค ไขก๊อก จากการเป็นสมาชิกพรรค ปิดฉากใต้ร่มไม้พรรคเก่าแก่ไว้ที่ปีที่ 36
สถานีต่อไปของ นายไตรรงค์ อย่างน้อย 5 พรรค (ใหม่) 1 ในนั้น คือ พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่มี เดอะตุ๋ย-พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค
หากต้นสังกัดใหม่ของ นายไตรรงค์ คือ พรรครวมไทยสร้างชาติ จะเป็นจิ๊กซอตัวสำคัญในการปักธงชัยพื้นที่ภาคใต้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า
พรรครวมไทยสร้างชาติกลายเป็น “ประชาธิปัตย์สาขาสอง” เป็นแหล่งรวมพลของศิษย์เก่าค่ายพระแม่ธรณีบีบมวยผมจำนวนมาก ตั้งแต่หัวหน้าพรรคยันผู้สนับสนุนพรรค
คนแรก หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ-พีระพันธุ์ ลาออกจาก ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ สะสมบารมีในทำเนียบรัฐบาล สวมเสื้ออำนาจ 3 ป. ในตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี หลังจากปราชัยในศึกชิงเก้าอี้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
นายพีระพันธุ์ ชอบทำงานโลดโผน พลิกวิกฤตเป็นโอกาส จากงานเผือกร้อนเป็นผลงานชิ้นโบแดง เช่น ในฐานะเป็น 1 ในคณะผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัทการบินไทย รวมถึงการฟื้นคดีค่าโง่โฮปเวลล์ 3 หมื่นล้านบาท ให้กลับมาเริ่มนับ 1 กันใหม่
คนที่สอง ขิง-เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ คนแรก อดีต ส.ส.กทม.และรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2562 สอบตก
ขิง-เอกนัฏ บุตรชายของนางศรีสกุล พร้อมพันธุ์ ภรรยาคนปัจจุบัน ของ ลุงกำนัน-สุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์
คนที่สาม นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
นายวิทยา อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช 8 สมัย ถูกกระแสลุงตู่ฟีเวอร์ในพื้นที่ภาคใต้ จนทำให้การเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ต้องพ่ายแพ้ ปิดตำนานส่งเสาไฟฟ้าลงก็ชนะ
คนที่สี่ ลูกหมี-ชุมพล จุลใส อดีต ส.ส.ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีตำแหน่งทางการเมืองในพรรครวมไทยสร้างอย่างเป็นทางการ แต่ไปปรากฏตัวต่างกรรมต่างวาระกับนายพีรพันธุ์บ่อยครั้งในการเปิดตัวว่า ผู้สมัคร ส.ส.ภาคใต้
นายชุมพล ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี หลังศาลอาญาตัดสินจำคุกและถูกคุมขังใน คดีชุมนุมขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทำให้สิ้นสุดการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์อัตโนมัติ ต่อมาศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นสภาพการเป็น ส.ส.
นอกหัวหน้าพรรค-เลขาธิการพรรคและรองหัวหน้าพรรคแล้ว ยังมีกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ว่าที่ผู้สมัครลง ส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งหน้าที่เคยกินข้าวหม้อเดียวที่พรรคประชาธิปัตย์
ตั้งแต่ นายดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ลำดับที่ 25 หากไม่ลาออกจะได้ตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อมาเชยชม
ตั้งแต่ “ดวงฤทธิ์” ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้ดิบได้ดี มีตำแหน่งแห่งที่ในตำแหน่งผู้บริหารพรรคการเมือง บนเก้าเลขาธิการพรรคลุงกำนัน-รวมพลังประชาชาติไทย หรือ พรรครวมพลังในปัจจุบัน
นายชื่นชอบ คงอุดม กก.บห. อดีต ส.ส.กทมพรรคประชาธิปัตย์ ลูกชายชัช เตาปูน-ชื่นชอบกับนายพีระพันธุ์ ตั้งแต่สมัยอยู่ในพรรคประชาธิปัตย์ และชักชวนนายชื่นชอบ ให้มามีบทบาทในพรรคพลังประชารัฐ
ตั้งแต่สมัยที่นายพีระพันธุ์ยังรับตำแหน่งที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แต่ก็ต้องพับแผนหลังจากเจออิทธิฤทธิ์เจ้าแม่บ้านป่ารอยต่อ
นายเกรียงยศ สุดลาภา กก.บห. และนายทะเบียนพรรค อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 68 พรรคประชาธิปัตย์
ช่วงบั้นปลายชีวิตทางการเมืองในรั้วประชาธิปัตย์ ของนายเกรียงยศ ยังได้รับการปูนบำเน็จความดีความชอบจากรัฐบาลคณะรักษาความแห่งชาติ (คสช.) อย่างมาก
ทั้งการดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ) ด้านการปกครองท้องถิ่น สปท.
ในยุคที่ บิ๊กวิน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นายเกรียงยศ ยังได้รับการแต่งตั้งเป็นรองผู้ว่ากทม.
นายสามารถ มะลูลีม กก.บห. อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ และ คนสุดท้าย แต่ไม่ท้ายสุด นพ.ปรีชา มุสิกุล กก.บห. อดีต ส.ส.กำแพงเพชร พรรคประชาธิปัตย์
ไม่ใช่เฉพาะหัวหน้าพรรค-เลขาธิการพรรค-กก.บห.พรรคจะเป็นคนเก่า-คนแก่ของพรรคประชาธิปัตย์ แต่รวมไปถึงพื้นที่ภาคใต้หลายจังหวัดที่เคยเป็นฐานที่มั่นของพรรคประชาธิปัตย์กำลังจะถูกเทคโอเวอร์ไปด้วย
ยกตัวอย่างเช่น จังหวัดชุมพร พรรครวมไทยสร้างชาติจะส่ง พี่ชายลูกหมี-นายสุพล จุลใส รวมถึงนายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร กก.บห. ส่งในนามบ้านใหญ่แห่งพัทลุง และจะเป็นทางเชื่อมสมาชิกในครอบครัวที่ยังอยู่กับประชาธิปัตย์
โดยเฉพาะจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ได้ นายพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี ยก สจ.มาเกือบ 20 เขต 40 ชีวติ มาล่มหัวจมท้ายกับพรรครวมไทยสร้างชาติในการเมืองระดับชาติ
ชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ ชื่อพรรคเดิม “พรรคแรมโบ้” ก่อตั้งขึ้นมาจากคำพูดประโยคหนึ่งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่สะดุดหู
นายพีระพันธุ์-ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี จึงให้แรมโบ้-เสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีขณะนั้น ไปจดชื่อพรรคไว้ก่อน เพื่อไม่ให้คนอื่นแย่งเอาไปตั้งชื่อพรรคได้
การเปิดตัวพรรครวมไทยสร้างชาติในตอนแรก ถูกมองว่าเป็นพรรคนั่งร้านทหาร เพื่อสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีต่ออีกสมัย
ขณะเดียวกันยังเป็นพรรคคู่ขนานกับพรรคพลังประชารัฐ เพราะสถานการณ์การเมืองในช่วงนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ถูกรุกไล่อย่างหนักในสภาจาก ร.อ.ธรรมนัส พหรมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐขณะนั้น
ตามคำให้สัมภาษณ์ของแรมโบ้ นายเสกสกล ผู้ก่อตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติว่า พล.อ.ประยุทธ์ถูก “บีบไข่” และจะเป็นพรรคคู่ขนาน หรือ พรรคพี่-พรรคน้องกับพรรคพลังประชารัฐ
แม้นายพีระพันธุ์จะปฏิเสธในทุกครั้งว่า ไม่ใช่ประชาธิปัตย์สาขาสอง แต่วันนี้จากบุคลากร-คีย์แมนสำคัญของพรรครวมไทยสร้างชาติและอัตลักษณ์-ยุทธศาสตร์การปักธงในพื้นที่ภาคใต้คงปฏิเสธได้ยาก
เป็นพรรคประชาธิปัตย์สาขาสอง เวอร์ชั่น พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค